วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ออนไลน์ / ราชดำเนินอเวนิว
ราชดำเนินอเวนิว

ราชดำเนินอเวนิว

โดย...
วันพฤหัสบดี ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 19.04 น.
ทางรอดของไทย

ดูทั้งหมด

  •  

ผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างลงความเห็นตรงกันว่า วิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ จะนำไปสู่วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่หนักหน่วงรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลก

ธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ ประเมินว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจโลกพังเสียหายเป็นวงกว้างที่สุดในรอบ 150 ปี นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1870 ซึ่งเป็นปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ที่พลังงานไฟฟ้าและการผลิตแบบ mass production ทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวไปขนานใหญ่


ธนาคารโลก ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้จะติดลบประมาณร้อยละ 5.2 และอาจทำให้ประชากรโลก 70-100 ล้านคน เข้าสู่ภาวะยากจนสุดขีด ซึ่งมากกว่าตัวเลข 60 ล้านคน ที่เคยประเมินไว้

ส่วนในปีพ.ศ.2564 เเม้จะประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะเริ่มกระเตื้องขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 ของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะเป็นการขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเปลี่ยนให้วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้กลายเป็นวิกฤตทางการเงิน เนื่องจากจะมีกระแสการผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้นตามมา

ในประเทศไทยเรา นักเศรษฐศาสตร์หลายท่านกล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ จะรุนแรงกว่าวิกฤตต้มยำกุ้งในปี พ.ศ. 2540 บางท่านยังเห็นว่าอาจรุนแรงเท่าหรือมากกว่าวิกฤติเศรษฐกิจถดถอยในปี พ.ศ. 2473ด้วยซ้ำ

 เค้าลางของความรุนแรงจากวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้ เห็นได้จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สั่งให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่าย "เงินปันผลระหว่างกาล" และ "งดซื้อหุ้นคืน"  เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงมาก จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจไทย และยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่ และจะจบอย่างไร

ก่อนธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีคำสั่งถึงธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวข้างต้นนี้ นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะครบวาระแรกของการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2563 ก็แสดงความประสงค์จะไม่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคัดเลือกสำหรับการดำรงตำแหน่งในวาระที่ 2 ด้วยเหตุผลด้านครอบครัว

หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า นายวิรไทคงประเมินสถานการณ์ความยากลำบากล่วงหน้าไว้แล้ว และคงไม่ต้องการเผชิญชะตากรรมเหมือนอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยในยุควิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี พ.ศ. 2540

ถ้าไม่นับการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีทางเศรษฐกิจการเงินของกลุ่มก๊วนการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ อันเป็นพรรคแกนนำในรัฐบาลปรากฏการณ์จากฟากฝั่งธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีหน้าที่เสริมสร้างสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจการเงินของประเทศให้มีเสถียรภาพ และมีการพัฒนาที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืนและทั่วถึงนี้ เกิดขึ้นพร้อมกัน และเป็นไปในทางเดียวกันกับปราฏการณ์จากฟากฝั่งคณะรัฐมนตรีทางเศรษฐกิจการเงิน ที่มีหน้าที่บริหารระบบเศรษฐกิจการเงินของประเทศ

ในขณะที่นายวิรไทย ไม่ประสงค์จะดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยต่อ รัฐบาลก็ยังไม่สามารถฟอร์มทีมเศรษฐกิจใหม่ได้แม้จะมีกลุ่มที่กระเหี้ยนกระหือรือขับไล่ทีมเศรษฐกิจของ ดร. สมคิด ออกไป และแม้จะมีการโยนหินถามทางไปหลายครั้ง เพราะไม่มีใครกล้าเข้ามารับตำแหน่ง ไม่มีใครอยากตกเป็นเป้าโจมตี และไม่มีใครอยากเข้ามาแก้โจทย์ยากๆ ในภาวะเศรษฐกิจขาลงอย่างหนักเช่นทุกวันนี้

เรื่องหาคนดีมีฝีมือมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ เรื่องหนึ่ง

เรื่องวิสัยทัศน์และจุดยืนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน

ที่ผ่านมา เราไม่เคยหลุดออกจากกรอบการแก้ไขปัญหาแบบทุนนิยม เกิดวิกฤตจากระบอบทุนนิยม เราก็ยังวิ่งพล่านแก้ไขปัญหาอยู่ในระบอบของมัน

เราวัดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ที่มาจากความเจริญเติบโตของนายทุนไม่กี่ตระกูลไม่ใช่จากชีวิตจริงของประชาชน

ด้วยเหตุนี้ เราจึงหวั่นวิตกเป็นอย่างยิ่งเรื่องตัวเลขการส่งออกและการท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่หายไป ถึงขั้นอยากจะเปิดประเทศ เสนอให้รีบมีTravel Bubble โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามา 10 ล้านคน สร้างรายได้ 1.23 ล้านล้านบาท

โดยมิคิดว่า เวลานี้ เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศของเราได้แล้ว แต่ต่างประเทศที่จะไปทำ Travel Bubbleไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ หรือ ฮ่องกง ยังควบคุมการแพร่ระบาดไม่ได้

และโดยมิคิดว่า แม้จะมีมาตรการควบคุมดูแลไม่ให้นักทองเที่ยวเหล่านั้นเข้ามาแพร่เชื้อ แต่ในทางปฏิบัติจริง มั่นใจหรือว่าจะควบคุมได้ ?

ในประเทศเรา ระเบียบก็อย่างหนึ่ง การปฏิบัติก็อีกอย่างหนึ่ง มีให้เห็นทั่วไป โดยเฉพาะอะไรที่ใช้เงินซื้อได้

ทางรอดของเราในเวลานี้ คือ แก้ไขปัญหาในแบบของเรา อย่าไปพึ่งพิงระบอบทุนนิยมให้มากเกินไป

เราพร่ำพูดคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 แต่เวลาเราบริหารหรือแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ เราไม่เคยเอาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เอาแต่วิ่งพล่านอยู่ในกับดักของระบอบทุนนิยม ปากพูดถึงประชาชน แต่ทำเพื่อผลประโยชน์ของนายทุน

ในภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้ ทางรอดของไทย คือ ปิดประเทศ แต่เปิดเมือง ส่งเสริมผลักดันการประกอบอาชีพ ประกอบธุรกิจของคนไทยในประเทศให้ทั่วถึงและคึกคัก ให้เศรษฐกิจหมุนเวียนอีกครั้ง ให้ประชาชนชั้นกลาง ชั้นล่าง สามารถพึ่งตนเองได้จากภาคเกษตรอุตสาหกรรม การค้า และการท่องเที่ยวภายในกันเอง ไม่ต้องไปห่วงนายทุนใหญ่ ไม่ต้องไปห่วงการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ

คน 15 ล้านคนที่รับเงินเยียวยาเดือนละ 5 พันบาท ต้องกลับมาทำงานของเขาให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นงานเดิม หรืองานใหม่ รวมทั้งงานอิสระ และงานในชนบทซึ่งประเทศเรามีเงื่อนไขที่ดีกว่าชาติอื่นๆ มากมาย หากรัฐบาลส่งเสริมให้ถึงมือประชาชนอย่างจริงจัง

ประชาชนไม่ต้องการอะไรมาก ขอให้เขามีงานทำ มีเงินใช้ตามสมควร ไม่มีใครไปเอารัดเอาเปรียบ ข่มเหงรังแกเขา เขาก็อยู่ของเขาได้

แค่นี้แหละ ทำได้ไหม ?

ณรงค์ฤทธิ์ ศรีรัตโนภาส

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:07 น. กทม.จับมือ สปสช.จัดคาราวานตรวจสุขภาพฟรี 21 ธ.ค.นี้ ให้กลุ่มเปราะบางชุมชนกีบหมู
21:59 น. หมิว สิริลภัส เล่าอุทาหรณ์ เกือบเสียแม่เพราะสแกมเมอร์หลอกสูญ1.2ล้าน
21:53 น. 'พระราชินี'ทอดพระเนตรการแข่งขันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง รอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมชาย ระหว่างไทย-อินโดนีเซีย
21:37 น. ‘อภิสิทธิ์’ปลื้ม! คนไทยตอบรับ‘ประเทศไทยจะไม่ทน’ล้นหลาม
21:14 น. 'ศุลกากรภาคที่ 2'ยึด'กระเป๋า-รองเท้าละเมิดเครื่องหมายการค้า-ไวน์'มูลค่าความเสียหายกว่า 65 ล้าน
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568
เสี่ยงเป็น‘นักรบรับจ้าง’! ห้วงธ.ค.‘ตม.’ปฏิเสธเข้าเมือง 128 ต่างชาติ-78 กัมพูชา
ทรัมป์ สั่งแบนเพิ่ม ห้ามพลเมือง 5 ประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ มีผล 1 ม.ค.ปีหน้า
เปิดใจมรสุมชีวิต! อาจารย์อดัม เล่าทุกอย่างหลังชีวิตพลิกผันครั้งใหญ่
‘อนุทิน’เคลียร์ทุกคำถาม ลั่นใจไม่ถึงพอเอา‘อธิปไตย-ทหาร-ปชช.’แลกคะแนนนิยม
ดูทั้งหมด
อว.ชู ‘วิจัยติดดิน กินได้’ ทำโคราชเป็น ‘ศูนย์กลางนวัตกรรม’
ขัดแย้งไทย-กัมพูชา หาข้อสรุปได้ก่อนปีใหม่
‘ทำไมด้อมส้มยังโง่อยู่’
‘เนิน 350’สมรภูมิสุดท้ายเผด็จศึกเขมร
ข้อตกลงสร้างสันติภาพ ไทย-กัมพูชา
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หมิว สิริลภัส เล่าอุทาหรณ์ เกือบเสียแม่เพราะสแกมเมอร์หลอกสูญ1.2ล้าน

‘อภิสิทธิ์’ปลื้ม! คนไทยตอบรับ‘ประเทศไทยจะไม่ทน’ล้นหลาม

เอาคะแนนผมไปเลย! 'น็อต วรฤทธิ์'โพสต์ตัดสินใจแล้ว จนคนแห่คอมเมนต์สนั่น

ญี่ปุ่นคาดการณ์ แผ่นดินไหวใหญ่ในอนาคตอาจคร่า18,000ชีวิตในโตเกียว

แตกตื่นทั้งหมู่บ้าน! โคมยักษ์ปริศนาติดธงพม่าร่วงกลางสุรินทร์

ทุกข์ซ้ำ!ผู้อพยพในบุรีรัมย์เครียดหนัก รายได้ไม่มี โดนไฟแนนซ์โทร.ทวงค่างวดรถ

  • Breaking News
  • กทม.จับมือ สปสช.จัดคาราวานตรวจสุขภาพฟรี 21 ธ.ค.นี้ ให้กลุ่มเปราะบางชุมชนกีบหมู กทม.จับมือ สปสช.จัดคาราวานตรวจสุขภาพฟรี 21 ธ.ค.นี้ ให้กลุ่มเปราะบางชุมชนกีบหมู
  • หมิว สิริลภัส เล่าอุทาหรณ์ เกือบเสียแม่เพราะสแกมเมอร์หลอกสูญ1.2ล้าน หมิว สิริลภัส เล่าอุทาหรณ์ เกือบเสียแม่เพราะสแกมเมอร์หลอกสูญ1.2ล้าน
  • \'พระราชินี\'ทอดพระเนตรการแข่งขันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง รอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมชาย ระหว่างไทย-อินโดนีเซีย 'พระราชินี'ทอดพระเนตรการแข่งขันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง รอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมชาย ระหว่างไทย-อินโดนีเซีย
  • ‘อภิสิทธิ์’ปลื้ม! คนไทยตอบรับ‘ประเทศไทยจะไม่ทน’ล้นหลาม ‘อภิสิทธิ์’ปลื้ม! คนไทยตอบรับ‘ประเทศไทยจะไม่ทน’ล้นหลาม
  • \'ศุลกากรภาคที่ 2\'ยึด\'กระเป๋า-รองเท้าละเมิดเครื่องหมายการค้า-ไวน์\'มูลค่าความเสียหายกว่า 65 ล้าน 'ศุลกากรภาคที่ 2'ยึด'กระเป๋า-รองเท้าละเมิดเครื่องหมายการค้า-ไวน์'มูลค่าความเสียหายกว่า 65 ล้าน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เกียรติยศ ศักดิ์ศรีของประเทศชาติ !

เกียรติยศ ศักดิ์ศรีของประเทศชาติ !

10 เม.ย. 2567

เกรงใจประชาชนบ้าง?

เกรงใจประชาชนบ้าง?

3 เม.ย. 2567

มิติใหม่ในการกำหนดค่าแรง

มิติใหม่ในการกำหนดค่าแรง

27 มี.ค. 2567

ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

20 มี.ค. 2567

แม้ดอกไม้จะถูกตัดหมดไป ฤดูใบไม้ผลิก็ยังจะมาถึง

แม้ดอกไม้จะถูกตัดหมดไป ฤดูใบไม้ผลิก็ยังจะมาถึง

14 มี.ค. 2567

ระหว่าง เศรษฐา   กับ เศรษฐพุฒิ   !

ระหว่าง เศรษฐา กับ เศรษฐพุฒิ !

6 มี.ค. 2567

จุดเริ่มของการปฏิรูปตำรวจ!

จุดเริ่มของการปฏิรูปตำรวจ!

28 ก.พ. 2567

บุรพกษัตริย์และบรรพชนจ้องมองอยู่ !

บุรพกษัตริย์และบรรพชนจ้องมองอยู่ !

21 ก.พ. 2567

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved