'กฎแห่งกรรม'ทำงานอย่างยุติธรรม ไม่มีการเข้าข้างใคร ทุกคนล้วนอยู่ภายใต้กฎนี้
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ มีกฎสากลอยู่ข้อหนึ่งที่ทำงานอย่างเที่ยงตรงและเป็นธรรมเสมอ นั่นคือกฎแห่งกรรม หรือที่เราคุ้นเคยกันดีในพุทธศาสนา กฎนี้สอนให้เรารู้ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วย่อมได้รับผลชั่ว หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น" นี่ไม่ใช่เพียงแค่คำกล่าวอ้างลอยๆ แต่เป็นความจริงที่ปรากฏให้เห็นในทุกขณะของชีวิต
กรรม มาจากภาษาบาลี แปลว่า การกระทำ ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การเคลื่อนไหวทางกายเท่านั้น แต่รวมถึง การกระทำทางวาจา (คำพูด) และ การกระทำทางใจ (ความคิด) ด้วย กฎแห่งกรรมจึงเป็นกฎที่ว่าด้วยเหตุและผล กล่าวคือ เมื่อเรากระทำสิ่งใดลงไป ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี (กุศลกรรม) หรือกรรมชั่ว (อกุศลกรรม) ย่อมส่งผลกลับมายังผู้กระทำในที่สุด เปรียบเสมือนกับการหว่านเมล็ดพืช ถ้าเราหว่านเมล็ดมะม่วง เราย่อมได้ต้นมะม่วงและผลมะม่วง ไม่ใช่ต้นทุเรียน หรือถ้าเราหว่านเมล็ดพริก เราย่อมได้ผลพริกที่เผ็ดร้อน ไม่ใช่ผลไม้ที่หอมหวานฉันใด การกระทำของเราก็ฉันนั้น การกระทำที่ดีจะนำมาซึ่งผลที่ดี การกระทำที่ชั่วร้ายจะนำมาซึ่งผลที่เลวร้าย
เมื่อเราตั้งใจกระทำสิ่งที่ดีงาม ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่น การให้ทาน การรักษาศีล การเจริญสมาธิภาวนา การพูดจาไพเราะ การคิดดีต่อผู้อื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความดีงาม เมื่อเมล็ดพันธุ์เหล่านี้เจริญงอกงาม ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมเป็นสิ่งที่ดี เช่น ความสุขสงบในจิตใจ จิตใจจะเบาสบาย ปลอดโปร่ง ไม่มีความกังวลหรือความขุ่นมัว, ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต การงานราบรื่น มีผู้คนอุปถัมภ์ค้ำจุน ได้รับโอกาสที่ดี, สุขภาพที่ดี กายและใจมีความสมดุล ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ, เป็นที่รักใคร่ของผู้อื่น ผู้คนรอบข้างจะเคารพรัก ชื่นชม และอยากคบหาด้วย และหากกรรมดีมีกำลังมากพอ อาจส่งผลให้เกิดในภพภูมิที่ดี มีชีวิตที่สุขสบายในภพภูมิถัดไป
ในทางตรงกันข้าม เมื่อเรากระทำการที่ชั่วร้าย ไม่ว่าจะเป็นการเบียดเบียนผู้อื่น การโกหก การลักทรัพย์ การทำร้ายผู้อื่นด้วยกาย วาจา ใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความชั่วร้าย เมื่อเมล็ดพันธุ์เหล่านี้เติบโตขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา เช่น ความทุกข์ระทมในจิตใจ จิตใจจะเร่าร้อน กระวนกระวาย ไม่มีความสุข, ความตกต่ำในชีวิต การงานมีอุปสรรค มีคนคิดร้าย ถูกกลั่นแกล้ง, สุขภาพที่ย่ำแย่ เจ็บป่วยง่าย มีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า, เป็นที่รังเกียจของผู้อื่น ผู้คนรอบข้างจะหลีกเลี่ยง ไม่ไว้ใจ และไม่อยากคบหา และหากกรรมชั่วมีกำลังมากพอ อาจส่งผลให้เกิดในภพภูมิที่ไม่ดี ต้องรับความทุกข์ทรมานในภพภูมิถัดไป
กฎแห่งกรรมเป็นกฎที่ทำงานอย่างยุติธรรม ไม่มีการเข้าข้างใคร ไม่มีการยกเว้นสำหรับใคร ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน มีอำนาจ หรือไม่มีอำนาจ ทุกคนล้วนอยู่ภายใต้กฎนี้ ไม่มีใครหนีกรรมของตนเองพ้นได้ ดังคำที่ว่า "กรรมใครกรรมมัน" เราเป็นผู้สร้างเหตุ และเราย่อมเป็นผู้รับผลแห่งเหตุนั้น ดังนั้น การตระหนักถึงกฎแห่งกรรมนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินชีวิต เมื่อเรารู้ว่าการกระทำทุกอย่างมีผลตามมาเสมอ เราจะมีความระมัดระวังในการคิด การพูด และการกระทำมากขึ้น เราจะพยายามทำแต่สิ่งที่ดีงาม ละเว้นจากสิ่งชั่วร้าย เพื่อชีวิตที่มีแต่ความสุข ความเจริญ และความสงบอย่างแท้จริง
คุณคิดว่าการเข้าใจกฎแห่งกรรมนี้ จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างไรบ้างในแต่ละวัน? - 001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี