อากา ข่าน ที่ 3  เป็น ลูกคนที่ 3 จากภรรยาคนที่ 3 ของ อากา ข่าน ที่ 2   และเนื่องจากบรรดาพี่ชายต่างมารดาที่เกิดจากภรรยาคนที่ 1 และ 2 ต่างก็มาด่วนตายจากไปก่อนทั้งสิ้น  รวมถึงพี่ชายร่วมสายเลือดของเขาก็จากไปตั้งแต่ยังเป็นทารก

ทำให้ อากา ข่าน ที่ 3 ต้องรับตำแหน่งอิหม่ามคนที่ 48 ของกลุ่มนิซาริ กลุ่มย่อยอิสมายลี (NAZARI ISMAILI) ของศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ต่อจากบิดาของเขาที่เสียชีวิตไป  ในขณะที่เขาอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้นเอง

(อากา ข่าน ที่ 3 – ภาพจากนิตยสาร HORUS ของอียิปต์ แอร์)

พูดถึงเรื่องเงินทองทรัพย์สมบัติแล้ว  อากา ข่าน ที่ 3 ถือว่าอยู่ในระดับมหาเศรษฐีคนหนึ่งของโลก

เขาหลงใหลในกีฬาม้าแข่งอย่างเข้ากระดูก  เขาเป็นเจ้าของม้าแข่งสายพันธุ์เยี่ยมๆหลายตัว  รวมทั้ง 5 ม้าที่ชนะการแข่งขันถ้วยดาร์บี้ซึ่งถือว่าเป็นถ้วยที่มีเกียรติสูงสุดของอังกฤษอีกด้วย   ยังไม่นับรวมม้าอื่นๆที่ได้รางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันจากหลายแห่งอีก 

มีบันทึกบอกว่า เขาเคยถวายม้าแข่งตัวหนึ่งให้แก่สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษด้วยซ้ำ

เรื่องราวของอากา ข่าน กับ เมืองอัสวานเริ่มต้นเมื่อปีค.ศ. 1954 หรือปีพ.ศ. 2497  ขณะที่เขามีอายุ 77 ปี  

ตอนนั้น  เขามีอาการป่วยด้วยโรครูมาติซึ่ม  มีอาการปวดกระดูกอย่างรุนแรง   เข้าใจว่า  เขาคงจะไปรักษากับหมอชื่อดังทั้งหลายมาหมดแล้ว  แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น

จนกระทั่ง  มีบางคนแนะนำให้มาพักผ่อนที่เมืองอัสวาน ของอียิปต์ดู   เพราะเป็นเมืองที่มีอากาศแห้ง  และอุณหภูมิกำลังพอเหมาะโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว

(เบกุม ออม ฮาบิเบห์ ภรรยาคนที่ 4 ของ อากา ข่าน – ภาพจากนิตยสาร HORUS ของสายการบินอียิปต์แอร์)

อากา ข่าน ก็เดินทางมาที่อัสวานพร้อมกับ เบกุม ออม ฮาบิเบห์(BEGUM OM HABIBEH) ภรรยาคนที่ 4 ที่เป็นชาวสวิสฯ (เบกุม เป็นคำที่ใช้เรียกผู้หญิงมุสลิมที่มีสถานะทางสังคมสูงๆ)  และพักอยู่ที่โรงแรมTHE OLD CATARACT ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่สร้างในสมัยอังกฤษปกครองอียิปต์  ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไนล์  

(โรงแรม THE OLD CATARACT)

เข้าใจว่า อาการของอากา ข่าน คงจะดีขึ้นเมื่อมาอาศัยอยู่ที่นี่   เขาจึงเดินทางมาพักฟื้นที่นี่ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี  และ มีความรักประทับใจต่อเมืองอัสวานเป็นอย่างยิ่ง

และเมื่อมองจากระเบียงของห้องพักโรงแรม  เขาก็ได้เห็นภูเขาที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามของแม่น้ำ   และเกิดความประทับใจกับเนินเขาลูกนี้เป็นอย่างยิ่ง

เขาตัดสินใจซื้อภูเขาลูกนี้เอาไว้ เพื่อสร้างสุสานให้แก่ตนเอง

หลังจากนั้นอีก 3 ปี คือปีค.ศ. 1957  อากา ข่านก็เสียชีวิต  ภรรยาคนที่ 4 ของเขาก็จัดการทุกอย่างตามที่เขาประสงค์   เธอจัดสร้าง มอสโซเลี่ยม ขึ้นบนยอดเขา  และสร้างบ้านพักของตนเองเอาไว้ที่ตรงตีนเขาริมแม่น้ำไนล์

ทุกเช้า  เธอจะต้องเอาดอกกุหลายสีแดง 1 ดอกที่ปลูกในสวนในบ้านของเธอที่อยู่ตรงตีนเขาขึ้นไปวางที่หน้าหลุมฝังศพของสามีของเธอ โดยไม่ขาด   แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่เธอไม่ได้มาพักที่เมืองอัสวาน

(มอสโซเลี่ยมของ อากา ข่าน และ ภรรยาของเขา)

เบกุม ออม ฮาบิเบห์ เสียชีวิตไปเมื่อปีค.ศ. 2000 ในประเทศฝรั่งเศส  ศพของเธอถูกนำไปฝังข้างๆศพของสามีของเธอ ซึ่งเธอจะอยู่เคียงข้างสามีของเธอไปตราบนิรันดร์

แม้ว่า  เราจะขึ้นไปบนมอสโซเลียม ของอากา ข่านไม่ได้แล้ว   แต่ทัวร์ของไวท์ เอเลแฟนท์  ทราเวล จะพานักท่องเที่ยวล่องเรือใบผ่านมอสโซเลียม และ โรงแรม THE OLD CATARACT  และรับฟังเรื่องราวของ อากา ข่าน และ โรงแรมอันเป็นที่มาของนิยายเรื่อง DEATH ON THE NILE ของ อะกาธา คริสตี้

ท่านผู้อ่านที่สนใจจะเดินทางเจาะลึกอียิปต์กับผม และ ไวท์ เอเลแฟนท์ ทราเวล เอเยนซี่ ซึ่งออกเดินทางเป็นซีรี่ส์ทัวร์ทุกเดือน  ใกล้ที่สุด  10 – 19 เมษายน  ติดต่อ 02 651 6900 หรือ 088 578 6666 หรือ ID  Line 140924978

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

เสรษฐวิทย์  ชีรวินิจ