จากกระแสของ “อากาศยานไร้คนขับ” หรือ “โดรน” ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในเรื่องการทำแผนที่ และทางการทหาร เพื่อการเกษตร และอื่นๆ การบังคับโดรนยังเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่ต้องใช้ทักษะทางเทคโนโลยี นวัตกรรม สามารถสร้างความเป็นเลิศให้เยาวชนไทยได้อย่างยอดเยี่ยม จนเป็นหนึ่งเดียวในอาเซียน และเป็นหนึ่งในเก้าของโลกกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ หรือโดรน ที่สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ได้ออกตระเวนสอนเครื่องบินบังคับในสถานศึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และพยายามจัดการแข่งขันในสถานศึกษามาอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมมากคือร่วมจัดการแข่งขัน หนูน้อยเจ้าเวหาร่วมกับสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส
นอกจากนี้ ยังมีผลงาน การแปรอักษรในพระราชพิธี และบินโดรนเฉลิมพระเกียรติฯ ในรัฐพิธีต่างๆซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ได้จัดอบรม และถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีโดรนในด้านต่างๆ ส่งเสริมการพัฒนาและสร้างนวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยีโดรน พัฒนาความรู้เพื่อนำไปต่อยอดปรับใช้กับการทำงานได้จริงมาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม “การอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดรนแปรอักษรเพื่อประยุกต์สู่การใช้งาน” ภาคกลาง ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 8-10 กรกฎาคม 2565 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเกี่ยวกับ “โดรนแปรอักษร” และการพัฒนาซอฟต์แวร์โดรนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้งาน ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการสร้างนวัตกรรม และนวัตกร ที่จะนำองค์ความรู้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน (Drone) ที่ได้รับมาพัฒนาต่อยอดและปรับใช้กับการทำงานในด้านต่างๆ ให้กับนักเรียน นักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่างๆ ในภาคกลาง
โดยเป็นการอบรมบ่มเพาะเชิงบูรณาการ ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติและลงมือทำในสิ่งต่างๆ ในสภาพแวดล้อมจริง ได้ฝึกคิด ฝึกทำ ฝึกทักษะ ฝึกปฏิบัติด้วยตนเองผ่านกิจกรรม “โดรนแปรอักษร” โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่องผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมฯ และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดรนแปรอักษรเพื่อประยุกต์สู่การใช้งาน โดย สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ และผู้ทรงคุณวุฒิ วช. เข้าร่วมในพิธีเปิดการอบรมฯ
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติหรือ วช. ภายใต้กระทรวง อว. กล่าวว่า วช.มีความมุ่งมั่นในการที่จะสนับสนุนในเรื่องการพัฒนางานหรือประติมากรรมระดับเยาวชน ซึ่งในเรื่องของโดรนแปรอักษรเป็นการพัฒนาและให้ความรู้ที่ทาง วช. ให้การสนับสนุนผ่านทางสมาคมเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ถือว่าเป็นกลไกที่สำคัญอย่างหนี่ง ซึ่งมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จริงๆ ทำมาหลายช่วงปีเป็นหลักสิบปี มีพัฒนาการตั้งแต่เครื่องบินจำลองมาจนถึงปัจจุบันในเรื่องของโดรนแปรอักษรซึ่งพัฒนาการทางด้านนวัตกรรมถือว่ามีความทันสมัยและตอบโจทย์ในเรื่องของการวิเคราะห์ในระดับเยาวชน การมีส่วนร่วม และที่สำคัญสามารถนำไปใช้งานหรือใช้ประโยชน์ได้จริงและในช่วงของกิจกรรม 2-3 วันนี้ เราจะมีบุคลากรมีน้องๆ เยาวชนที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องของการเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ในเรื่องของการแปรอักษรโดยใช้โดรนเกิดขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 50 คนซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 แล้ว
“หลังจากนี้ก็จะมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องอีก 2 ครั้ง ในช่วงระยะเวลาประมาณสัก 3-4 เดือน เราจะพัฒนาเยาวชนที่เป็นนักประดิษฐ์ในเรื่องของโดรนแปรอักษรได้ร่วม 200 กว่าคน ซึ่งถือว่าเป็นกำลังสำคัญของประเทศต่อไป และในส่วนของกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากการให้ความรู้ทาง วช. ก็คาดหวังว่าในเรื่องของนวัตกรรมโดรนแปรอักษรที่เกิดขึ้นจะสามารถทำให้ทุนทางปัญญาของประเทศในเรื่องของความรู้ความสามารถของเยาวชนเรื่องเทคโนโลยีได้พัฒนาและสามารถที่จะตอบโจทย์ในความท้าทายใหม่ๆ มีความรู้ความชำนาญและมีประสบการณ์ในด้านนี้ เพิ่มมากขึ้น เกิดการพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รองรับการขยายตัวของเทคโนโลยี ด้านการบินในอนาคต อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศต่อไป” ดร.วิภารัตน์กล่าว
นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล นายกสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ กล่าวว่า สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับทำงานร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2548 ระยะเวลาร่วม 20 ปี มีนโยบายที่มุ่งส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาด้านการศึกษา การพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ให้เกิดการสร้างนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ในการนี้สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับโดรนในประเทศ ที่ประสบผลสำเร็จในการคิดค้นและพัฒนาซอฟต์แวร์การสั่งงานโดรนแปรอักษร ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ กล่าวได้ว่าเป็น“โดรนแปรอักษร” ฝีมือคนไทย และเป็นนวัตกรรมหนึ่งเดียวในอาเซียน และ 1 ใน 9 ของโลก ซึ่งเป็นการยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีของคนไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้นทัดเทียมกับเทคโนโลยีของต่างประเทศ
นายพิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า ทางสมาคมฯได้ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดโครงการ “อบรมเชิงปฏิบัติการการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดรนแปรอักษรเพื่อประยุกต์สู่การใช้งาน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเกี่ยวกับ“โดรนแปรอักษร”และการพัฒนาซอฟแวร์โดรนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้งาน ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการสร้างนวัตกรรม และนวัตกร ที่จะนำความรู้เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ที่ได้รับมาพัฒนาต่อยอดและปรับใช้กับการทำงานในด้านต่างๆ ให้กับนักเรียนนักศึกษาในสถาบันการศึกษาต่างๆทั่วประเทศ โดยเป็นการอบรมบ่มเพาะเชิงบูรณาการ ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติและลงมือทำในสิ่งต่างๆ ในสภาพแวดล้อมจริง ได้ฝึกคิด ฝึกทำ ฝึกทักษะ
ด.ช.ศุภกร สุนทรธรรมรัต
“ผลที่ผ่านมาจากการอบรมครั้งที่ 1 เราได้นักเรียนที่มีความสามารถในการควบคุมโดรนแปรอักษรจำนวน 300 ลำ ขึ้นสู่บนท้องฟ้าด้วยตัวเขาเอง และที่สำคัญในเรื่องของภาษา c หรือ c++ เด็กเหล่านี้มีความสามารถในเรื่องของการสร้างและทำให้โดรนเหล่านั้นขึ้นได้ด้วยตนเอง โดยเขียนชื่อโรงเรียนของตัวเอง เขียนชื่อสถาบันของตัวเองได้ แล้วชื่อโรงเรียนหรือสถาบันของตัวเองขึ้นสู่ท้องฟ้าได้เป็นผลสำเร็จด้วยตัวเขาเอง นี่คือความภาคภูมิใจและสิ่งที่สำคัญที่สุดในงานและพิธีต่างๆที่จะเกิดขึ้น หลังจากนี้ต่อไปน่าจะไม่เกิน 1 ปี ทุกจังหวัดน่าจะมีโดรนแปรอักษรขึ้นได้ทั่วประเทศ” นายพิศิษฐ์ กล่าว
ส่วนกิจกรรมต่อไป จะจัดที่จังหวัดเพชรบุรี โรงเรียนพรหมมานุสรณ์ ติดกับเขาวัง ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่สวยและเป็นสิ่งที่ชาวจังหวัดเพชรบุรีเรียกร้องมาว่าอยากให้เราไปจัดกิจกรรมตรงนั้น เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่จะพัฒนาเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติด โดยเฉพาะการเล่นเกมถือว่ามีประโยชน์อีกแบบหนึ่ง แต่ถ้าเล่นเกมแบบติดงอมแงม อันนั้นจะเกิดประโยชน์ไม่ได้ แต่สิ่งที่จะช่วยเขาให้เลิกจากการเล่นเกมคือทำให้เขาเกิดความเป็นฮีโร่ ได้มีเวทีให้เขาแสดงโดยเฉพาะโดรนแปรอักษร แค่นิ้วเดียวของเขาสามารถสั่งโดรนขึ้นเป็นร้อยเป็นพันลำผมว่าความภาคภูมิใจและแรงบันดาลใจที่จะทำให้เขาเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพทางด้านเทคโนโลยีของประเทศในอนาคตเกิดขึ้นได้อีกมากมายแน่นอน
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง
ด.ช.ศุภกร สุนทรธรรมรัต หรือ น้องปลื้ม อายุ 12 ปี จากโรงเรียนสาธิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หนึ่งในน้องๆ ที่เข้ารับการอบรม กล่าวว่าสนใจมาโครงการนี้เพราะว่าเกี่ยวกับเรื่องโดรนและเทคโนโลยี ซึ่งตนก็ชอบเรื่องโดรนและเทคโนโลยีอยู่แล้วด้วย และเคยเห็นผลงานของอาจารย์พิศิษฐ์ จึงอยากลองมา
เรียนมากๆ และวันนี้ได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เราจะทำยังไงโดรนถึงจะบินขึ้นไปแล้วไปทำรูปต่างๆ ได้เช่น วันนี้ตอนเช้าก็จะมีรูปโลกและอักษรอยุธยา ก็ได้เรียนรู้ว่ามันทำยังไงบ้าง ใช้โปรแกรมอะไรในการทำให้โดรนบินขึ้น ก็จะเอาความรู้ที่ได้เอามาพัฒนาตัวเอง อาจจะทำโชว์แปรโดรนอักษรเล็กๆ เพื่อหารายได้ให้กับตัวเองเพิ่มเติม
“อยากให้เพื่อนๆหันมาสนใจและหันมาลองทำดูในเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ เช่น โดรน โดรนเป็นกิจกรรมที่สนุกมากๆและทำให้เราได้เรียนรู้บางอย่างเพิ่มเติมที่เรายังไม่เคยเรียนรู้มาก่อนด้วยผมได้ส่วนตรงนี้แล้วผมก็จะไปชวนเพื่อนๆว่าโดรนมันน่าสนใจและอยากให้มาลองทำดูและหลังจากนั้นเพื่อนๆก็จะได้รู้ถึงความสนุกว่าโดรนมันสามารถบังคับยังไงได้บ้าง นอกจากบังคับด้วยรีโมท ใช้โปรแกรมได้แล้ว และสามารถทำอะไรอย่างอื่นบ้าง และไปชวนเพื่อนของเพื่อนมาอีกทีเพื่อจะให้คนเยอะๆและความสนุกก็จะเพิ่มขึ้น” ด.ช.ศุภกร กล่าว
นายพิศิษฐ์ มิตรเกื้อกูล
สำหรับการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม “การอบรมเชิงปฏิบัติการถ่ายทอดเทคโนโลยีโดรนแปรอักษรเพื่อประยุกต์สู่การใช้งาน” กำหนดจัดการอบรมในภาคกลางจำนวน 4 ครั้ง ที่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดราชบุรี มีโรงเรียนเข้าร่วมทั้งสิ้น 25 โรงเรียนอบรมครั้งละ 50 คน รวมจำนวนผู้เข้าอบรมรวมทั้งสิ้น 200 คน
ทั้งนี้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีโดรนแปรอักษรเพื่อประยุกต์สู่การใช้งานที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ และแพลตฟอร์มระบบปัญญาประดิษฐ์ มีการพัฒนาและส่งเสริมให้ใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ปรับใช้เพื่อสร้างประโยชน์ทั้งทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เทียบเท่าระดับสากลอย่างยั่งยืนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี