"9 เกร็ดธรรม" คำสอนของพระอาจารย์ปู่เจี๊ยะ จุนโท พระผู้เป็นดั่งผ้าขื้ริ้วห่อทอง วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
1.แต่ก่อนมีค่าเป็นร้อยเป็นชั่ง
ในปัจฉิมวัย ไม่ว่าในคราใดท่านประสบอาพาธหนัก นอนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง ท่านไม่แสดงความหวั่นไหว บ่งบอกความแข็งแกร่งนิสัยอาชาไนยอีกทั้งยังแสดงธรรมสอนลูกศิษย์ที่ไปเยี่ยมด้วยการเอาร่างกายของท่านเป็นเครื่องเปรียบเสมอว่า “ตอนเป็นหนุ่มเป็นสาว มีค่าเป็นร้อยเป็นชั่ง พอเดี๋ยวนี้ ๕๐ สตางค์ก็ไม่มีใครเอา”
2.กรรมที่เคยฆ่าหมา
ท่านเล่าถึงสาเหตุที่ต้องได้ทำการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังกดทับเส้นประสาทนอนแกร่วเป็นอัมพาตนี้ว่า“ตอนเป็นหนุ่ม เราเลี้ยงหมูไว้แยะ ต้มข้าวเอาไปวางให้หมูหมามันมากินหมด โมโหจัดจึงเอาไม้คานเจ็กตีหมาโป้งเดียวจอดสลบด้วยความที่โกรธจัด แม้หมาตัวนั้นจะนอนแน่นิ่งเหมือนตายแล้วก็คงเอาไม้คานตีกระหน่ำอยู่อย่างนั้นตีจนกระทั่งมันฟื้นขึ้นมาอีก ฟื้นขึ้นมาอีกตีซ้ำลงอีกแบบทารุณไร้เมตตาธรรมคราวนี้หมามันชักตาย...เสร็จเลยกรรมอันนี้แหละ เป็นกรรมในปัจจุบันชาติที่เราต้องชดใช้”
3.กรรมรีดลูกปลา
"และที่เรามีอาการชาและแบบที่ผิวหนังรอบทวารหนักไม่สามารถนั่งตัวตรงเป็นเวลานานๆ ได้นั้นก็เป็นกรรมในปัจจุบันซาติเช่นเดียวกันคือ ตอนหนุ่มๆ เราชอบเลี้ยงปลาเข็ม ปลาหัวเงินตามประสาเด็กรุ่นๆ ทำสนุกสนาน เวลาปลาหัวเงินปลาเข็มมันท้องแก่แต่ยังไม่ถึงเวลาคลอดลูก เราชอบรีดท้องรีดเอาลูกมันออกมาก่อนเวลา เอามาเลี้ยง มันทันใจดีเมื่อรีดเอาลูกมันออก แม่มันก็ตายด้วยผลกรรมคือรีดลูกจากท้องปลาที่เผ็ดร้อนทารุณนี้จึงเป็นกรรมที่ทำให้เราก้นชาและแสบทวารอยู่ไม่หาย"
4.ไม่เป็นไร ตายแล้วต่างคนต่างไป
ในบางวันมีผู้คนมากราบมากจนอลหม่านอย่างเช่นวันคล้ายวันเกิด จะมีทั้งพระและฆราวาสมาจากทุกสารทิศผู้อุปัฏฐากใกล้ชิดจำเป็นต้องห้ามต้องกันผู้คนทั้งที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยไม่ให้เข้ากราบ ปิดประตูห้องบางคนก็บ่นหาว่ากีดกันไปต่างๆ นานาผู้ที่เฝ้าอย่างใกล้ชิดก็รู้สึกกดดัน เครียดอยู่ไม่น้อยเมื่อกราบเรียนถามท่าน ท่านก็ตอบสั้นว่า "ไม่เป็นไร ตายแล้วต่างคนต่างไป"
5.คาถาหลวงปู่เจี๊ยะ
วันไหนท่านปวดที่ขา ปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัวหรือเจ็บปวดในที่อื่นใดก็ตามท่านก็จะให้ผู้ที่ดูแลท่องคาถาเป่าให้ท่านท่านบอกว่าเป็นคาถาดี โดยให้ท่องว่า "นโม วิมุตฺตานํ นโม วิมุตฺติยา" "ขอความนอบน้อมจงมีแก่ท่านผู้หลุดพ้นทั้งหลาย ความนอบน้อมจงมีแก่ธรรมเป็นเครื่องหลุดพ้นทั้งทลาย"
6.หัวล้านจริงๆ
บางวันท่านพูดตลกขำขันจนผู้คนที่มาเข้ากราบเฮตึงๆ วันนั้นร่างกายท่านสดใสแข็งแรงขึ้นบ้างตามสภาพ มีคนขอให้ท่านจับหัวให้เป็นศิริมงคล
คนแรกผู้ชายผมยาวๆ ท่านก็เคาะๆ คนที่สองผมเกรียนๆ ท่านก็เคาะๆคนที่สามเป็นคนหัวล้าน หัวล้านเอามากๆท่านเคาะๆ แล้วลูบๆ คลำๆ ที่ศีรษะแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงดังๆ ทั้งๆ ที่ป่วยนอนอยู่บนเตียงให้พรโยมหัวล้านคนนั้นว่า "หัวล้านหัวเหลือง หัวละเฟื้องสองไพ หัวล้านจริงๆ ผู้หญิงชอบใจ"
คนที่นั่งอยู่เต็มบริเวณหัวเราะกันเฮๆ ด้วยว่าในวันนั้นอากาศมันร้อนอบอ้าวคนที่มากราบ เหงื่อไหลไคลย้อยไปตามๆ กันภายในจิตในใจของแต่ละคนคงบ่นๆ ถึงดินฟ้าอากาศท่านจึงพูดขึ้นอีกว่า "มนุษย์ขี้เหม็น เคี่ยวเข็ญเทวดา ฝนตกก็แช่ง ฝนแล้งก็ด่า"
7.พูดตรงๆ
หลวงปู่ท่านเป็นพระที่พูดตรงๆ ตรงจนบางครั้งตลกขำกลิ้งไปเลยก็มี อย่างเช่นเวลาเข้าห้องน้ำปวดท้องอึ ท่านจะอึออกยากมากต้องเบ่งเป็นเวลานานๆ เวลาท่านอึที่ห้องน้ำ พระจะช่วยให้ท่านขับถ่ายง่ายขึ้นพระจะพยามยามพูดว่า “เบ่ง อืดดดดๆ ๆ ๆ ออกๆ” ตามจังหวะกลั้นลมหายใจยาวๆ เมื่อพระพูดมากเข้า ท่านจึงพูดสวนขึ้นทันที “มึงเบ่งทำไมวะ มึงไม่ได้ขี้ กูเป็นคนขี้ เดี๋ยวกูเบ่งเอง กูขี้เอง มึงเบ่งแล้วกูจะขี้ออกหรือ?” พระทั้งหลายที่อยู่ในห้องน้ำสุดที่จะกลั้นหัวเราะไว้ได้
8.รักสัตว์
หลวงปู่เจี๊ยะชอบเลี้ยงหมาไทยหลังอานสมัยก่อนที่ท่านจะอาพาธ ทานชอบเลี้ยงแมวกับหมาท่านพูดกับแมวกับหมาเหมือนพูดกับคนบางทีท่านฉันข้าวไปด้วยป้อนข้าวแมวไปด้วยท่านมีเมตตาเป็นสาธารณะจริงๆ
"มึงไปเที่ยวสาวไกลๆ ระวังเถอะจะตาย" ท่านพูดกับหมาหลังอานของท่านแล้วท่านก็พูดสั่งสอนตักเตือนต่างๆ เหมือนพูดกับคน
วันหนึ่งท่านสั่งให้พระจับหมาขังกรงไว้ไม่ปล่อยให้มันไปเที่ยวไหนๆ พระสงสารเห็นหมามันร้องเอ๋งๆ ก็ปล่อยออกไปพอปล่อยออกไปมันก็ไปเที่ยวหาตัวเมีย เขาก็เอามีดฟันคอมันตายพวกพระจึงถึงบางอ้อว่า ที่ท่านขังไว้ไม่ปล่อยไปเพราะท่านรู้ว่าถ้าปล่อยไป เขาจะฆ่ามันตาย
9.ย้ำให้ว่าพุทโธเร็วๆ
แม้ในขณะที่นอนป่วยอยู่บนเตียง เมื่อมีคนมาถามเรื่องภาวนาท่านจะเมตตาตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ให้พุทโธ เร็วๆ ๆ เหมือนรั้วบ้านเราถี่ๆ อะไรล่ะจะเข้ามาได้” แล้วท่านก็พูดเรื่อง กิเลส กรรม วิบาก ว่า พวกเราทุกคนอยู่กับร่างกายนี้มาหลายภพชาติแล้ว แต่อวิชชามันปิดบังจึงจำไม่ได้ ให้พากันปฏิบัติ ศีล สมาธิ ปัญญา นะ เพราะว่า ศีลเป็นเหตุ สมาธิเป็นผล สมาธิเป็นเหตุ ปัญญาเป็นผล ปัญญาเป็นเหตุ วิมุตติเป็นผลฯ (จบ)
............................
ตามรอยพระอริยะเจ้า! "หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท" พระผู้เป็นดั่งผ้าขื้ริ้วห่อทอง คัดลอกจากหนังสือ "ตามรอยพระอริยเจ้าหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี" ท่านคือสมณะสงฆ์สายป่าผู้เป็นผ้าขี้ริ้วห่อทองของแม่ทัพกรรมฐานแห่งสยาม : ดำรงธรรม เรียบเรียง - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี