สพฐ.เปิดตัวเลข‘ยุบรวม’รร.ขนาดเล็กแล้วนับพันแห่ง ปรับแผนจัดสรรอัตราครู

4 กุมภาพันธ์ 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายอำนาจ วิชานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ สพฐ.) ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการในส่วนต่างๆ รวมถึงการจัดสรรตำแหน่งลงโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งเดิมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติไม่ให้จัดสรรอัตรากำลังลงไปโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนต่ำกว่า 120 คน ให้ยุบตามอัตราเกษียณ และการควบรวมโรงเรียนก็ยังไม่เป็นไปตามแผนเดิม เลขาธิการ กพฐ. จึงได้มาเสนออัตราครูที่เหมาะสมที่จะต้องจัดสรรลงไปในโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียน 40 คน 80 คน 120 คน ควรต้องมีครูจำนวนเท่าไรให้เหมาะสมที่จะดูแลนักเรียน เพื่อให้การจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย

ด้านนายอำนาจ กล่าวว่า ตนได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ในเรื่องการจัดสรรอัตรากำลังครูให้กับโรงเรียนขนาดเล็ก เนื่องจากมติ ครม.ไม่ให้จัดสรรอัตรากำลังลงไปในโรงเรียนที่มีนักเรียนต่ำกว่า 120 คน แต่ที่ผ่านมา การควบรวมไม่ได้เป็นไปตามแผน หากไม่จัดสรรลงไปให้การจัดการเรียนการสอนจะมีปัญหา โดยเฉพาะโรงเรียนห่างไกล ที่อยู่โดดเดี่ยว

“เบื้องต้นกำหนดแผนการจัดสรรอัตราครูต่อจำนวนนักเรียนไว้แล้ว เตรียมเสนอให้ ก.ค.ศ.พิจารณา และให้เสนอ ครม. เห็นชอบต่อไป โดย รมว.ศธ. ไม่ได้ห่วงว่าจะต้องควบรวมโรงเรียนให้ได้ตามแผน แต่ห่วงเรื่องคุณภาพการจัดการศึกษา ซึ่งจะต้องดำเนินการให้ดีขึ้น สพฐ. มีโรงเรียนขนาดเล็กทั้งหมด 29,871 โรงเรียน โดยข้อมูลล่าสุด ตั้งแต่ปี 2559 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2563 มีโรงเรียนที่ถูกยุบรวมแล้ว จำนวน 1,000 แห่ง” นายอำนาจ กล่าว

นายอำนาจ กล่าวอีกว่า เมื่อเร็วๆนี้ รมว.ศธ.ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนขนาดเล็กใน จ.ร้อยเอ็ด และพบว่ามีหลายโรงเรียนที่อยู่ใกล้กัน การคมนาคมสะดวก ที่สามารถควบรวมกันได้ แต่จะต้องทำให้เกิดคุณภาพ โดยได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)ไปตรวจสอบว่าในพื้นที่ว่ามีโรงเรียนใดเป็นโรงเรียนหลักแล้วดำเนินการควบรวม แต่จะต้องได้รับการยินยอมจากชุมชนด้วย ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ สพฐ.ไปพัฒนาโรงเรียนหลักให้มีคุณภาพขึ้น เพื่อดึงดูดให้เด็ก เช่น มีสนามกีฬา มีห้องคอมพิวเตอร์ มีอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม มีครูภาษาอังกฤษ ครูภาษาจีน เพื่อดึงดูดให้เด็กอยากไปเรียน ไม่ใช่บังคับ โดยให้ทำเป็นต้นแบบ เป็นตัวอย่าง ซึ่ง สพฐ. จะลงไปคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบ 1-2 แห่ง เพื่อจัดสรรงบลงไปพัฒนาเป็นพิเศษ

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ทางสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) จะขอใช้พื้นที่ของโรงเรียนขนาดเล็กที่ถูกยุบรวมและยุบเลิกแล้ว เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์การเรียนรู้ทุกช่วงวัยของ กศน.นั้น สพฐ.ไม่ขัดข้อง เพราะเป็นความร่วมมือกับหน่วยงานภายในศธ.อยู่แล้ว