แม้โปรโมเตอร์ใหญ่อย่าง “เฮียทรงชัย รัตนสุบรรณ” จะยังไม่ได้กำหนดวัน “ศึกโลกันตร์” เพื่อชิงตำแหน่ง “แชมป์ผู้ว่าฯกทม.”

แต่ดูเหมือน เสียงปี่ เสียงกลอง และเสียงฉิ่งฉับของกองเชียร์จาก “นักชก” ทุกค่ายต่างดังกระหึ่มขึ้นแล้วอย่างคึกคัก

“ค่ายมวยอิสระ” โดยมีพรรคการเมืองค่ายสีแดงถือหางอยู่ห่างๆ ได้แก่ “ดร.ชัช” เจ้าของฉายา “บุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล” หรือที่ “คอหนังประเภทมนุษย์กลายพันธุ์” ตั้งให้ท่านดอกเตอร์ด้วยฉายา “มนุษย์เขียว
ผู้ทรงพลัง” ซึ่งได้ประกาศมายาวนานแล้วว่า “จะขึ้นเวทีมวยกระชากเข็มขัดแชมป์ผู้ว่าฯกทม.” ในรายการ
“ศึกโลกันตร์” มาตั้งแต่ไก่โห่

“ส่วนค่ายมวยพรรคสีฟ้า” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ค่ายมวยแม่พระธรณีบีบมวยผม” ก็ได้เปิดตัว “ดร.เอ้”
ที่ถูกแฟนๆ ตั้งฉายาเป็น “ลูกศิษย์หลานไอน์สไตน์” ผู้ประกาศเสียงดังมาแต่ไกล “เปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้ไฉไล เราทำได้” โดยมีกองเชียร์ส่งเสียง “เฮลั่น”

ในขณะที่ “ค่ายมวยพรรคหกเหลี่ยม” หลังจากลังเลมานาน จู่ๆ ก็ “ตีฆ้องร้องป่าว” จะส่ง “ผู้ว่าหมูป่าแห่งถ้ำนางนอน” นักบริหารวิสัยทัศน์ไกล และนักแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามืออาชีพ มาเป็น “นักมวยขึ้นเวทีชิงแชมป์ผู้ว่าฯกทม.” ใน “ศึกโลกันตร์” ที่กำลังจะมาถึง

แต่แล้ว “ผู้ว่าหมูป่า” ก็ได้ออกมาประกาศว่า “ท่านขาดคุณสมบัติที่จะยื่นใบสมัคร” เพราะมีทะเบียนบ้านอยู่ปทุมธานี

ในขณะที่กูรูทางการเมืองกลับเผยว่า “ผู้ว่าหมูป่า” มีสไตล์การทำงานที่ตรงไปตรงมา จนอาจกลายเป็นปัญหาในการประสานงานกับฝ่ายการเมือง จึงประกาศจุดยืน“ไม่ขอขึ้นเวทีชิงแชมป์”

กูรูทางการเมืองยังสรุปอีกว่า ถ้ามีการชิงชัยระหว่าง “3 ท่านดังกล่าว” ก็จะเป็นการ “ลุ้น” ที่คนกทม.ตัดสินใจยากอย่างยิ่ง เพราะจะเข้าโหมด “รักพี่เสียดายน้อง”

โดยทั้ง 3 ท่านต่างจบวิศวะ และเป็นนักบริหารระดับมืออาชีพ เพราะ “ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.” ครั้งนี้ กูรู
ทางการเมือง “ฟันธง” ว่า ชาวบางกอกเกี้ยน “ต้องการเลือกผู้บริหารมืออาชีพ มากกว่าเลือกนักการเมือง”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม