จับ‘บรรยิน’
พันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา
กองปราบคุมเค้นสอบ
ค้น19จุดทั่วปากน้ำโพ
1ใน3ลูกน้องรับลงมือ
เร่งงมหาศพผู้เสียชีวิต
กองปราบฯบุกรวบ“บรรยิน”พัวพันฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ พบวงจรปิดมัด ลุยค้น 19 จุดทั่ว จ.นครสวรรค์ หาหลักฐานเชื่อมโยงคดี ชี้ 1 ใน 3 ลูกน้องเปิดปากรับฆ่าอำพรางทิ้งศพในแม่น้ำ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการให้กำลังตำรวจกก.3-4 และ กก.สนับสนุน บก.ป.จัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน บก.ป.กว่า 100 นาย ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ปูพรมเข้าตรวจค้นบ้านพักของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ และ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชาชน ที่ริมถนนโกรกพระ-นครสวรรค์ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ภายหลังสืบสวนสอบสวนพบว่า พ.ต.ท.บรรยิน ร่วมกับพวก ซึ่งเป็นลูกน้องใกล้ชิด 3 คน มีส่วนพัวพันกับคดีฆาตกรรมอำพราง นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของ น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้
ทั้งนี้ การเข้าตรวจค้นดังกล่าว สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.ได้มอบหมายให้ชุดสืบสวน บก.ป.เข้าควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน กับพวก รวม 4 คน หลังจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าว ก่อนจะมีการประสานให้ทางตำรวจ บก.ป.จัดกำลัง เข้าตรวจค้นบ้านพักของ พ.ต.ท.บรรยิน
สำหรับเบาะแสสำคัญที่นำไปสู่การเชื่อมโยงว่า พ.ต.ท.บรรยิน น่าจะมีส่วนเกี่ยวพันกับกรณีการหายตัวไปของพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 16.00-17.00 น.ในขณะที่พี่ชายของผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เดินทางมารับน้องสาว แต่กลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อุ้มตัวจากแท็กซี่ จนกระทั่งมีการเร่งสืบสวนสอบสวนขยายผลทางคดี
จากการตรวจค้นบ้านพักตั้งแต่ช่วงเช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ และเอกสารจำนวนหลายกล่องภายในบ้านพักดังกล่าวของ พ.ต.ท.บรรยิน นำใส่รถเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดที่ บก.ป.นอกจากนี้ยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่อีกส่วนหนึ่ง ได้แบ่งกำลังออกไปตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ อ.เมือง อ.ตากฟ้า และ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ รวมทั้งหมด 19 จุด โดยเป็นบ้านพักของ พ.ต.ท.บรรยิน และเครือญาติ เพื่อแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ ในคดี เพิ่มเติม
มีรายงานว่า การเข้าตรวจค้น 19 จุด ในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดรถยนต์ต้องสงสัยว่าใช้ในการก่อเหตุในคดีที่เกิดขึ้น รวม 4 คัน โดยเป็นรถที่มีการสวมทะเบียนทั้งหมด หลังจากนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว
ขณะเดียวกัน กำลังเจ้าหน้าที่ บก.ป.อีกชุดหนึ่ง ได้ร่วมกับตำรวจ สภ.โกรกพระ และนักประดาน้ำทีมกู้ภัย อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ ต.กลางแดด ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องสงสัยให้การว่าได้นำศพของพี่ชายผู้พิพากษาที่ถูกฆาตกรรมรายนี้ มาทิ้งที่แม่น้ำในบริเวณดังกล่าว โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการค้นหาศพผู้เสียชีวิตดังกล่าว
มีรายงานด้วยว่า ทาง พ.ต.ท.บรรยิน กับพวก รวม 4 คน ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้นั้น ได้มีการสอบสวนในเบื้องต้นที่สนามบินเกษตร จ.นครสวรรค์ ก่อนจะมีการคุมตัวทั้งหมด ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจ เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
เวลา 11.00 น.วันเดียวกัน ที่ บก.ป.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน กับพวก มาสอบปากคำโดยทางพนักงานสอบสวน บก.ป.ได้จัดเตรียมห้องสอบสวนไว้แล้ว สื่อมวลชนหลายแขนง จึงมาปักหลักเฝ้ารอติดตามทำข่าว แต่จนถึงช่วงบ่ายก็ยังไม่พบว่ามีการควบคุมตัวมาสอบสวน มีเพียงรายงานข่าวออกมาว่า ทางเจ้าหน้าที่จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับรายละเอียดในการควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้ซึ่งเป็นลูกน้องของ พ.ต.ท.บรรยิน รับสารภาพว่าได้ลงมือสังหารพี่ชายของผู้พิพากษารายนี้ โดยมีการอำพรางศพด้วยวิธีการโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ จ.นครสวรรค์ ส่วนสาเหตุที่มีการลงมือนั้นเกี่ยวเนื่องกับคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 และ 268 ในคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด เป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยนายชูวงษ์ เสียชีวิตภายในรถยนต์ระหว่างเดินทางไปพร้อมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งในคดีนี้ศาลอาญากรุงเทพใต้ สืบพยานโจทก์และจำเลย เสร็จสิ้นแล้ว ก่อนจะนัดฟังคำพิพากษาคดีในวันที่ 20 มีนาคมนี้ เวลา 09.00 น.การลงมือฆ่าพี่ชายของผู้พิพากษารายนี้ จึงน่าเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับการบีบคั้นให้ทางผู้พิพากษายอมตัดสินคดีไปในแนวทางที่ฝ่ายจำเลยต้องการ
ต่อมาเวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กก.สนับสนุน บก.ป.ได้ควบคุมตัว พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาในคดีนี้ เดินทางมาถึง บก.ป.ก่อนจะส่งมอบให้พนักงานสอบสวนรับตัวไปสอบปากคำก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา โดยระหว่างการคุมตัวลงจากรถ ทาง พ.ต.ท.บรรยิน มีสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “ถูกคุมตัวตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยังติดต่อทนายความไม่ได้ และยังงงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมมั่นใจในความบริสุทธิ์”
จากนั้น น.ส.บุษยา ตั้งภากรณ์ หรือเบล บุตรสาวของ พ.ต.ท.บรรยิน ได้เดินทางเพื่อขอเข้าเยี่ยม พ.ต.ท.บรรยิน แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาต เนื่องจากยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบปากคำ โดย น.ส.บุษยา เผยทั้งน้ำตาว่า ทราบข่าวจากน้องชายว่าบิดาถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่ บก.ป.จึงเดินทางเพื่อจะเข้าเยี่ยม โดยส่วนตัวไม่ทราบว่าบิดาถูกจับในความผิดใด ที่ผ่านมาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับคดี แต่เชื่อมั่นว่าบิดามีเหตุมีผลเสมอ ทุกคนอาจมองว่าบิดาตนเป็นคนผิด แต่ขอร้องว่าคดียังอยู่ในชั้นศาล อย่าเพิ่งลงข่าวโจมตี
น.ส.บุษยา เปิดเผยอีกว่า ส่วนตัวยังเชื่อมั่นว่าบิดาไม่ได้กระทำความผิด เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ถูกใส่ร้ายป้ายสี ตนอยู่กับบิดามาตลอดทั้งชีวิตจึงเชื่อว่าบิดาถูกกลั่นแกล้ง และอยากจะขอความเป็นธรรมด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี