รายงานพิเศษ : เรียกร้องสังคมจับตาบอร์ดน้ำเมา

รายงานพิเศษ : เรียกร้องสังคมจับตาบอร์ดน้ำเมา

วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
Tag :

เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.)ร่วมกับเครือข่ายสื่อมวลชนขับเคลื่อนสุขภาวะเพื่อสังคมไทยยั่งยืน(สสสย.) ประชุมกันในหัวข้อที่สังคมจับตาในตอนนี้คือ “ทิศทาง ก.ม.ลำดับรอง…หลังประกาศใช้ พ.ร.บ.แอลกอฮอล์ใหม่” โดยมี จิระ ห้องสำเริง สื่อมวลชนอาวุโส ดำเนินรายการเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา

พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่มีเนื้อหาควบคุมการขาย การดื่ม การส่งเสริมการขยายและการสื่อสารทุกรูปแบบเพื่อปกป้องประชาชน เด็กและเยาวชนไม่ให้เข้าถึงแอลกอฮอล์ได้ง่าย บังคับใช้เข้มข้นบ้างปล่อยบ้างมานาน 17 ปีแล้ว มาวันนี้นักการเมืองทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลดันมาเห็นพ้องต้องกันกับฝั่งธุรจกิจว่าต้องแก้ไขแล้ว


ช่วยกันผลักช่วยกันดันจนพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2568 บังคับใช้เมื่อ 28 พ.ย. 2568 แต่มีเวลาอีก 1 ปีในการจัดทำกฎหมายลำดับรองให้เสร็จประมาณ 35 ฉบับ

การประชุมวันนั้นเริ่มต้นด้วย อภิวัชร์ เกตุทัต ประธานมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ (มสส.) กล่าวเปิดการประชุมว่าการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับประเทศจำเป็นต้องคิดถึงการขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะด้วย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เวลานี้สังคมยังสับสนว่าเนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงมีผลบังคับใช้ทันทีหรือเรื่องไหนต้องไปจัดทำเนื้อหาให้สอดคล้อง ส่งผลให้มีการทำผิดกฎหมายและไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย การประชุมในครั้งนี้สื่อมวลชนจะได้รับฟังข้อมูลจากคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำกฎหมายโดยตรง จะได้ช่วยกันสื่อสารและถ่ายทอดข้อมูลความจริงสู่สาธารณะเพื่อให้การจัดทำกฎหมายลำดับรองออกมาเพื่อปกป้องทุกคนในสังคมจากพิษภัยและผลกระทบของแอลกอฮอล์ในมิติต่างๆ

จากนั้น ธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) หนึ่งในผู้ที่มีส่วนผลักดันกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ปี 2551 บอกว่ากฎหมายมีเจตนารมณ์จำกัดการขยายตัวของการดื่มและผลกระทบ โดยควบคุมการโฆษณา การลดแลกแจกแถม วันเวลาขาย สถานที่ดื่มและขาย อายุผู้ซื้อและอาการของผู้ดื่ม แต่สินค้าแอลกอฮอล์มีมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ รายย่อยและวิสาหกิจชุมชนเห็นว่าควรจะผ่อนคลายความเข้มข้น ประกอบกับสังคมมีค่านิยมดื่มเพื่อเข้าสังคมต้องการเสรีภาพในการดื่ม ต้องการรายได้จากการท่องเที่ยว ภาวะเศรษฐกิจซบเซาทำให้รัฐบาล พรรคการเมือง กลุ่มธุรกิจสุราเสนอให้ปรับนโยบายเพื่อเศรษฐกิจมากกว่าสุขภาพกฎหมายฉบับใหม่จึงผ่อนคลายหลายจุด

ที่สำคัญคือให้มีผู้แทนธุรกิจแอลกอฮอล์ เข้ามาเป็นคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ กลายเป็นข้อห่วงใยด้านการถูกแทรกแซง ทำให้การควบคุมด้อยประสิทธิภาพ ควรจะมีกฎเกณฑ์เรื่องการมีส่วนได้เสีย อะไรจะร่วมประชุมหรือร่วมโหวตได้ไม่ได้

นอกจากนั้นยังมีเรื่องนิยามคำว่าจัดเลี้ยงตามประเพณีที่มีผลต่อการใช้สถานที่ราชการ โรงเรียนเป็นที่จัดเลี้ยงซึ่งเรายืนยันว่าการห้ามจัดเลี้ยงที่มีแอลกอฮอล์ในสถานที่เหล่านี้ดีอยู่แล้ว เรื่องระยะห่างจากสถานศึกษาของร้านจำหน่ายแอลกอฮอล์ก็ควรจะให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดตัดสินใจ ที่น่าห่วงคือการเจรจาการค้า FTA กับยุโรปจะเพิ่มปริมาณแอลกอฮอล์เข้ามาขายในประเทศไทยทำให้คนไทยมีโอกาสพิการและตายเพิ่มขึ้น ธีระกล่าว

ตามด้วยชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ ชี้ประเด็นว่าเรื่องแรกที่จะต้องทำคือสิ่งที่ต้องรีบแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชุดใหม่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว การที่คณะกรรมการชุดเดิมที่กฎหมายให้อำนาจออกประกาศได้ในช่วงที่ยังไม่มีกรรมการชุดใหม่นั้นถือว่าขาดความชอบธรรม เพราะไม่มีผู้แทนองค์กรเอกชน ผู้แทนนิติบุคคลด้านผู้ผลิต ผู้ขาย ผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ เข้ามาเป็นกรรมการ ดังนั้น การมีมติยกเลิกเวลา ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วง 14.00-17.00 น. แม้กฎหมายจะเปิดช่องให้ดำเนินการได้แต่ความสมบูรณ์ของคณะกรรมการยังเป็นปัญหาที่อาจจะมีผู้ไปดำเนินการทางกฎหมายปกครองต่อก็ได้ และเรื่องนี้ควรประเมินผลกระทบทางสังคมด้วย

ประเด็นต่อมาคือหลายเรื่องเจ้าหน้าที่บังคับใช้ได้เลยโดยไม่ต้องรอกฎหมายลำดับรอง เช่น การห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งเพิ่มโทษปรับสูงขึ้นจาก 20,000 เป็น 100,000 บาท การห้ามใช้ตราเสมือนมาโฆษณาคนเข้าใจว่าเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อะไรที่ผิดก็ต้องดำเนินคดีไม่ใช่ปล่อยให้พวกนายทุน ร้านเหล้า ผับบาร์ฉวยโอกาสหาประโยชน์ เวลานี้มีการแอบขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยตู้อัตโนมัติในหลายพื้นที่ ทั้งๆ ที่ยังมีกฎหมายลำดับรอง

ส่วน ธีรภัทร์ คหะวงศ์ ทนายความ และผู้ประสานงานเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ เยาวชน (ขสย) กล่าวว่า หลังกฎหมายใหม่บังคับใช้หลายมาตรการต้องรอการออกกฏหมายในลำดับรองให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันที่กฎหมายใหม่บังคับใช้ กรมควบคุมโรคจึงแต่งตั้งคณะทำงานจัดเตรียมข้อมูลในการยกร่างกฎหมายลำดับรอง เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการควบคุมแอลกอฮอล์ เช่น การโฆษณาซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ หากปล่อยให้มีการโฆษณาได้ง่ายก็จะมีผล หรือเรื่องนิยามคำว่าคนเมามีอาการแค่ไหนจึงถือว่าเมา การขายผ่านตู้อัตโนมัติ ทั้งลักษณะของตู้ การเสียบบัตรและการตรวจสอบผู้ซื้อแอลกอฮอล์จากตู้อัตโนมัติ

ต่อจากนี้จะเปิดรับฟังความเห็นประชาชนในการผ่านช่องทางต่างๆ หลายเรื่อง จึงอยากให้ประชาชนร่วมกันแสดงความคิดเนื้อหากฎหมายเพื่อปกป้องสังคมจากผลกระทบของแอลกอฮอล์ด้วย ธีรภัทร์ทิ้งท้าย

ปิดท้ายด้วยความเห็นสื่อมวลชนส่วนใหญ่เห็นว่าคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ควรจะเร่งรีบออกประกาศที่อาจมีผลได้ผลเสียและผลกระทบต่อสังคม และควรจะมีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมจากภาคประชาสังคม นักวิชาการ และสื่อมวลชน ติดตามตรวจสอบการทำหน้าที่ของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชุดเดิม

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top