​บทความพิเศษ : ‘รู้เขารู้เขมร’ ฝึกหนูให้กู้กับระเบิด

​บทความพิเศษ : ‘รู้เขารู้เขมร’ ฝึกหนูให้กู้กับระเบิด

วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ข่าวทหารไทยถูกกับระเบิดจนขาขาดหลายคน ที่ชายแดนไทย กัมพูชา ใน พ.ศ. 2568   ได้สร้างความเจ็บปวดให้คนไทยทั่วประเทศอย่างที่สุด  มีการนำอุปกรณ์ค้นหากับระเบิดหลายชนิดมาใช้   เช่นเครื่องตรวจโลหะแต่กับระเบิดสมัยใหม่ เช่น PMN 2 ของรัสเซียนั้นใช้พลาสติกแทนโลหะทำให้เครื่องตราจโลหะใช้การไม่ได้  ถึงแม้มีการพัฒนาหุ่นยบต์ตรวจกับระเบิดหลายชนิด แต่ก็มีราคาสูงมาก

มีรายงานข่าวว่า องค์กรอโพโพ Apopo (Anti-Personnel Landmines Detection Product Development ของเบลเยี่ยม นำโดย นาย Bart Weetjens  ที่ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2550 ได้ฝึกหนูแอฟริกาหูยาว (African Giant Pouched Rat) หรือ HeroRATs  ให้ค้นหากับระเบิดใต้ดินในกัมพูชาได้ผลดี จึงเกิดคำถามว่า เราจะฝึกหนูไทยให้ค้นหาระเบิดเหมือนหนูแอฟริกาได้หรือไม่


หนูยักษ์พันธุ์แอฟริกัน (African Giant Pouched Rat) หรือที่เรียกว่า "HeroRATs" น้ำหนักเบาเพียง 1-1.5 กิโลกรัม ทำให้ไม่สามารถกระตุ้นให้ระเบิดใต้ดินระเบิดได้ เพราะระเบิดส่วนใหญ่ต้องการความดันอย่างน้อย 5 กิโลกรัม จึงสามารถเดินสำรวจพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย หนูเหล่านี้มีจมูกไว ประสาทสัมผัสทางกลิ่นต่อสารเคมีที่เหนือกว่าสุนัข สามารถดมกลิ่นวัตถุระเบิด  แม้ฝังลึกใต้ดินได้ในระยะไกล  พวกมันจะเพิกเฉยต่อเศษโลหะอื่น ๆ ที่ปะปนอยู่ในดิน เช่น ฝาขวด น็อต หรือชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของเครื่องตรวจจับโลหะแบบเดิม   สามารถทำงานได้หลายชั่วโมงต่อวันโดยไม่เหนื่อยล้า ทำให้การทำงานรวดเร็วกว่าคนใช้เครื่องตรวจจับหลายเท่าตัว กินอาหารหลักคือเมล็ดธัญพืชและผัก ขนมรางวัล คือ ผลไม้เมืองร้อน หนูพันธุ์นี้มีอายุขัยถึง 8 ปี ทำให้สามารถใช้งานได้นานกว่าสุนัข  ตัวเล็ก สามารถเข้าถึงพื้นที่แคบ ๆ หรือพื้นที่รกทึบที่มนุษย์หรือสุนัขเข้าถึงได้ยาก    หนูเหล่านี้ฉลาดและเรียนรู้ได้เร็วด้วยเทคนิคการฝึกแบบให้รางวัล (Positive Reinforcement) โดยเมื่อพวกมันดมกลิ่นเจอ ระเบิดทีเอ็นที ก็จะได้รับอาหารที่ชอบ เช่น กล้วย ถั่วลิสง หรืออะโวคาโด

ในกัมพูชานั้น แม้จะมีการดำเนินการกู้ระเบิดมาหลายปี แต่ยังคงมีระเบิดใต้ดินที่ไม่ระเบิดประมาณ 4-6 ล้านลูก สืบเนื่องมาจากความขัดแย้งในอดีต ทำให้ประชาชนยังคงอยู่ในอันตราย และมีคนขาขาดเพราะกับระเบิดจำนวนมาก

ในพ.ศ. 2563 หนูกู้ระเบิดในกัมพูชาตัวหนึ่งชื่อ "มากาวา"ตรวจพบระเบิดใต้ดิน 71 ลูกและวัตถุระเบิดอื่นๆ 38 ชิ้น     ปี พ.ศ. 2568  หนูชื่อ  "โรนิน"  ที่ประจำการในจังหวัด พระวิหารของกัมพูชาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564 ได้ตรวจพบระเบิดใต้ดิน 109 ลูกและวัตถุระเบิดที่ไม่ระเบิด (UXO) อีก 15 ชิ้น

แล้วหนูไทยล่ะ...จะฝึกได้ไหม? คำถามที่น่าสนใจคือ เราสามารถนำหนูท้องถิ่นของไทยมาฝึกหาระเบิดแบบเดียวกันได้หรือไม่? ในทางทฤษฎีแล้วมีความเป็นไปได้ เพราะหนูมีสัญชาตญาณการดมกลิ่นที่ดี    หน่วยค้นหาทำลายวัตถุระเบิด EOD ของตำรวจทหาร   และ หน่วยสุนัขตำรวจทหารที่มีประสบการณ์ ในการฝึกสุนัขค้นหาวัตถุระเบิด น่าจะหาทางทดลองนำ หนูนา ที่มีอยู่ในท้องนา  และสุนัขจรจัด ที่มีอยู่มากมายตามวัดต่างๆ  มาใช้ประโยชน์ในการค้นหากับระเบิดบ้าง

ทหารช่างและนักเทคนิคของไทยน่าจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุปกรณ์เสริม เช่น ชุดเซนเซอร์ติดตัวหนู หรือระบบติดตาม GPS เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการทำงาน หากสามารถผสานเทคโนโลยีเข้ากับการฝึกสัตว์ได้อย่างลงตัว ก็อาจสร้าง “หนูฮีโร่สายพันธุ์ไทย” ที่พร้อมปฏิบัติภารกิจในสนามจริง

หนูกู้ระเบิด พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า "ฮีโร่" ไม่ได้มีแต่ขนาดใหญ่เสมอไป บางครั้งฮีโร่ก็มีขนาดแค่ฝ่ามือและพร้อมจะช่วยชีวิตคนนับพันได้อย่างน่ามหัศจรรย์

กระบวนการฝึกหนูหาระเบิด

การฝึกหนูเหล่านี้ใช้เวลายาวนาน เริ่มตั้งแต่หนูยังเล็ก:

ขั้นตอนที่ 1: การปรับตัว หนูน้อยจะถูกฝึกให้คุ้นเคยกับมนุษย์และสภาพแวดล้อมการทำงาน ช่วงนี้ใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน

ขั้นตอนที่ 2: การฝึกดมกลิ่น ใช้วิธี "Clicker Training" ฝึกให้หนูรู้จักกลิ่นของวัตถุระเบิด เมื่อดมเจอจะได้รับเสียงคลิกและอาหารรางวัล

ขั้นตอนที่ 3: การฝึกในสนาม หนูจะถูกฝึกให้ทำงานในรูปแบบตาราง เดินสำรวจพื้นที่อย่างเป็นระบบ

วิธีการทำงานในสนาม

เมื่อหนูกู้ระเบิดออกไปทำงานจริง พวกหนูจะถูกผูกสายรัดและเดินสำรวจพื้นที่อย่างเป็นระบบ เมื่อดมกลิ่นวัตถุระเบิดได้ หนูจะหยุดนิ่งและขีดข่วนบริเวณนั้น เจ้าหน้าที่จึงจะเข้ามาตรวจสอบและกู้ระเบิดอย่างระมัดระวัง

ชีวิตประจำวันของหนูฮีโร่

หนูเหล่านี้ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา ทำงานในช่วงเช้าเมื่ออากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนของตอนบ่าย  มีเวลาเล่นและพักผ่อนอย่างเพียงพอ  ชอบกินอะโวคาโดเป็นขนมรางวัล นอกจากอาหารปกติ

การฝึกหนูให้กู้ระเบิดไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความอดทน: การฝึกแต่ละตัวใช้เวลาหลายเดือน โดยผู้เชี่ยวชาญ  เช่นมาร์ค ชูคูรู ที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกหนูในกัมพูชา มาจากแทนซาเนียซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของหนูสายพันธุ์นี้   โดยต้องฝึกให้หนูปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่าง

พ.ศ. 2558  APOPO ส่งหนูตรวจจับระเบิด (MDR) ไปยังกัมพูชาภายหลังจากโครงการกู้ระเบิดที่ประสบความสำเร็จในแองโกลาและโมซัมบิก นี่เป็นครั้งแรกที่ MDR ถูกส่งไปประจำการในประเทศนอกทวีปแอฟริกา

การทำงานของหนูเหล่านี้ช่วยให้พื้นที่ปลอดภัย ชาวบ้านสามารถกลับมาใช้ที่ดินเพื่อการเกษตรและอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย พื้นที่ที่กู้ระเบิดแล้วสามารถนำมาพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นได้ เด็กๆ สามารถเล่นและไปโรงเรียนได้โดยไม่ต้องกลัวอันตราย

กระบวนการฝึกโดยละเอียด

ขั้นพื้นฐาน (2-4 เดือนแรก)  ฝึกให้คุ้นเคยกับผู้ฝึก  สอนให้รู้จักเสียงคลิกเก็อร์  ฝึกพฤติกรรมพื้นฐาน

ขั้นกลาง (4-6 เดือน) ฝึก Clicker Training ให้หนูเชื่อมโยงเสียงคลิกกับอาหารรางวัล เพื่อจูงใจให้เรียนรู้การดมกลิ่นวัตถุระเบิด   ฝึกให้รู้จักกลิ่นระเบิดทีเอ็นที และวัตถุระเบิดอื่นๆ  สอนให้ส่งสัญญาณเมื่อพบเป้าหมาย

ขั้นสูง (6-9 เดือน)  ฝึกให้ทำงานอย่างเป็นระบบภายในรูปแบบตาราง และส่งสัญญาณ

ฝึกในสภาพแวดล้อมจำลอง   ทดสอบความแม่นยำ

วันแรกในสนาม

เมื่อหนูฮีโร่ก้าวเข้าสู่สนามจริงครั้งแรก มันเป็นช่วงเวลาที่ทั้งตื่นเต้นและกังวล เจ้าหน้าที่จะคอยสังเกตอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าหนูทำงานได้ตามที่ฝึกมา

ข้อดีของหนูเหนือเทคโนโลยี

แม้เทคโนโลยีการตรวจจับจะก้าวหน้า แต่หนูก็ยังมีข้อได้เปรียบ เพราะมีความแม่นยำสูงอัตราความผิดพลาดต่ำกว่าเครื่องตรวจจับโลหะ ค่าใช้จ่ายในการฝึกและดูแลต่ำกว่าเทคโนโลยีที่มีราคาแพง     สามารถทำงานในสภาพพื้นที่ที่เครื่องจักรเข้าไม่ได้

ผลงานในกัมพูชา

โครงการมุ่งเน้นที่จังหวัดเสียมราฐในภาคเหนือของกัมพูชา ผลลัพธ์ที่ได้คือผลิตหนูฮีโร่มากกว่า 300 ตัว  กู้ระเบิดได้หลายพันลูก คืนพื้นที่ปลอดภัยให้ชุมชนหลายแสนไร่

เทคนิคการฝึกสมัยใหม่

Positive Reinforcement  การใช้ระบบรางวัลเป็นหลัก ไม่มีการลงโทษ เพื่อให้หนูมีความสุขในการทำงาน

Environmental Training  ฝึกให้หนูคุ้นเคยกับเสียงต่างๆ ในสนาม เช่น เสียงรถ เสียงคน เสียงธรรมชาติ

Systematic Search Pattern ฝึกให้หนูค้นหาอย่างเป็นระบบ ไม่ข้ามพื้นที่ เพื่อความแม่นยำสูงสุด

โดย  สุริยพงศ์

ขอบคุณภาพจาก https://www.beartai.com/

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top