“อันอำนาจใดใดในโลกนี้ จะเทียมเท่าไมตรีหามีไม่
สร้างหมู่มิตรพิชิตรักสลักใจ ชนทั่วไปสรรเสริญเจริญดี”
ในฐานะของทหาร ตำรวจ และลูกเสือ ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นั้น การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชาวกัมพูชาในพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างราบรื่นเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความเข้าใจอันดีและมิตรภาพระหว่างประเทศ อีกด้วย บทความนี้จะเจาะลึกถึงวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อเฉพาะถิ่นของชาวกัมพูชาตามแนวชายแดน เพื่อเป็นแนวทางให้ทหารตำรวจและลูกเสือไทยสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีได้อย่างยั่งยืน
1. เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น: หัวใจของการสร้างความสัมพันธ์ การเรียนรู้วัฒนธรรมพื้นฐานของชาวกัมพูชาเป็นก้าวแรกที่สำคัญ วัฒนธรรมเขมรมีความหลากหลายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่อาจมีการผสมผสานกับวัฒนธรรมไทยบางส่วน
• ภาษา: การเรียนรู้คำทักทายง่ายๆ เช่น “ซัวสะเดย” (สวัสดี) หริอ“ออกุน” (ขอบคุณ) สามารถสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดี ชาวกัมพูชาจะรู้สึกชื่นชมในความพยายาม เหมือนคนไทยได้ยินฝรั่งหรือญี่ปุ่นกล่าวคำทักทายง่า “สวัสดีครับ” และ “ขอบคุณค่ะ”
• ไม่กล่าวถึงสิ่งที่ชาวกัมพูชาไม่ชอบ หรืออับอาย หลีกเลี่ยงประเด็นอ่อนไหวทางประวัติศาสตร์ เช่น สยามเคยยึดครองกัมพูชา กษัตริยกัมพูชาเคยหนีมาพึ่งสยาม กัมพูชาเคยเป็นเมืองขึ้นฝรั่งเศส กองทัพไทยเคยยึดพระตะบอง นครวัดเคยเป็นของไทย ไม่เป็นมืออาชีพ ฯลฯ
• ความอ่อนน้อมถ่อมตน: การแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน การเคารพผู้สูงอายุ และการใช้คำพูดที่สุภาพเป็นสิ่งที่ชาวกัมพูชาให้ความสำคัญอย่างมาก
• รอยยิ้ม: รอยยิ้มเป็นภาษาสากลที่เข้าใจได้ทุกชนชาติ การยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตรจะช่วยลดกำแพงและสร้างบรรยากาศที่เป็นกันเอง
• มารยาทในการทักทาย: การไหว้แบบเขมรที่เรียกว่า “ซำเปียะ” เป็นการแสดงความเคารพที่สำคัญ โดยเฉพาะเมื่อทักทายผู้สูงอายุหรือผู้ที่ควรแก่การเคารพ
2. เจาะลึกประเพณีและความเชื่อเฉพาะถิ่น ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเช่นเดียวกับคนไทย แต่ก็มีประเพณีและความเชื่อบางอย่างที่อาจแตกต่างกันไปตามพื้นที่
• ความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา: ชาวกัมพูชายังคงมีความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา วิญญาณบรรพบุรุษ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตตามสถานที่ต่างๆ การแสดงความเคารพต่อความเชื่อเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรลบหลู่หรือดูถูก
• เทศกาลและงานบุญ: การทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทศกาลสำคัญต่างๆ เช่น สงกรานต์ (ปีใหม่เขมร), วันวิสาขบูชา, วันเข้าพรรษา, ออกพรรษา จะช่วยให้คุณสามารถเข้าร่วมกิจกรรมหรือแสดงความยินดีได้อย่างเหมาะสม การเข้าร่วมงานบุญหรือเทศกาลท้องถิ่นหากมีโอกาส โดยมีสิ่งของไปช่วยงาน จะช่วยสร้างความผูกพันกับชุมชนได้เป็นอย่างดี
• บทบาทของพระสงฆ์: พระสงฆ์มีบทบาทสำคัญในสังคมกัมพูชา การแสดงความเคารพต่อพระสงฆ์เป็นสิ่งที่พึงกระทำ ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวคำทักทายด้วยความนอบน้อม หรือการระมัดระวังในการปฏิบัติตนต่อหน้าพระสงฆ์
• ความสำคัญของครอบครัว: ครอบครัวเป็นสถาบันหลักในสังคมกัมพูชา การให้เกียรติและเคารพต่อผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวของชาวบ้านเป็นสิ่งสำคัญ
3. แนวทางในการปฏิสัมพันธ์และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
• ให้ความช่วยเหลือตามสมควร: หากชาวบ้านต้องการความช่วยเหลือและอยู่ในวิสัยที่สามารถช่วยเหลือได้ เช่น การแบ่งปันอาหารและเครื่องใช้ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ฝนแล้ง ไฟป่า การสอบถามเส้นทาง การให้ข้อมูล หรือการอำนวยความสะดวกเล็กๆ น้อยๆ โดยควรให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ
• หลีกเลี่ยงการกระทำที่สุ่มเสี่ยง: หลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจถูกตีความว่าเป็นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หรือการกระทำที่ขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี เช่น การเข้าไปในเคหสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการสัมผัสร่างกายโดยไม่เหมาะสม
• เคารพในกฎหมายและอธิปไตย: การปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กรอบของกฎหมายและเคารพในอธิปไตยของประเทศกัมพูชาเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
• เปิดใจเรียนรู้และแลกเปลี่ยน: แสดงความสนใจในการเรียนรู้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวกัมพูชา การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรื่องราวต่างๆ สามารถสร้างความเข้าใจและมิตรภาพที่แน่นแฟ้น
• สร้างความไว้วางใจ: ความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ การเป็นคนซื่อสัตย์ จริงใจ และรักษาสัญญา จะช่วยให้ชาวบ้านเกิดความเชื่อมั่นในตัวคุณ บทสรุป การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวกัมพูชาตามแนวชายแดน ไม่ใช่เพียงแค่การปฏิบัติหน้าที่ แต่คือการสร้างมิตรภาพและความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนสองประเทศ การเข้าใจในวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อเฉพาะถิ่น การแสดงออกถึงความเคารพ และการมีน้ำใจ จะเป็นกุญแจสำคัญในการชนะใจชาวกัมพูชาและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความสัมพันธ์อันยั่งยืนในอนาคต
การเสริมสร้างความร่วมมือระดับเยาวชน พระสงฆ์ และกิจกรรมร่วมมือข้ามแดนอาจช่วยเสริมความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น เช่นการประกวดเขียนภาพน้ำใจไมตรีไทย-กัมพูชา จัดการชุมนุมลูกเสือสองแผ่นดิน สวดมนต์สองแผ่นดิน ฯลฯ
4.วิธีสร้างไมตรีแบบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงสอนเรื่อง สังคหวัตถุ 4 ซึ่งเป็น หลักธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวใจคนและประสานหมู่ชนให้ตั้งอยู่ในความสามัคคี สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบุคคลและในสังคม ช่วยให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความปรารถนาดีต่อกัน ประกอบด้วย ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา
ทาน คือการให้ การเสียสละ การแบ่งปันเพื่อประโยชน์แก่ผู้อื่น ช่วยปลูกฝังให้เป็นคนที่ไม่เห็นแก่ตัว ...... ปิยวาจา คือการพูดจาด้วยถ้อยคำไพเราะอ่อนหวาน จริงใจ ไม่พูดหยาบคายก้าวร้าว พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เหมาะกับกาลเทศะ.......อัตถจริยา คือการประพฤติประโยชน์แก่ผู้อื่น ช่วยเหลือผู้อื่นในกิจการงานต่างๆ ........ และ สมานัตตตา คือการวางตนเหมาะสมกับบุคคลและสถานการณ์ ไม่ถือตัว วางตนเสมอต้นเสมอปลายกับทุกคน.
ลองวิธีง่ายๆ ส่งเครื่องดื่มสักขวด หรือบะหมี่สักซองให้คนที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับคุณ คุณอาจเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร ชนะใจฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ต้องเสียกระสุนสักนัดหรือเบือดสักหยดเดียว
“ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง”...สุนทรภู่
โดย สุริยพงศ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี