สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนการวิจัยในประเทศอย่างต่อเนื่อง
โดยเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา คณะผู้บริหาร วช.ได้นำสื่อมวลชน เดินทางลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อเยี่ยมชมผลสำเร็จงานวิจัยโครงการต้นแบบการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านการวิจัยและนวัตกรรม ด้านการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวภายหลังการเยี่ยมชมว่า วช. ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้เพื่อใช้ประโยชน์ โดยขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดการนำผลงานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ถ่ายทอดเพื่อพัฒนา แก้ไขปัญหาท้าทายสังคม รวมถึงส่งเสริมสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศเชื่อมโยงกิจกรรมการวิจัยและพัฒนาในการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมที่ช่วยจัดการห่วงโซ่อุปทาน เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์สินค้า และบริการให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน หนุนระบบชุมชนท้องถิ่นให้สามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ผ่านการบูรณาการความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม เพื่อส่งเสริมและยกระดับให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนและพื้นที่เป้าหมายดีขึ้น
โดยการเยี่ยมชมครั้งนี้ ประกอบไปด้วย 3 โครงการวิจัย ได้แก่ โครงการพัฒนาถุงมือยางธรรมชาติเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ดำเนินโครงการโดย ผศ.นพ.วรวิทย์วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้จัดทำถุงมือยางธรรมชาติเคลือบน้ำยานาโนอิมัลชันป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อส่งมอบให้ประชาชน ผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสงขลา เป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยคนไทยและสามารถใช้งานได้จริงและลดปัญหายางพาราซึ่งมีราคาตกต่ำอีกทางหนึ่งด้วย มีคุณสมบัติสามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยตนเอง ที่ผลิตจากยางสังเคราะห์เคลือบสูตรน้ำยานาโนอิมัลชัน มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส อยู่ได้ประมาณ 24 ชั่วโมง มีความปลอดภัยในการใช้งานลดการปนเปื้อน และป้องกันการติดเชื้อจากการสัมผัสลงได้เป็นอย่างดี
โครงการการประเมินประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากพืชกระท่อมเพื่อสุขภาพ ทีมนักวิจัยจากสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มอ. ได้นำองค์ความรู้จากการวิจัยมาผลิตสารสกัดมาตรฐานสมุนไพรเพื่อใช้ในทางการแพทย์ในการผลิตสารสกัดจากพืชกระท่อมให้มีมาตรฐานความปลอดภัยโดยสร้างโรงงานต้นแบบสกัดสารสมุนไพรพืชกระท่อม เป็นยา หรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้ รวมถึงพัฒนาและศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของตำรับเครื่องดื่มเข้มข้นจากสารสกัดใบพืชกระท่อมรสกาแฟ เพื่อส่งเสริมสุขภาพทำให้ร่างกายสดชื่น ตำรับผงแกรนูลากสารสกัดใบพืชกระท่อมเพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และตำรับครีมเพื่อใช้บรรเทาอาการปวดข้อเข่า และประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์สมุนไพรพืชกระท่อมเพื่อสุขภาพ
โครงการการผลิตเครื่องดื่มฟังก์ชันนอลชนิดผงสำเร็จรูปจากสารสกัดข้าวกล้องสังข์หยดอินทรีย์สำหรับผู้สูงวัยและวัยทำงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ข้าวสังข์หยดพัทลุงที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันยับยั้งการเกิดโรคจากความเสื่อมของเซลล์ ช่วยชะลอความชราและลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต่างๆ โดยมี ดร.พรวิชัย เต็มบุตร หัวหน้าโครงการ พร้อมทีมนักวิจัยจากคณะอุตสาหกรรมเกษตรและชีวภาพ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ร่วมมือกับสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มอ. ได้นำข้าวสังข์หยดหักท่อนที่ผ่านมาตรฐานอินทรีย์และ GI มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชั่นเพื่อสุขภาพ เป็นเครื่องดื่มฟังก์ชันนอล 2 สูตร คือ สูตรเสริมถั่ว 5 สี ที่ช่วยบำรุงร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระ และโปรตีนสูงเสริมความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อหัวใจ และ สูตรเสริมโพไบโอติก ที่ช่วยในการขับถ่ายที่ปลอดภัย เหมาะกับผู้สูงอายุและวัยทำงาน ซึ่งการแปรรูปข้าวจะมาช่วยแก้ปัญหาไม่มีผู้รับซื้อข้าวตกเกรด และเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวสังข์หยดอินทรีย์ ที่สำคัญช่วยยกระดับมาตรฐานการครองชีพและความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสังข์หยดอินทรีย์พัทลุงในชุมชนให้ดีขึ้น
ดร.วิภารัตน์ กล่าวว่าในส่วนของ วช. ภายใต้กระทรวง อว. ให้ความสำคัญของการสนับสนุนในส่วนของงานวิจัยในรายภูมิภาคในพื้นที่โดยเฉพาะในโอกาสของการสร้างเศรษฐกิจที่ดีขึ้นด้วยวิจัยนวัตกรรมให้กับส่วนภูมิภาคงานของ มอ. วันนี้เป็นส่วนหนึ่งและส่วนสำคัญที่ได้วางทิศทางของการวิจัยและพัฒนามาช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ในการดึงเรื่องของพืชเศรษฐกิจที่มีความสำคัญของภูมิภาค ทั้งพืชเศรษฐกิจตัวใหม่และพืชท้องถิ่นมาทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นมีหลายชิ้น ตั้งแต่ในเรื่องของงานสเกลที่ค่อนข้างใหญ่ก็คือในเรื่องของตัวพืชกระท่อม
ตอนนี้ทาง มอ. ได้มีตัวแพลตฟอร์มของการทำงานที่ค่อนข้างครอบคลุมและสามารถดูแลตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ ทางมอ.มีแพลนของท่านเองแล้วมีมาตรฐานของแพลนและในส่วนของ วช.ได้ให้การสนับสนุนในเรื่องของการพัฒนาในเรื่องของผลิตภัณฑ์ ที่จะสร้างโอกาสทางด้านเศรษฐกิจในเชิงของตัวงานให้เกิดขึ้นหลายตัวเพราะว่าพืชกระท่อมมีคุณสมบัติ มีสารสกัดที่เป็นที่ยอมรับในทางวิชาการในเรื่องของการลดน้ำตาลในเลือด และยังมีเรื่องของความสดชื่นแล้วก็ยังมีพืชเศรษฐกิจอื่นอย่างเช่นเรื่องของยางพารา เรื่องของการสร้างโอกาสในการแปรรูปผลิตภัณฑ์โดยใช้วัตถุดิบของตัวยางพาราทำให้เกิดการใช้งานในเชิงนวัตกรรม เรื่องของถุงมือยางนาโนอิมัลชัน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ช่วยได้เยอะเรื่องของการป้องกันการติดเชื้อ และมีคุณภาพที่ดี และยังมีการมาดูงานที่เกี่ยวข้องกับพืชท้องถิ่นที่สำคัญคือ ข้าวสังข์หยด
ส่วน ม.ทักษิณ ก็ได้ทำงานอย่างดีเยี่ยม สามารถที่จะพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ตอนนี้ก็เตรียมที่จะผลิตแล้ว มีการคุยกับผู้ประกอบการแล้ว และจะนำสู่เรื่องมาตรฐานที่ อย. ยอมรับต่อไป และยังมีผลงานดีๆ ที่ทาง มอ. เป็นแกนร่วมกับทางมหาวิทยาลัยพันธมิตรในพื้นที่ในการสร้างสรรค์ผลงานที่สำคัญอีกหลายส่วน
ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กล่าวว่า ม.สงขลานครินทร์ ได้รับทุนสนับสนุนตัววิจัยพื้นฐานเกี่ยวกับเรื่องของกระท่อม ทาง วช. ก็ได้สนับสนุน และเพื่อเศรษฐกิจฐานรากที่ผ่านมา มอ. ก็ได้รับทุนจากหน่วยงานบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ในการทำโรงงานต้นแบบทั่วประเทศ แล้วก็ประกอบกับได้ทุนตรงนี้ขึ้นมาเพื่อพัฒนาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ได้เป็นโรงงานตัวต้นแบบ และมีการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจฐานราก ตามที่ วช. ได้ให้คำแนะนำมา เราเองก็อยากให้เกษตรกรไทยอยู่ได้จากการปลูกกระท่อมและอยู่ได้อย่างยั่งยืน ก็เป็นโครงการที่ดีและก็อาศัยเรื่องของข้อมูลทั้งหมดที่เข้ามาทำให้เกิดมาตรฐานเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการปลูกต้นน้ำ หรือมาตรฐานกลางน้ำ และปลายน้ำที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้สมุนไพรเกิดได้อย่างยั่งยืน
เรื่องที่ 2 ถุงมือยางพารา ที่จะมีการเคลือบสารสกัดจากองุ่นและชาเขียวเป็นการพัฒนาร่วมมือกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์และร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ สถาบันวิจัยนวัตกรรมทางการแพทย์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เป็นตัวถุงมือที่สามารถป้องกันโรคโควิดได้ เพราะที่ผ่านมาเรามีการป้องกัน โดยใส่แมส ฉีดวัคซีน แต่สุดท้ายในเรื่องของการสัมผัสเรายังไม่มีการป้องกัน ก็เลยมีแนวคิดที่จะมีการทำถุงมือในเรื่องของสารสกัดที่ทำจากองุ่นและชาเขียวที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ สามารถฆ่าเชื้อโควิดได้ประมาณ 99.95% ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาต่อยอดส่งเสริมให้มีการใช้ทั่วประเทศในอนาคตนี่ก็เป็นโครงการที่ วช.ได้สนับสนุนมาตลอด สามารถช่วยเศรษฐกิจฐานรากโดยการที่ทำให้มีการใช้ยางพาราธรรมชาติได้นานยิ่งขึ้น ส่วนโครงการที่ 3 เป็นโครงการข้าวสังข์หยดของ ม.ทักษิณ ที่นำข้าวสังข์หยดที่เหลืออยู่เพิ่มมูลค่าให้ผู้สูงอายุ เป็นอาหารทางการแพทย์โดย ม.ทักษิณร่วมกับ ม.สงขลานครินทร์ เพื่อเป็นการส่งเสริมเกษตรกรและผู้สูงอายุด้วย ขอขอบคุณทาง วช. มากที่ให้โอกาสในการที่จะต่อยอดเกษตรกรฐานรากต่อไปในอนาคต
ดร.วิภารัตน์ กล่าวย้ำว่า ที่น่าสนใจคือ ม.สงขลานครินทร์ ก็เป็นมหาวิทยาลัยแกนหลักในภูมิภาคทางภาคใต้ สามารถที่จะดึงโอกาส ดึงความพร้อมและก็ดึงความสำเร็จของงานภายใต้หลากหลายมิติสาขาวิชาการมาร่วมกันทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ของงานตอนนี้เราคงไม่ได้คุยกันเฉพาะในส่วนของผู้เชี่ยวชาญจากคณะแพทยศาสตร์ หรือจากคณะเภสัชศาสตร์ แต่คุยกันในภาพใหญ่ๆใน 1 ผลิตภัณฑ์ มีการทำงานร่วมกันในมิติเชิงบูรณาการหลายสาขามีทั้งคณะแพทย์ คณะวิศวะ ยังมีด้านเกษตร และเรื่องของเชิงการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง และยังมีพันธมิตรของมหาวิทยาลัยในพื้นที่อีกหลายหน่วยเข้ามาร่วมกันทำงาน
ตอนนี้จะเห็นภาพการทำงานแบบนี้เกิดขึ้นภายใต้กระทรวง อว. ซึ่งทาง วช. เองก็รับนโยบายในการที่จะให้การสนับสนุน ให้การส่งเสริมให้การขับเคลื่อนทั้งหมดจะมีผลกับไปสู่พี่น้องประชาชนที่รับประโยชน์ โดยใช้ในเรื่องของเทคโนโลยีนวัตกรรมในการส่งเสริมทำให้เศรษฐกิจฐานรากของพี่น้องได้มีโอกาสในการที่จะมีคุณภาพชีวิตและรายได้ที่ดีขึ้น คิดว่าหลังจากนี้จะมีผลงานดีๆ จาก ม.สงขลานครินทร์ ม.ทักษิณ และมหาวิทยาลัยเครือข่ายในภูมิภาคทางภาคใต้เกิดขึ้นอีกหลายผลงาน
สำหรับโครงการวิจัยทั้ง 3 โครงการได้รับการสนับสนุนการวิจัยจาก วช. ในแผนงานการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านการวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้โครงการต้นแบบการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านการวิจัยและนวัตกรรม ด้านการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก ในพื้นที่ จ.สงขลาและจังหวัดใกล้เคียง อันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี