พระราชวังแคทเธอรีน ผ่านมือของผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดินรัสเซียมาหลายคน ผ่านการปรับปรุงตกแต่งมาหลายต่อหายครั้ง จนรูปโฉมทั้งภายนอกและภายในเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เริ่มจากเป็นพระราชวังอาคารหลังเดียว แล้วค่อยๆต่อเติมขยายปีกออกไป
และมีการเปลี่ยนโฉมหน้าการตกแต่งภายในเสมอมาตามรสนิยมของผู้เป็นเจ้าของ
อย่างเช่น ในสมัยของจักรพรรดินีแคทเธอรีน ที่ 2 พระนางได้ปรับปรุงห้องหลายห้องให้เป็นศิลปะสไตล์ นีโอ คลาสสิค เป็นต้น
(ห้องที่ถูกดัดแปลงเป็นศิลปะแบบ นีโอ คลาสสิค โดย จักรพรรดินี แคทเธอรีนที่ 2)
แต่ห้องหนึ่งที่ไม่เคยถูกดัดแปลงเปลี่ยนโฉมเลยก็คือ ห้องอัมพัน
เรื่อยมาจนกระทั่งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1939 – 1945 กองทัพของรัสเซีย อยู่ฝ่ายสัมพันธมิตร ในขณะที่เยอรมันอยู่ฝ่ายตรงข้าม
วันที่ 8 กันยายน ปีค.ศ. 1941 กองทัพนาซีเยอรมันยกทัพหมายจะยึดครองนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อปิดโอกาสไม่ให้รัสเซียตลบหลังตัวเองได้
แรกทีเดียว กองทัพเยอรมันคิดว่า น่าจะยึดเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ถึงขนาดจองโรงแรม ASTORIA ที่อยู่ใจกลางเมืองเพื่อเตรียมเปิดแชมเปญจัดงานเฉลิมฉลองชัยชนะในคืนนั้นเลย
แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจกันอย่างแข็งขันของชาวเมือง ที่จะพยายามต้านทานกองทัพนาซีเยอรมันเอาไว้อย่างถึงที่สุด กองทัพเยอรมันจึงไม่อาจยกทัพผ่านเข้าประตูเมืองได้
ทัพของเยอรมันต้องล้อมเมืองอยู่นานถึง 872 วัน โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย
วันที่ 27 มกราคม ปีค.ศ. 1944 ซึ่งเป็นช่วงท้ายของสงคราม เยอรมันตัดสินใจถอนทหารออกไปเพราะไม่อาจต้านทานความร้ายกาจของสภาพอากาศที่หนาวเหน็บได้
(ทางขึ้นพระราชวังแคทเธอรีน)
ตลอดเวลาของการล้อมเมือง กองทัพของเยอรมันได้ใช้พระราชวังแคทเธอรีน อยู่ทางใต้ของเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และยึดพระราชวังปีเตอร์ฮ๊อฟ ที่อยู่ทางเหนือของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นฐานบัญชาการ
(พระราชวังปีเตอร์ฮ๊อฟ ของพระเจ้าปีเตอร์ - ภาพจากวิกิพีเดีย)
เมื่อจำต้องถอนทหารออกไป กองทัพนาซีก็ระเบิดพระราชวังทั้งสองแห่งทิ้งไปอย่างไม่ใยดี จนแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิมเลย
โชคดี ที่รัสเซียรู้ล่วงหน้ามาตั้งแต่ก่อนที่เยอรมันจะมายึดพระราชวังทั้งสอง จึงได้ขนเอาทรัพย์สมบัติ และ สิ่งของมีค่า ประเภทวัตถุโบราณ และ เครื่องตกแต่งประดับประดาต่างๆที่สามารถถอดออกไปได้ ส่งไปเก็บในไซบีเรียเสียก่อน
แต่ก็เป็นไปอย่างฉุกละหุก และ ไม่สามารถขนไปได้ทั้งหมด
ในระหว่างการขนย้ายนั่นเอง ดูเหมือนว่า แผ่นผนังวอลล์เปเปอร์ ที่ทำด้วยอัมพัน ได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
ครั้นสงครามสงบลง รัสเซียก็ยังไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะทำการบูรณะโบราณสถานต่างๆ เพราะเป็นช่วงที่ประเทศยังยากจน ตราบจนกระทั่งช่วงปลายของศตวรรษที่ 20 รัสเซียเริ่มเปิดประเทศอีกครั้ง
นักท่องเที่ยวไหลทะลักเข้าไปในรัสเซีย ทำให้โบราณสถานต่างๆเหล่านี้เริ่มมีความหมายต่อนักท่องเที่ยว และ มีความหมายในการทำเงินให้แก่ประเทศ รัสเซียจึงต้องเร่งทำการบูรณะ
เมื่อบูรณะพระราชวังเหล่านี้เสร็จเรียบร้อย ปัญหาก็คือ แผ่นวอลล์เปเปอร์ที่ทำด้วยอัมพันจะบูรณะกันอย่างไรให้เหมือนของเดิมให้มากที่สุด
ภาพถ่ายในอดีตของผนังห้องนี้ ก็มีแต่เพียงภาพขาวดำเท่านั้น ท่านผู้อ่านคิดว่า เขาจะบูรณะอย่างไรครับ
(ภาพในห้องอัมพัน-ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
เนื่องจากอัมพันมีหลากหลายสี ทั้งเหลืองทองคำ เหลืองซีด เหลืองเข้ม และ อีกมากมาย เขาก็เอาภาพขาวดำเหล่านี้ มาเป็นต้นแบบในการเลือกขนาดและเฉดสีให้ใกล้เคียงที่สุด
โดยยึดแนวคิดว่า ถ้าเป็นอัมพันสีเหลืองเข้ม ภาพขาวดำจะออกมาในทางสีคล้ำกว่าอัมพันสีเหลืองอ่อน
(ผนังวอลล์ เปเปอร์ทำด้วยอัมพัน ในห้องอัมพัน - ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
เมื่อนำอัมพันมาจัดวางให้ตรงตามภาพถ่ายขาวดำแล้ว เขาก็จะถ่ายรูปแผ่นอัมพันที่จัดเรียงเรียบร้อยแล้วด้วยฟิล์ม์ขาวดำ แล้วเอาภาพขาวดำที่ว่านี้ ไปเทียบกับภาพขาวดำที่ถ่ายไว้ในอดีต ว่ารูปร่าง และ เฉดสี ใกล้เคียงกับของเดิมแล้วหรือยัง
เป็นงานที่ค่อนข้างจะต้องใช้ความใจเย็น และ ลองผิดลองถูกอย่างอุตสาหะอย่างยิ่ง
ในที่สุด ห้องอัมพันนี้ก็บูรณะเสร็จสมบูรณ์ แม้ว่าจะเสร็จหลังการบูรณะพระราชวังแคทเธอรีน อยู่นานหลายปี
เป็นห้องที่มีคุณค่าความสวยงาม และ คุณค่าของการบูรณะฟื้นฟู
ปัจจุบัน เขาเปิดให้เข้าชมแล้ว แต่มีข้อแม้ว่า ห้ามถ่ายรูปโดยเด็ดขาด เข้าใจว่า คงจะเกรงว่า หากถ่ายรูปด้วยแฟลช์แล้ว จะทำให้สีของอัมพันเพี้ยนไปจากเดิม
คุ้มค่าน่าดูอย่างยิ่งครับ
สำหรับท่านที่สนใจจะเดินทางท่องเที่ยวเจาะลึกอียิปต์ แบบสบายๆ 10 วัน 7 คืน ระหว่างวันที่ 10 – 19 ตุลาคมนี้ โดยผมจะเป็นผู้บรรยายชมเอง สามารถสอบถามรายละเอียด และสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 026516900 หรือ โทร 088578 6666 หรือ LINE ID 14092498 ครับ
หรือจะเป็นเดือนถัดๆไปก็ได้ครับ เพราะเรามีทัวร์อียิปต์ออกทุกเดือน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี