กรุงเทพมหานคร (กทม.) จับมือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ชวนประชากรแฝงกว่า 7 แสนรายลงทะเบียนสิทธิบัตรทองในกรุงเทพ พร้อมจับมือโรงพยาบาลเอกชน รับส่งต่อผู้ป่วยสิทธิบัตรทองในพื้นที่ กทม.เข้าถึงการรักษาสะดวก รวดเร็ว โดยมีการแถลงข่าวร่วมกันไปเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา
ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่มีความสลับซับซ้อน และมีประชากรหนาแน่น รวมถึงประชากรแฝง การจัดระบบดูแลสุขภาพจึงต้องมีความจำเพาะพิเศษ ความร่วมมือระหว่างกรุงเทพมหานคร สปสช.และโรงพยาบาลเอกชนในครั้งนี้ จะช่วยทำให้ประชากรแฝงกว่า7 แสนราย ที่เข้ามาทำงานหรือมาเรียนและพักอาศัยใน กทม.ได้ลงทะเบียนเลือกสถานพยาบาลใกล้ที่ทำงาน ที่เรียน หรือตรงตามที่พักอาศัย เพื่อได้รับการรักษาใกล้บ้านใกล้ใจ
“ต้องขอบคุณทาง สปสช.ที่ได้จัดเตรียมเครือข่ายหน่วยบริการ และขอบคุณโรงพยาบาลเอกชนที่เข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการรับ-ส่งต่อดูแลประชาชนในพื้นที่ กทม. ในส่วนของกรุงเทพมหานครทางสำนักอนามัยได้เตรียมความพร้อมศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่งทั้ง 50 เขต ทำหน้าที่เป็น Area Manager ผู้จัดระบบบริการสาธารณสุขอย่างมีประสิทธิภาพ” นายชัชชาติ กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาภายใต้นโยบายผู้ว่าฯกทม. ได้จัดทำนโยบายด้านการรักษาพยาบาล 9 ข้อ เพื่อยกระดับบริการสุขภาพให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการขยายโครงการโรงพยาบาล 10,000 เตียง (Home ward), หมอถึงบ้านผ่าน Telemedicine, Mobile Medical Unit รถตรวจสุขภาพเชิงรุก ส่งเสริมกลไกภาคประชาชนสุขภาพดีผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพกรุงเทพมหานคร การรักษาและส่งตัวผู้ป่วยไร้รอยต่อด้วยการบูรณาการข้อมูล เป็นต้น ทั้งนี้ ด้วยนโยบายและสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้น จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนระบบสุขภาพตามนโยบายให้บรรลุผลสำเร็จได้
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่าหลังจากที่คณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขต (อปสข.) เขต 13 กรุงเทพมหานคร ได้ประชุมร่วมกับ กทม. เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบบริการสาธารณสุขในพื้นที่ กทม. โดยมีประเด็นสำคัญคือการให้ประชากรแฝงประมาณ 7 แสนคนที่เข้ามาทำงานหรือมาเรียนและอยู่อาศัยใน กทม. แต่ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมา ได้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิบัตรทองใน กทม.
ซึ่ง สปสช.จะร่วมกับกรุงเทพมหานคร ดำเนินการให้ทุกคนได้ลงทะเบียนกับหน่วยบริการประจำใน กทม.ที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน ที่เรียน หรือที่พักอาศัย โดยไม่ต้องย้ายทะเบียนบ้าน เมื่อเจ็บป่วยก็เข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลที่ลงทะเบียนเลือกไว้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนกลุ่มนี้เข้าถึงการรักษาพยาบาลได้ง่ายและสะดวกขึ้น โดย สปสช.ได้จัดเตรียมเครือข่ายหน่วยบริการรองรับประชาชนกลุ่มนี้ มีคลินิกชุมชนอบอุ่นเกือบ 300 แห่ง ให้เลือกเป็นหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลปฐมภูมิและมีศูนย์บริการสาธารณสุข 69 แห่ง ทั้ง 50 เขตโดยสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เป็นหน่วยบริการประจำของท่าน เมื่อเกินศักยภาพจะได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลรับส่งต่อ
นอกจากนี้ สปสช.และกรุงเทพมหานคร ยังได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่นอกระบบมาร่วมเป็นสถานพยาบาลรับ-ส่งต่อซึ่งเป็นไปตามมาตรา 7 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 เพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยที่มีเหตุสมควร เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลอื่นได้ โดยบัญชีเครือข่ายหน่วยบริการ จะขึ้นรายชื่อหน่วยบริการรับ-ส่งต่อว่า สายด่วน 1330 ประสานส่งต่อ
“กรณีนี้หมายความว่า เมื่อท่านเจ็บป่วยแล้วไปรักษาที่สถานพยาบาลปฐมภูมิ/ประจำที่ลงทะเบียนเลือกไว้ กรณีที่จำเป็นต้องส่งต่อไปรักษา หรือ ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยใน เนื่องจากเกินศักยภาพของสถานพยาบาลปฐมภูมิ/ประจำ เจ้าหน้าที่ของสถานพยาบาลจะโทรมาที่สายด่วน สปสช. 1330 เพื่อเป็นผู้ประสานการส่งต่อกับสถานพยาบาลให้ ขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมแล้ว 17 แห่ง ทำให้ขยายจำนวนเตียงสำรองเพิ่มถึง 572 เตียง” เลขาธิการ สปสช. ระบุ
ทั้งนี้ สปสช.ขอเชิญประชากรแฝงกว่า 7 แสนราย ที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ กทม.แต่ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านมา สามารถลงทะเบียนเลือกสถานพยาบาลประจำตัวใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน หรือใกล้สถานศึกษาได้ โดยไม่จำเป็นต้องย้ายทะเบียนบ้านมา เพียงใช้หลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ 1.หนังสือรับรองของเจ้าของบ้าน หรือ 2.หนังสือรับรองของผู้นำชุมชน หรือ 3.หนังสือรับรองผู้ว่าจ้างหรือนายจ้าง หรือ 4.เอกสารหรือหลักฐานที่มีชื่อของผู้ประสงค์ลงทะเบียน เช่น ใบเสร็จค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าที่พัก สัญญาเช่าที่พัก ฯลฯ
หรือ 5.ผู้ที่ต้องการลงทะเบียนทำหนังสือรับรองตนเองได้ โดยลงทะเบียนได้ง่ายๆ ผ่าน 3 ช่องทาง 1.แอปพลิเคชั่น สปสช. เลือกเมนูเปลี่ยนหน่วยบริการ 2.ไลน์ OA สปสช. (พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso ในช่องเพิ่มเพื่อน) เลือกเมนูเปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเอง หรือติดต่อด้วยตนเองที่ศูนย์บริการสาธารณสุข หรือที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ (อาคารบี) ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. ในวันเวลาราชการ หากไม่สะดวกสามารถ โทร.สายด่วน สปสช. 1330 ได้เช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี