ไปชิมข้าวหลวงสูตรแม่บุญชูที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ขายมานานสับกระบอกจนขวานบิ่นไปหลายด้าม ล่าสุดคิดค้นไส้ฝอยทองสูตรใหม่ เนื้อเหลืองสวย รสชาติหวาน หอม อร่อย ลูกค้าต้องสั่งจองข้ามวัน
ยุคโควิด -19 หลายอาชีพต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงครอบครัวเพื่อความอยู่รอด ไปดูอีกหนึ่งอาชีพ คือการเผาข้าวหลามของนายศักดา แซ่เจีย และนางพิกุลวรรณ แก่นเครือ สองสามีภรรยาที่ได้สืบทอดต้นตำรับข้าวหลามแม่บุญชู หรือนางบุญชู แก่นเครือ อายุ 65 ปีผู้เป็นมารดาที่ทำมานานกว่า 30 ปีแล้วจนมีลูกค้าหลายคนบอกว่า ขายข้าวหลามมานาน จนขวานใช้สับบิ่นไปหลายด้ามแล้ว มีการตั้งชื่อร้านว่า “ข้าวหลามแม่บุญชู” ตั้งอยู่เลขที่ 60 / 1 หมู่ 1 ต.ชำแระ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
การทำจะเริ่มจากเตรียมไม้ไผ่ป่าที่ตัดมาทั้งลำ มีหลายขนาด ทั้งเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 3 วา เอามาเลื่อยเป็นท่อนยาวประมาณ 1 ฟุต ใช้เครื่องเลื่อยยนต์ตัดเป็นกระบอกระหว่างข้อกลางให้หัวท้ายเท่ากัน โดยจะใช้วันละประมาณ 500 กระบอกเพื่อนำไปบรรจุข้าวเหนียว กะทิ น้ำตาลทราย ถั่วดำ ลงในกระบอกก่อนนำไปเผา
ช่วงแรกเริ่มทำประมาณตี 2 ของทุกวันเรื่อยไปจนถึงเช้า เพื่อขายช่วงสายบริเวณหน้าร้านสำหรับลูกค้าที่ผ่านไปมา ส่วนชุดที่ 2 จะเริ่มเผาอีกครั้งในช่วงบ่าย 2 โมงขึ้นไปเพื่อจะไว้ส่งให้ลูกค้าเจ้าประจำจากต่างจังหวัดและในพื้นที่มารับไปขายต่อในวันรุ่งขึ้น ด้วยรสชาติที่หวาน มัน หอม กลมกล่อม อร่อยทำให้เป็นที่ถูกปากของ ลูกค้าและนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาซื้อกันอย่างไม่ขาดสาย
ต่อมาทางร้านได้คิดสูตรข้าวหลามไส้ฝอยทองขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้จะมีแค่ใช้ข้าวเหนียวดำและข้าวเหนียวขาวใส่ถั่วดำ แต่พอมาใส่เป็นไส้ฝอยทองพบว่าเนื้อข้าวเหนียวมีลักษณะสีเหลืองอ่อนสวยงามน่ากิน ข้าวเหนียวมีรสชาติหอมหวานอร่อยถูกปากลูกค้าถึงกับต้องสั่งจองล่วงหน้า แต่ละวันจะใช้ข้าวเหนียวประมาณ 35 กิโลกรัม ถั่วดำ 2 กิโลกรัม กะทิใช้เกือบ 20 กิโลกรัม เกลือ น้ำตาลทรายใช้ประมาณ 20-22 กิโลกรัม ตามสูตรการทำข้าวหลามเฉพาะของแม่บุญชู รสชาติที่อร่อยไม่เหมือนใคร
การเผาใช้ไฟถ่านจุดบนเตาที่มีลักษณะเป็นรางยาวใช้เหล็กพาดตรงกลางแล้วนำกระบอกข้าวหลามวางเรียงเป็นแถวยาวขณะเผาจะต้องคอยพลิกกระบอกกลับไปกลับมาเป็นระยะเพื่อให้ข้าวหลามสุกทั่วกระบอกใช้เวลาเผา 1 เตาประมาณ 2-3 ชั่วโมง สังเกตที่ปากกระบอกน้ำกะทิจะเริ่มแห้ง บอกถึงข้าวหลามกำลังจะสุก
นางพิกุลวรรณ แก่นเครือ ลูกสาวที่สืบทอดการเผาข้าวหลามจากแม่บุญชู กล่าวว่า ข้าวหลามจะขึ้นเรื่องความหวาน หอม มัน อร่อย เป็นข้าวหลามสูตรโบราณดั้งเดิมมาจากคุณแม่ของตนเอง ทำสูตรขึ้นมานานหลายปีแล้วที่ร้านยังคิดสูตรทำไส้ฝอยทองมี 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นการกรอกใส่ข้าวเหนียวลงไปในกระบอกก่อน ต่อมาจึงใส่ฝอยทองลงไปจะอยู่ช่วงประมาณกลางกระบอก และใส่ข้าวเหนียวลงไปเพิ่มให้เต็ม
จากนั้นก็จะใส่ฝอยทองที่ปากกระบอกอีกครั้ง เผาจนสุกได้ที่ จึงนำมาสับฝ่าขาย ทำมาหลายปีแล้วจนขวานที่ใช้สับบิ่นไปหลายเล่มแล้ว ช่วงแรกลองทำกินเล่น ๆ ก่อน แต่มองว่าแปลกดี
ส่วนความแตกต่างระหว่างข้าวหลามธรรมดากับใส่ฝอยทองจะแตกต่างที่ใส่ฝอยทองจะมีกลิ่นหอมกว่า ส่วนข้าวเหนียวมีสีเหลืองนวล รสชาติข้าวเหนียวจะออกหวาน ช่วงนี้มีออเดอร์สั่งเข้ามาเรื่อย ๆ มีสั่งจองข้ามวัน วันหนึ่งเผาข้าวหลามประมาณ 500 กระบอก มีหลายขนาด เป็นมัดขายมัดละ 50 บาท มีประมาณ 5 – 6 กระบอก กระบอกใหญ่กระบอกละ 20 บาท ส่วนไส้ฝอยทองขายกระบอกละ 30 บาทที่ร้านจะไม่ใช้สารกันบูด ถ้ากินไม่หมดจะอยู่ได้นานประมาณ 2 วัน
ช่วงสถานการณ์โควิด ระบาดทำให้ยอดการขายลดลงบ้าง แต่ด้วยความขยันและไม่ย่อท้อ พยายามคิดหาสูตรข้าวหลามใหม่ๆ ขึ้นมาจนมีลูกค้าทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด รวมทั้งแม่ค้าเดินทางมาซื้อไปวางขายกันหลายแห่ง ยอดจากที่เคยตกก็กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครอบครัวช่วยกันเผาข้าวหลามขายกันตั้งแต่กลางดึกไปจนถึงช่วงค่ำ ๆ ของทุกวันไม่มีวันหยุดเพื่อให้ทันกลับที่ลูกค้ามารอคอย สนใจอยากไปซื้อชิมไปได้ที่ร้านข้าวหลามแม่บุญชู หรือโทรสั่งจองล่วงหน้าประมาณ 1 วันติดต่อที่เบอร์นางพิกุลวรรณ แก่นเครือ 085 - 7041570 ได้ 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี