วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ผู้หญิง / เปิดโลก
เปิดโลก

เปิดโลก

ศิริภา อินทวิเชียร
วันอาทิตย์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 02.00 น.
นับถอยหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ดูทั้งหมด

  •  

3 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โลกน่าจะได้รับทราบกันแล้วว่า ใครจะเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนต่อไป นั่นย่อมหมายถึงความเคลื่อนไหวของนโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในฐานะพี่ใหญ่ของโลก หรือในฐานะคู่เจรจาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงกับประเทศมหาอำนาจต่างๆ ในแต่ละทวีป ประเด็นนี้เองที่ทำให้ความน่าสนใจของว่าที่ประธานาธิบดีคนต่อไปของสหรัฐฯ ถูกจับตาจากหน่วยงานสำคัญทั่วโลก รวมไปถึงรัฐบาลไทย และประเทศในทวีปเอเชียของเราด้วย

จะว่าไปแล้ว สำหรับเอเชียของเราโดยเฉพาะกับประเทศจีน อเมริกาในการบริหารของ “โดนัลด์ ทรัมป์”ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ดูจะมีความสัมพันธ์อันไม่ราบรื่นเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะการตั้งมาตรการภาษีทางการค้ากับรัฐบาลทั่วโลกตามนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” หรือAmerican First ที่กระทบกับจีนอย่างหนักหน่วงจนทางการจีนต้องตอบโต้กลับด้วยมาตรการทางภาษีเช่นเดียวกัน ในช่วงเวลานั้นก็ทำให้ตลาดการค้าและการเงินทั่วโลกเกิดความปั่นป่วน ความไม่ลงรอยกันพัฒนาอย่างใหญ่โตจากสงครามการค้า (Trade War) กลายไปเป็นสงครามทางเทคโนโลยี (Cyber War) มีการระงับการใช้บริหารบริษัทเทคโนโลยีของจีน และผู้บริหารของบริษัทนั้นก็ได้รับการตั้งข้อหาร้ายแรงในเรื่องของการละเมิดกรณีคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน รวมไปถึงการให้ความสนับสนุนกลุ่มผู้ชุมนุมในฮ่องกงที่ออกมาต่อต้านกฎหมายความมั่นคงจากจีน และล่าสุดกับการเรียกร้องหาความรับผิดชอบจากจีนจากรัฐบาลของนายโดนัลด์ทรัมป์ ในกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่สร้างความเสียหายให้กับระบบเศรษฐกิจและคร่าชีวิตผู้คนนับล้าน


แน่นอนว่า วีรกรรมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันต่อเอเชีย โดยเฉพาะจีนอาจไม่เป็นที่ถูกใจนัก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในทางกลับกัน พฤติกรรมหรือนโยบายแบบแข็งกระด้างเช่นนี้เองที่สร้างความนิยมในตัวของโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อกลุ่มผู้สนับสนุนของเขา จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าผลการเลือกตั้งที่ออกมายังเป็นประธานาธิบดีคนเดิมนโยบายความสัมพันธ์ต่อจีนและประเทศในทวีปเอเชียจะยิ่งแข็งกร้าวมากขึ้น และประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป ตะวันออกกลางหรือแม้แต่กลุ่มประเทศในอเมริกาเหนือก็คงต้องเจอกับแรงกดดันทางการค้าทางสังคม และความมั่นคงต่อไปไม่ต่างกัน เพื่อสนองนโยบายชาวอเมริกันต้องมาก่อนคนประเทศอื่น ซึ่งเป็นแรงขับในใจของชาวอเมริกันชนคนผิวขาวที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นฐานคะแนนสำคัญของทรัมป์สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ และครั้งก่อนหน้า

ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เอง ที่ทำให้นักวิเคราะห์ทางการเมืองส่วนใหญ่มองว่า ถ้าโลกต้องการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในแบบละมุนละไม กลับมาร่วมด้วยช่วยกันเหมือนครั้งเก่าก่อน ทั้งเรื่องของการสาธารณสุข ทั้งเรื่องของการค้าการลงทุน ทั้งเรื่องของสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงความประนีประนอมต่อปัญหาระหว่างประเทศที่มี
กรณีพิพาทต่างๆ นั้น “โจ ไบเดน” จากพรรคเดโมแครต จะเป็นคำตอบอันถูกต้องที่สุด ซึ่งดูเหมือนว่าสำนักโพลล์หลายสำนักทั้งจากนอกประเทศ และในสหรัฐฯ เองก็เห็นตรงกันในประเด็นนี้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะวางใจในผลลัพธ์ที่ได้มากนัก เพราะในปี 2016 ผลโพลล์และการวิเคราะห์ก็ออกมาในทำนองนี้ “ฮิลลารี คลินตัน” เหมือนจะได้รับการสนับสนุนที่ล้นหลาม แต่ท้ายที่สุดก็พ่ายให้แก่กระบวนการเลือกตั้งแบบสหรัฐอเมริกา และได้ “โดนัลด์ ทรัมป์”มาบริหารบ้านเมือง

สำหรับกระแสของผู้สนับสนุนเองก็น่าสนใจ เพราะอาทิตย์ที่ผ่านมามีInfluencer หรือผู้มีอิทธิพลบนสื่อสังคมออนไลน์ระดับแม่เหล็กหลายท่านออกมาให้การสนับสนุนว่าที่ประธานาธิบดีในฟากฝั่งของเดโมแครตอย่างไม่มีกั๊ก หนึ่งในนั้นก็เป็นนักร้องสาวที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลกอย่าง “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ที่ให้สัมภาษณ์ลงนิตยสารฉบับหนึ่ง เกี่ยวกับประเด็นประธานาธิบดีที่เธอต้องการ โดยหยิบยกเรื่องของการยอมรับในสีผิว การให้เกียรติเพศทางเลือก และผู้หญิง รวมไปถึงการจัดการกับโควิด-19 ซึ่งทั้งหมดเป็นประเด็นที่โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกโจมตีจากสื่อกระแสหลักแทบทั้งสิ้น นอกจากนั้นเธอยังโพสต์รูปภาพลงบนสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองในการแสดงออกถึงการเชียร์“โจ ไบเดน” อย่างชัดเจน

ผู้สนับสนุนอีกคนของอดีตรองประธานาธิบดี (ในสมัยนายบารัค โอบามา) ไม่ได้เป็นชาวอเมริกัน แต่ก็มีอิทธิพลต่อผู้คนทั่วโลกมหาศาล นั่นคือ “เกรตาทุนเบิร์ก” นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการสื่อสารผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเธอว่า “ที่ผ่านมา ฉันไม่เคยแสดงจุดยืนสนับสนุนพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งมาก่อน แต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะมาถึง มีความสำคัญมาก และรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันก็ยังไม่ได้แก้ปัญหาสภาพอากาศโลกอย่างจริงจัง จึงขอให้ทุกคนออกไปลงคะแนนให้ไบเดน” ซึ่งแน่นอนว่าภาพของโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเรื่องสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นลบอยู่แล้ว แถมยังเคยมีวิวาทะในเรื่องของการแก้ไขปัญหาโลกร้อนกับสาวน้อยเกรตามาก่อนหน้านี้อีกด้วย รวมไปถึงนโยบายหาเสียงของเดโมแครตรอบนี้ก็ให้น้ำหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ (กลับไปร่วมปฏิญญาปารีสว่าด้วยการลดผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศของโลกทันทีเน้นการใช้พลังงานสะอาด ด้วยการสนับสนุนการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าและพลังงานทดแทนอย่างเข้มข้น) ตรงนี้จึงเป็นเรื่องที่ทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องคิดหนักว่า จะแก้เกมที่เกิดขึ้นมาอย่างไร

กระนั้น ในเรื่องของการเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ถือว่าเป็นยอดฝีมือคนหนึ่ง เห็นได้จากเหตุการณ์การติดเชื้อโควิด-19 จากผู้ช่วยสาวส่วนตัว
จนต้องเข้ารับการรักษาอาการ จนใครหลายคนมองว่า เป็นคราวซวยของทรัมป์ เพราะก่อนหน้านี้เขาเองประกาศมาตลอดว่า โควิด-19 ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวล เพราะรักษาหาย สิ่งที่น่ากังวลคือเรื่องของเศรษฐกิจ ดังนั้น เขาจึงพยายามอย่างมากที่จะสั่งการให้ทุกรัฐกลับมาเปิดเมืองทำมาค้าขายเหมือนเดิมอีกครั้ง ซึ่งตรงกันข้ามกับแนวทางของไบเดน ที่เลือกจะใส่หน้ากากป้องกันตัวเอง เน้นการปิดเมืองจนกว่าจะมีวัคซีน และให้ความใส่ใจกับอัตราการตายและการติดเชื้อเป็นสำคัญ

แต่แทนที่การติดเชื้อจะทำให้ทรัมป์สงบเสงี่ยมเจียมตัวขึ้นในเรื่องนโยบายด้านสาธารณสุขในการจัดการปัญหาโควิด-19 ทว่าเช้าวันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม หลังจากที่ทรัมป์ออกจากโรงพยาบาล 1 วัน และอยู่โรงพยาบาลไม่ถึงสัปดาห์ เขาก็ออกมายืนปราศรัยที่ตรงระเบียงของทำเนียบขาว และใช้เวลาประมาณ 20 นาที บรรยายถึงสุขภาพที่ดีมากของตัวเอง ก่อนจะโอ้อวดศักยภาพทางสาธารณสุขของสหรัฐฯ และยืนยันว่าตัวเขาเองจะพาบ้านเมืองเอาชนะ “ไวรัสจีน” ได้อย่างแน่นอน (ในคำปราศรัยก็ใช้คำปรามาสประเทศจีนเพื่อเรียกความสนับสนุนด้วย)

อีกทั้งในคลิปหาเสียงของทรัมป์ ทีมหาเสียงของเขายังตัดต่อคำพูดของ“นายแพทย์แอนโธนี ฟาวซี” ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติที่ดำรงตำแหน่งเฉพาะกิจเป็นหัวหน้าทำงานเพื่อการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19ของทำเนียบขาว ที่มีเนื้อหาสื่อสารในทำนองที่ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้อย่างสุดกำลังแล้วในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าตัวเองก็ออกมาตำหนิทีมหาเสียงของทรัมป์ ว่านำคำพูดของเขาไปใช้หาเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตแถมยังเป็นการตัดตอนคำพูดของเขาบางส่วนอีกต่างหาก ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับทรัมป์ เพราะหลังจากคุณหมอแอนโธนีแฉออกมาแบบนี้ เขาก็ทวิตเตอร์ตอบโต้ทันที รวมไปถึงทีมหาเสียงก็ทวิตเตอร์ตอบโต้ด้วยเช่นกัน ในทำนองที่ว่า “พูดเองกับตัวแท้ ทำไมถึงไม่ยอมรับ”

และล่าสุดที่ฮือฮาก็คือการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตเตอร์ออกมาว่า ตัวเขาเองมีภูมิคุ้มกันโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เล่นเอาทวิตเตอร์ต้องติดธงเตือนข้อความของเขาในทันทีว่าอาจเป็นข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือได้ ทางด้านโจ ไบเดน ก็ไม่น้อยหน้าก็ทวิตเตอร์แซว “ไมค์ เพนน์” รองประธานาธิบดีในทีมของทรัมป์เช่นเดียวกัน ในประเด็นที่ดีเบตกับ “คามาร่า แฮร์ริส”ว่าที่รองประธานาธิบดี จากพรรคเดโมแครตแล้วมีแมลงวันเกาะอยู่บนหัวเป็นเวลานานจนไบเดนหยอกไปว่าอยากเสนอขายไม้ตีแมลงวันให้ ทั้งหมดนี้ก็เป็นความแสบสันในระหว่างการหาเสียงของทั้งสองผู้สมัครที่ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นใคร ย่อมมีอิทธิพลต่อนโยบายของทุกประเทศทั่วโลกอย่างแน่นอน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

กลับมามองกระแส #MeToo กันอีกครั้ง

กลับมามองกระแส #MeToo กันอีกครั้ง

24 เม.ย. 2565

ความสำคัญของพื้นที่ทางความมั่นคง

ความสำคัญของพื้นที่ทางความมั่นคง

17 เม.ย. 2565

รู้จัก ‘สินทรัพย์’ แห่งอนาคต

รู้จัก ‘สินทรัพย์’ แห่งอนาคต

20 มี.ค. 2565

‘การสื่อสาร’ คือ ความสำคัญของ ‘ผู้นำ’ ประเทศ

‘การสื่อสาร’ คือ ความสำคัญของ ‘ผู้นำ’ ประเทศ

13 มี.ค. 2565

อะไร คือ ‘ชัยชนะ’ ของ ‘ปูติน’

อะไร คือ ‘ชัยชนะ’ ของ ‘ปูติน’

6 มี.ค. 2565

เมื่อ ‘หมีขาว’ ผงาด

เมื่อ ‘หมีขาว’ ผงาด

27 ก.พ. 2565

‘ประชาชน’ ต้องเป็น ‘คำตอบ’ สำหรับ ‘การเจรจา’

‘ประชาชน’ ต้องเป็น ‘คำตอบ’ สำหรับ ‘การเจรจา’

20 ก.พ. 2565

หรือจะมี ‘สงครามโลก’ ครั้งที่ 3

หรือจะมี ‘สงครามโลก’ ครั้งที่ 3

13 ก.พ. 2565

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved