นามเลื่องลือ แต่น้อยคนที่รู้ถึง โฉมหน้า โดยเฉพาะนักเขียนไทย เป็นเรื่องยาก กับการก้าวหน้า ชูตนเองเป็น จุดขายร้อยทั้งร้อยชอบที่จะอยู่ เบื้องหลัง เสกสรรค์ปั้นตัวหนังสือเป็นผลงานมากมาย “ดัง” หรือ “ดับ” ว่ากันไปตาม นวนิยาย ในจินตนาการ
จากอดีต ผู้มี นามปากกา โด่งดังนั้น มีไม่มาก หลายรายชื่อ เอ่ยปุ๊บ ผลงานนิยายผุดนำมา ก่อนชื่อเสียงเรียงนามจริง เสียด้วยซ้ำ
น่าเสียดาย ที่ เครดิตนักประพันธ์ ไม่ค่อยแผ่ขยาย หลายบุคลากร ไม่ได้รับการยอมรับ ในวงกว้าง บ้างจำต้องหยุดสรรค์สร้างผลงาน เพราะเหนื่อยที่ตามกัดก้อนเกลือกิน ไม่รู้ชะตา
ที่เขียนมา เพราะไม่อยากให้สรรเสริญกัน ในวันที่ ลาจาก สังคมไทย ควรจะมักมาก ในการเชิดชูบุคลากรเบื้องหลัง ฉากหน้า งดงามสะสวยดึงดูดใจไม่ว่ากัน แต่อย่าลืมว่า ดารา คงไม่ดัง หากไม่ได้ บทประพันธ์ ช่วยค้ำจุน
วันนี้โลกของ นักประพันธ์ พากันใจหาย เจ้าของนามปากกา “บุษยมาส” จากไปไม่หวนกลับ เอ่ยชื่อ คนดูละคร อ่านนิยาย ไม่มีใครไม่รู้จัก แต่พอลงภาพ พร้อมชื่อจริง สมนึกสูตะบุตร หลายคนถาม ผู้หญิงคนนี้คือใคร!?
“บุษยมาส” จัดว่าเป็นนักประพันธ์ผู้มองเกมขาด วาดตัวหนังสือเป็นเรื่องราวค่อนข้างหลากหลาย ที่โด่งดัง และถูกนำมาสร้าง
เป็นละครวิทยุ ละครโทรทัศน์ก็มากมาย อาทิ หนึ่งในทรวง, เจ้าจอม,สลักจิต, ดงผู้ดี, ไฟกามเทพ, สกุลกา, ในม่านเมฆ ฯลฯ นับรวมแล้ว กว่าร้อย กับผลงานเขียนทั้งในนาม บุษยมาส, เมิน, แมนสรวง และ ศรวณีย์
50 ปี ของการเดินหน้า รังสรรค์ นิยายรัก... “บุษยมาส” ไม่เคยพัก เรื่องของงานเขียน ถึงวันนี้ นวนิยาย ยังคงถูกซื้อมาผลิตละคร ชนิดเรียงคิว “เพลิงรักไฟมาร” กำลังจะเพลิดพลิ้วทาง ช่อง 8 ในวันที่ 7 มิถุนายน
อีกเรื่องคือ “เชิงชายชาญ” บทประพันธ์แนวแอ๊กชั่นเรื่องเดียวของ “บุษยมาส” ช่อง 7 เตรียมสร้าง โดยผู้จัดป้ายแดง ธัญญ์ ธนากร และ ยุ้ย-จีรนันท์ รับหน้าที่ผลิต
นวนิยายลำดับสุดท้ายที่ทิ้งไว้ คือ “กรวดแกมแก้ว” ตีพิมพ์ลงนิตยสารบางกอก และกำลังจะออกรวมเล่มขาย
“บุษยมาส” จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเบญจมราชาลัย เป็นครูอนุบาล 2 ปี ก่อนย้ายมารับราชการที่กระทรวงเศรษฐการ 5 ปี ก้าวเข้าสู่วงการประพันธ์โดยผ่านเวทีการประกวดเรื่องสั้นในนิตยสารนารีนารถ ซึ่ง ก.สุรางคนางค์ เป็นบรรณาธิการ เมื่อเรื่องสั้น “รักฉากสุดท้าย” ของเธอชนะการประกวด ต่อมาเรื่องสั้นชื่อ “ปลายทางของสลี” ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดของนิตยสารแสนสุข ตามด้วยนวนิยายเรื่องแรกคือ “หมอกสวาท” และประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยนวนิยายเรื่องที่สอง “สลักจิต” ซึ่งลงพิมพ์ในนิตยสารเพลินจิต เมื่อปี พ.ศ. 2503 โดย ครูแก้ว อัจฉริยะกุล นำไปสร้างเป็นละครวิทยุ ให้เสียงโดย รัชนี จันทรังษี และ ฉลอง สิมะเสถียร จนคนติดกันทั้งเมือง
ด้วยวัย 88 ปี “บุษยมาส” วางปากกา ลาลับไปอย่างสงบ ด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด ทางครอบครัวตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ศาลา 5
“ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” ขอไว้อาลัยให้กับการจากไปของนักประพันธ์ในตำนาน “บุษยมาส”
(ขอบคุณภาพจาก นิตยสาร All Magazine)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี