แฉเคส‘ปราสาทตาเมือนธม’คือแผน‘หมากเบี้ย’ เขมรปั่นให้ไทยเปิดก่อน ระวัง‘ก.ค.-ก.ย.’ช่วงเสี่ยง

21 กรกฎาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก “ปราชญ์ สามสี” โพสต์ข้อความ ระบุว่า...

เหตุชุลมุนที่ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ไม่ใช่แค่เรื่องวัยรุ่นกัมพูชามาก่อกวน

แต่นี่คือ “หมากเบี้ย” ชิ้นแรกของเกมสงครามจิตวิทยาที่ถูกจัดวางอย่างตั้งใจ เพื่อเร่งสร้าง “สถานการณ์” ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ ก่อนที่กัมพูชาจะนำเรื่องนี้เข้าสู่เวทีสหประชาชาติในการประชุม UNGA เดือนกันยายนนี้

การยั่วยุซ้ำสองภายในวันเดียว การปล่อยให้มีกลุ่มใหม่วนเวียนขึ้นพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่รู้ว่ากำลังตึงเครียด เป็นหลักฐานชัดเจนว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คือการ “ปั่นป่วนให้เกิดปะทะ” ไม่ว่าจะโดยมือใคร

อย่าคิดว่านี่เป็นแค่เรื่องทะเลาะกันที่ชายแดน เพราะสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ชัยชนะในสนามรบ แต่คือภาพลักษณ์บนเวทีโลก กัมพูชาไม่ได้ต้องการยิงก่อนหรือรุกก่อน แต่เขาต้องการ “ให้ไทยเปิดก่อน” เพื่อสร้างความชอบธรรมในสายตานานาชาติว่า “ประชาชนเขาถูกคุกคาม”

และหากไทยหลงกลตอบโต้ด้วยความใจร้อน ใช้กำลังแม้เพียงน้อย ก็เท่ากับเปิดทางให้กัมพูชานำเรื่องนี้เข้าสู่โต๊ะเจรจาระดับโลก โดยอ้างว่าไทยรุกราน ใช้กำลังกับพลเรือน และละเมิดสิทธิมนุษยชน—ภาพลักษณ์ที่ประเทศใดในโลกก็ไม่อยากแบกรับ

นี่คือหมากตัดสินความได้เปรียบในเชิงนโยบายระหว่างประเทศ

พี่น้องคนไทยต้องรู้เท่าทัน ต้องมีสติ เพราะสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ไม่ใช่แค่การก่อกวน แต่คือ “การเปิดยุทธการจิตวิทยา” ที่ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ ใช้สถานที่ท่องเที่ยวเป็นเวที และใช้ข่าวลือเป็นอาวุธ

ตั้งแต่กรกฎาคมถึงกันยายนนี้ คือ “ช่วงเสี่ยง” ที่กัมพูชาจะเร่งดำเนินการทุกทางเพื่อให้ได้ภาพแห่งความขัดแย้งไปนำเสนอในเวทีโลก เขาไม่สนว่าใครจะเจ็บ ไม่สนว่าใครจะผิด เขาต้องการเพียงเหตุการณ์

อย่าหลงกล อย่าตอบโต้ และอย่าคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็ก เพราะศึกครั้งนี้ไม่ใช่ศึกแค่ชายแดน... แต่มันคือสงครามด้านภาพลักษณ์และการทูต ที่อาจส่งผลยาวไกลกว่ากระสุนใด ๆ

นี่คือ “จุดวิกฤต” ที่คนไทยทั้งประเทศต้องตื่นรู้ ก่อนที่เราจะถูกตัดสินโดยศาลโลก... โดยที่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย

-005