วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือวาระเร่งด่วน 7 ข้อ (Quick Win) เพื่อขับเคลื่อนงานตามนโยบาย ของกระทรวงศึกษาธิการ ว่า จากที่ตนมอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) และสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ไปทำการบ้านว่าจะขับเคลื่อน นโยบายวาระเร่งด่วน 7 ข้อ (Quick Win) คือ 1.เรื่องความปลอดภัยของผู้เรียน 2. หลักสูตรฐานสมรรถนะ 3.Big Data 4. ขับเคลื่อนศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) 5. พัฒนาทักษะทางอาชีพ 6. การจัดเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกช่วงวัยให้มีคุณภาพและมาตรฐาน และ7.การจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ ให้เห็นผลภายใน 3-5 เดือนได้อย่างไรแล้วนั้น ซึ่งเท่าที่ดูในรายละเอียดที่หน่วยงานต่าง ๆเสนอมา พบว่ามีหลายเรื่องที่จะต้องปรับให้เหมาะสมสอดรับกับนโยบายที่วางไว้ และในวันนี้ ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการทำงานในแต่ละวาระเร่งด่วน โดยได้วางแผนการทำงานทั้งระยะสั้น ระยะยาว ซึ่งแผนระยะสั้น จะให้คณะทำงานติดตามแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เช่น ความปลอดภัยของผู้เรียน โรงเรียนคุณภาพชุมชน เป็นต้น เพื่อให้การทำงานเกิดควาคล่องตัว ส่วนแผนระยะยาว ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปวางแผนและขับเคลื่อนงานควบคู่กับแผนระยะสั้นด้วย
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนวางแผนจะตั้งศูนย์เฉพาะกิจขึ้นมา โดยศูนย์นี้จะเป็นศูนย์กลางรับข้อมูล และข้อเรียกร้องต่าง ๆที่มาจากทุกหน่วยงาน โดยมีปลัด ศธ. เป็นผู้ดูแลหลัก เพราะมองว่าเมื่อเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 ในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ แต่ละพื้นที่อาจจะพบปัญหาในเรื่องของการเรียนการสอน ครู นักเรียน และผู้ปกครองอาจจะเกิดความกังวล จึงให้ศูนย์เฉพาะกิจนี้ เข้ามาช่วยเหลือดูแลและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจาก ศธ.เตรียมจัดการเรียนการสอนไว้ 5 รูปแบบ คือ On-site เรียนที่โรงเรียน, On-air เรียนผ่าน DLTV, On-demand เรียนผ่านแอพพลิเคชันต่างๆ, On-line เรียนผ่านอินเตอร์เน็ต, On-hand เรียนที่บ้านด้วยเอกสาร แบบฝึกหัด ซึ่งในสถานการณ์จริงของการเรียนการสอนในแต่ละพื้นที่อาจจะมีปัญหาอุปสรรค เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ยังมีความผันผวน ทั้งนี้ ศูนย์เฉพาะกิจ จะติดตามการฉีดวัคซีนของครูด้วยว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง พร้อมให้ประสานงานกับกระทรวงและหน่วยงานอื่น ๆเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19
“ศธ.มีความห่วงใยจึงการตั้งศูนย์เฉพาะกิจนี้ขึ้นมาเพื่อความคร่องตัวในการแก้ไขปัญหอุปสรรค เพื่อให้ครู ผู้ปกครอง นักเรียน มั่นใจว่า ศธ.มีศูนย์คอยเป็นพี่เลี้ยงและคอยแนะนำปัญหาที่เกิดขึ้น ดิฉันจึงมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปวางแผนโครงสร้างการทำงาน ว่าจะรับปัญหาไปสู่การแก้ไขอย่างไร ซึ่งศูนย์เฉพาะกิจนี้อาจจะทำหน้าที่คล้ายกับศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยให้ทางศูนย์ฯ รายงานถึงปัญหาอุปสรรคที่เข้ามาและการแก้ไขปัญหาต่างๆทุกวันด้วย” น.ส.ตรีนุช กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี