(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
๑๒) ประเด็นการสนับสนุนงบประมาณสำหรับศูนย์บริการคนพิการทั่วไป ซึ่งจะมีการสนับสนุนงบประมาณต่างกัน ศูนย์บริการคนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีการสนับสนุนตามขนาดของท้องถิ่น ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก และจะไม่ได้รับการสนับสนุน ค่าตอบแทนบุคลากร ซึ่งจะสนับสนุนงบประมาณเฉพาะในส่วนที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่มี อาทิ เช่น การประชุมคณะทำงานส่วนองค์กรด้านคนพิการ จะมีการสนับสนุน วัสดุ อุปกรณ์การปรับปรุงสถานที่ นอกจากนี้ ประเด็นการสนับสนุนค่าใช้จ่ายรายหัว สำหรับการจัดบริการให้คนพิการนั้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษา แต่ในบางบริการซึ่งมีระเบียบกำหนดไว้แล้ว สามารถดำเนินการจ่ายค่าใช้จ่ายได้เลย อาทิบริการล่ามภาษามือ บริการผู้ช่วยคนพิการ การปรับปรุงที่อยู่อาศัยของคนพิการ เป็นต้น
๑๓) ประเด็นการมีส่วนร่วมของคนพิการแต่ละประเภทนั้น การดำเนินงานของ พก. ได้เชิญผู้แทนจากคนพิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมโดยตลอด ตั้งแต่การกำหนดนโยบายไปจนถึงการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นส่วนที่ดีที่ทำให้ได้รับข้อมูลประกอบการดำเนินงานที่รอบด้านและเป็นการสร้างพลังให้เกิดความเข้มแข็งในการต่อรองสำหรับการดำเนินงานด้านคนพิการ
๑๔) ประเด็นหลักประกันสำหรับคนพิการเพื่อให้ได้เข้าถึงสิทธิ เนื่องจากปัจจุบันมี “ศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัด” ครบทุกจังหวัด ซึ่งมีหน้าที่ดูแลด้านคนพิการในทุกๆ เรื่องอยู่แล้ว ศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัดยังต้องมีภารกิจหน้าที่ในการให้บริการคนพิการ จนกว่าจะมีศูนย์บริการคนทั่วไปครอบคลุมในพื้นที่นั้นๆ อำนาจหน้าที่ของ “ศูนย์คนพิการระดับจังหวัด” ส่วนใหญ่เป็นอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแล หรือ Regulator แต่ได้เปิดช่องไว้ใน “ข้อ (๖) ให้บริการความช่วยเหลือเพื่อให้คนพิการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิทธิตามที่กฎหมายกำหนด เฉพาะในกรณีไม่มีศูนย์ให้บริการในเรื่องนั้นๆ” ซึ่งต้องยอมรับว่าการจะดำเนินการให้มีศูนย์บริการคนพิการทั่วไปให้เต็มพื้นที่ จำเป็นต้องใช้ระยะเวลา ดังนั้น การเปิดช่องให้ศูนย์บริการคนพิการประจำจังหวัดสามารถทำหน้าที่ให้บริการได้ เนื่องจากข้อจำกัดในระยะเริ่มต้นที่ยังไม่มีศูนย์บริการคนพิการทั่วไปได้เต็มพื้นที่ เพื่อเป็นหลักประกันให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิคนพิการได้ โดยให้ศูนย์บริการคนพิการประจำจังหวัดได้จัดบริการในเรื่องนั้นๆ ไปก่อน เมื่อในอนาคตมีศูนย์บริการคนพิการทั่วไปเต็มพื้นที่และสามารถให้บริการคนพิการได้ครอบคลุมแล้ว ศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัดก็จะสามารถทำหน้าที่กำกับดูแล Regulatorได้อย่างสมบูรณ์
๑๕) ประเด็นการโอนเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับการให้บริการกับคนพิการ จะมีการโอนงบประมาณไปให้จังหวัด และจังหวัดจะนำงบประมาณดังกล่าวไปยังหน่วยงาน ทั้งนี้ในอนาคตเมื่อมีการจัดตั้งเป็นศูนย์บริการคนพิการ ขั้นตอนการโอนงบประมาณก็มีการดำเนินงานเช่นเดียวกัน คือ พก.โอนไปยังจังหวัด จากนั้นจังหวัดโอนไปยังศูนย์บริการคนพิการทั่วไป และศูนย์บริการคนพิการทั่วไปก็นำไปจ่ายเป็นค่าบริการสำหรับคนพิการต่อไป โดยการสนับสนุนงบประมาณสำหรับศูนย์บริการคนพิการ เมื่อได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นศูนย์บริการคนพิการแล้ว ศูนย์จะต้องจัดทำแผนการให้บริการและงบประมาณที่ต้องใช้เสนอขึ้นมา ซึ่ง พก. ก็จะอนุมัติตามแผนค่าใช้จ่ายตามที่เสนอ สำหรับประเด็นปัญหาเกี่ยวกับขั้นตอนการขอจดทะเบียนเป็นศูนย์บริการคนพิการของจังหวัดชลบุรี พก.จะรับข้อมูลดังกล่าวเพื่อเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป
๑๖) ประเด็นบริการจัดหางานให้แก่คนพิการ พก.ได้หารือกับกระทรวงแรงงานแล้วว่า ศูนย์บริการคนพิการสามารถให้บริการจัดหางานให้กับคนพิการได้ เนื่องจากถือเป็นบริการหนึ่งในหลายบริการของศูนย์บริการคนพิการ แต่การตั้งเป็น “ศูนย์จัดหางาน” ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากขัดต่อกฎหมายของกระทรวงแรงงาน แต่กรณีบริการจัดหางานที่เป็นบริการอย่างหนึ่งของศูนย์บริการ คนพิการสามารถให้บริการได้ แต่จะไปขอเงินสนับสนุนจากกระทรวงแรงงานตามกฎหมายจัดหางานไม่ได้
๑๗) ประเด็นการสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและส่วนราชการมีการติดตั้งอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารของคนพิการทางการได้ยินนั้น ปัจจุบัน พก. ได้เสนอให้ศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัดทุกแห่ง ให้มีระบบบริการถ่ายทอดการสื่อสารแห่งประเทศไทย (TTRS) และในอนาคตจะขยายออกไปยังท้องถิ่นที่จัดตั้งเป็นศูนย์บริการคนพิการต่อไป
๑๘) ประเด็นการให้บริการผู้ป่วยทางจิตที่ยังไม่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และจำเป็นต้องได้รับบริการและการดูแลอย่างทันท่วงทีนั้น ศูนย์บริการคนพิการสามารถให้บริการได้ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของผู้รับบริการนั้นรวมถึงการดูแลคนพิการที่มีแนวโน้มที่จะพิการด้วย เพื่อให้บริการดูแลรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพ แต่จะต้องเป็นคนไทยที่มีบัตรประจำตัวประชาชน
๑๙) แบบการก่อสร้างศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัด ซึ่งออกแบบโดยสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อใช้แบบหลักในการก่อสร้าง ภายใต้กรอบวงเงิน๓๐ ล้าน โดยใช้พื้นที่ ๕ ไร่ แบ่งเป็นตัวอาคารที่ใช้ประโยชน์ ๒ ไร่อาคารเป็นรูปตัวแอล จำนวน ๒ ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนของการให้บริการคนพิการ เช่น การออกบัตรคนพิการ การให้บริการกู้ยืมเงิน และการให้คำแนะนำ เป็นต้น ส่วนชั้น ๒ เป็นห้องประชุมขนาดใหญ่และเล็ก และมีอาคารสำนักงานใหญ่รวมกัน อาคารหลังนี้เป็นอาคารที่ใช้ประโยชน์รวมกันซึ่งจะจัดสรรพื้นที่ให้กับทุกสมาคมองค์กรคนพิการ และมีพื้นที่เพียงพอในการจัดสรรพื้นที่ให้แต่ละสมาคมและองค์กรมาใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยแบบก่อสร้างนั้นได้ทำการศึกษาวิจัยมาแล้ว จึงขอยืนยันว่าเป็นแบบอาคารที่มีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกซึ่งจะเป็นต้นแบบด้านการออกแบบที่เป็นสากล (Universal Design : UD) และรองรับการเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้สำหรับทุกคน
๒๐) การอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัว ซึ่งมีระเบียบเกี่ยวกับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายอุดหนุนรายหัว เมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา แต่เนื่องด้วยเป็นช่วงเริ่มต้นที่มีความพยายามปรับค่าใช้จ่ายจากรายโครงการจึงยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ซึ่งมีความพยายามปรับแก้ไขค่าใช้จ่ายรายหัวมาแล้วหลายครั้ง โดยบางรายการสามารถประเมินค่าใช้จ่ายเป็นรายหัวได้ เช่น การประเมินศักยภาพคนพิการและทำแผนรายบุคคลก่อนจัดบริการ จำนวน ๒,๐๐๐ บาท ต่อคนและการฝึกทักษะการสร้างความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม จำนวน ๙,๐๐๐ บาทต่อคน เป็นต้น ทั้งนี้ ยังมีความพยามปรับค่าใช้จ่ายรายหัวให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในการให้บริการมากที่สุดต่อไป
๒๑) งบประมาณสนับสนุนศูนย์บริการคนพิการทั่วไป ไม่สามารถเบิกจ่ายย้อนหลังได้ เนื่องจากเป็นเงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการซึ่งระเบียบของกองทุนกำหนดไว้ไม่ให้ใช้เงินย้อนหลัง ในส่วนปัญหาการส่งเงินงบประมาณล่าช้า สืบเนื่องมาจากการอนุมัติกรอบเงินของกองทุนล่าช้า ซึ่งได้มีการหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว ปัญหาความล่าช้าการส่งเงินสนับสนุนศูนย์บริการคนพิการทั่วไปนั้น พก.รับทราบและมีความพยายามแก้ไขปัญหา โดยเสนอกรอบวงเงินให้กรมบัญชีกลางอนุมัติมาให้เร็วขึ้น เพื่อแจ้งจังหวัดให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนต้นปีงบประมาณถัดไป
๒๒) ปัญหาการเบิกจ่ายเงินงบประมาณของศูนย์บริการคนพิการทั่วไปที่จัดตั้งโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นั้น กระทรวงมหาดไทยอยู่ระหว่างการออกระเบียบเพื่อแก้ไขปัญหาให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้เงินจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการได้
๒๓) ประเด็นแนวปฏิบัติการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนของศูนย์บริการคนพิการทั่วไปของแต่ละจังหวัด ที่ยังมีความแตกต่างกันนั้น พก. พร้อมรับประเด็นนี้ไปซักซ้อมการทำงานของจังหวัดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ตามข้อเท็จจริงเงินกองทุนไม่สามารถใช้ย้อนหลังได้แต่มีพยายามแก้ไขความล่าช้า โดยอนุมัติกรอบวงเงินให้เร็วขึ้นในอดีตแม้จะมีกรอบวงเงินลงไปที่จังหวัดแล้ว จังหวัดก็ยังไม่กล้าอนุมัติ ต้องการให้ส่งเงินลงไปก่อน แต่ต่อมาได้มีคำสั่งปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้จังหวัดอนุมัติจ่ายเงินเพื่อดำเนินการภายใต้กรอบวงเงินที่ได้รับการจัดสรรประจำปีหรือที่ได้รับการจัดสรรเพิ่มเติมได้เลย
๒๔) ประเด็นข้อเสนอให้มีการทบทวนปรับปรุงระเบียบเงินอุดหนุนนั้น พก.เห็นด้วย ต่อข้อเสนอแนะให้มีการทบทวนเงินอุดหนุนและกรอบการใช้จ่ายดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาเป็นช่วงเริ่มต้นรายการค่าใช้จ่ายใช้เทียบเคียงกับรายการค่าใช้จ่ายของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ปัจจุบันหากมีหลักเกณฑ์ที่ใช้ยืนยันได้ ก็สามารถปรับปรุงให้สอดคล้องกับการให้บริการจริงและปรับปรุงให้เป็นปัจจุบันได้ ทั้งนี้ พก. พร้อมจะรับเรื่องดังกล่าวไปหารือในแต่ละสมาคมคนพิการ และประสานให้แต่ละสมาคมทำแผนรายจ่ายการอุดหนุนรายหัวตามความต้องการจำเป็นตามประเภทความพิการ เพื่อนำมาทบทวนและขออนุมัติปรับปรุงแก้ไขระเบียบดังกล่าวต่อไป
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ถนนอู่ทองใน ดุสิต กทม. 10300 email : dek_senate@hotmail.co.th หรือ Facebook: กมธ.พัฒนาสังคมหรือ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็กฯ วุฒิสภา โทร.02-831-9225-6 แฟกซ์ 02-831-9226
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี