29 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า จากกรณีที่ นางคิม กอนฮี ภรรยาของนายยุน ซอกยอล อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ที่ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในคดีรับสินบน และข้อหาอื่นๆ ท่ามกลางการสอบสวนที่ขยายวงกว้างในวิกฤตการณ์กรณีการประกาศกฎอัยการศึก และคดีอื้อฉาวที่เกี่ยวข้องกับอดีตคู่รักผู้ทรงอิทธิพลคู่นี้ ต่อมา สำนักงานอัยการพิเศษของเกาหลีใต้เรียกร้องให้มีการลงโทษจำคุก นางคิม กอนฮี เป็นเวลา 15 ปี ในข้อกล่าวหาประเด็นการทุจริต โดยทีมอัยการพิเศษของมิน จุงกี ซึ่งเป็นผู้นำการสืบสวนข้อกล่าวหาทุจริตที่เกี่ยวข้องกับคู่สามีภริยาอดีตประธานาธิบดี เรียกร้องให้ลงโทษจำคุกคิม ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ศูนย์กักขังตั้งแต่เดือนสิงหาคม ฐานละเมิดกฎหมายหลายข้อ รวมถึงกฎหมายตลาดทุนและการระดมทุนทางการเมือง

ความคืบหน้าล่าสุด อัยการเกาหลีใต้เปิดผลสอบสวน 'นางคิม กอนฮี' พบหลักฐานรับสินบนอื้อฉาวมูลค่ารวมกว่า 8.2 ล้านบาท ทั้งกระเป๋าแบรนด์เนม และเครื่องประดับล้ำค่า แลกกับการใช้อำนาจมืดแทรกแซงกิจการแผ่นดินและเอื้อประโยชน์ลัทธิดัง เสนอศาลสั่งจำคุก 15 ปี อัยการเกาหลีใต้ได้แถลงสรุปผลการสอบสวนกรณีของ 'นางคิม กอนฮี' ซึ่งถูกกล่าวหาว่ารับสินบนเป็นเงินและสิ่งของมูลค่ามหาศาล รวมถึงการเข้ามามีบทบาทแทรกแซงการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไม่ถูกต้อง 

รายการสินบนสุดหรูและสายสัมพันธ์ลัทธิดังจากการสืบสวนพบว่า  'นางคิม กอนฮี' ได้รับสินบนจากนักธุรกิจและนักการเมืองรวมมูลค่ากว่า 377.25 ล้านวอน หรือคิดเป็นเงินไทยราว 8.2 ล้านบาท โดยรายการทรัพย์สินที่ถูกระบุว่ารับมาจากผู้นำโบสถ์แห่งความสามัคคีและบุคคลอื่นๆ ประกอบด้วยกระเป๋า ชาแนล 2 ใบ กระเป๋า ดิออร์ สร้อยคอจากแบรนด์ กราฟฟ์ และเครื่องประดับหรูอีกหลายรายการ รวมถึงนาฬิกาข้อมือ และภาพวาดของ ลี อูฟาน ศิลปินแนวมินิมัลลิสต์ชื่อดังของเกาหลีใต้

อัยการ มิน จุงกี ระบุว่า สถาบันหลักของประเทศถูกทำลายอย่างย่อยยับจากการใช้อำนาจในทางที่ผิดของ'นางคิม กอนฮี'โดยเธอมักจะเข้าไปแทรกแซงกิจการรัฐ จากหลังฉาก เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาประชาชน นอกจากนี้ยังพัวพันกับการปั่นหุ้นและการแทรกแซงการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกด้วย

ด้านอดีตประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ซึ่งขณะนี้ถูกคุมขังในข้อหากบฏจากการประกาศกฎอัยการศึก ได้ปฏิเสธต่อพนักงานสอบสวนว่าเขาไม่ทราบเรื่องการรับสินบนของภรรยา แต่อัยการระบุว่าเป็นข้ออ้างที่ ยอมรับได้ยาก

เบื้องต้นอัยการได้เสนอให้ศาลลงโทษจำคุกนางคิมเป็นเวลา 15 ปี และปรับเงินอีก 2 พันล้านวอน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 43 ล้านบาท โดยชี้ว่าเธอทำตัว อยู่เหนือกฎหมาย และสมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มลัทธิ ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักการแยกศาสนาออกจากการเมืองตามรัฐธรรมนูญ