วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
แม่ค้าออนไลน์ร้อง ถูกตำรวจบุกค้นบ้าน ขอ5ล้านแลกปล่อยตัว!

แม่ค้าออนไลน์ร้อง ถูกตำรวจบุกค้นบ้าน ขอ5ล้านแลกปล่อยตัว!

วันอังคาร ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2564, 16.39 น.
Tag : ตำรวจค้นบ้าน แม่ค้าออนไลน์ อาชญากรรม
  •  

แม่ค้าออนไลน์ร้อง ถูกตำรวจบุกค้นบ้าน ก่อนขอ 5 ล้านแลกปล่อยตัว ผู้การสงขลายันทำทุกอย่างถูกต้องตามขั้นตอน

21 กันยายน 2564 กรณีมีแม่ค้าออนไลน์ออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับพฤติกรรมของตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เข้าไปตรวจค้นในบ้านพัก ก่อนยึดเงินสด 10 ล้านบาท และทองรูปพรรณอีกประมาณ 60 บาท ก่อนต่อรองขอเงินสด 5 ล้านบาท แลกการปล่อยตัว ผู้บังคับการตำรวจภูธรสงขลายัน มีการเข้าตรวจค้นและยึดของกลางไปตรวจสอบจริง แต่ไม่พบความผิดมีการคืนของกลางทั้งหมด


 

 

ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา นำกำลังพร้อมหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านพักของนางสาวกมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ แม่ค้าออนไลน์เจ้าของเพจ “ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง ในพื้นที่ตำบลป่าขาด อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา โดยทำการเข้าตรวจค้นภายในบ้านและห้องต่าง ๆ ก่อนยึดของกลาง เป็นกระเป๋า น้ำหอม โลชั่น  สบู่ เงินสดจำนวน 10 ล้านบาท และทองรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 60 บาท ก่อนคุมตัวนางสาวกลมวรรณ ไปยังเซฟเฮาส์ 

 

 

นางสาวกมลวรรณฯ เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาตรวจค้นภายในบ้าน โดยมีการยื่นหมายให้ดูแต่ดูแบบผ่านๆ ด้วยความบริสุทธ์ ตนก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบเพียงเงินสด 10 ล้านบาทและทองคำ 60 บาท ที่วางไว้อยู่ในตู้ ออกมาวางไว้บนที่นอนและและเอาทองกับเงินสด ใส่ถุงดำแล้วนำมาวางไว้บนโต๊ะหน้าบ้านและเข้าไปตรวจค้นต่อที่ห้องไลฟ์สด และมาบอกตนว่าของที่อยู่ในห้องนั้นผิดกฎหมายหมดเลย แล้วเอาถุงดำใส่ของทั้งหมดทั้งกระเป๋าครับและของต่าง รวมแล้วประมาณ 6 - 7 ถุง และได้เอาของทั้งหมดขึ้นรถ และได้ไปค้นรถตนต่อและได้ยึดรถตนไปอีก 1 คัน ตำรวจคุมตัวไปสอบสวน พร้อมด้วยเงินสดและทองที่พบ พร้อมด้วยควบคุมตัวน้องสาวและแฟนตนไปยังเซฟเอาส์แห่งหนึ่ง 

 

 

หลังจากนั้น ให้เธอติดต่อกับบุคคลที่รู้จัก เพื่อให้เป็นตัวกลางในการเจรจาปล่อยตัว และบอกตนว่าของทั้งหมดจะยึดไว้  ตัวเองจึงถามไปว่ายึดทำไม ตนเองมีความผิดอะไร แต่ขณะคุมตัว ตำรวจถือปืนตลอดเวลา และพูดจาเชิงข่มขู่ ก่อนขอเงินจำนวน 5 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัว ด้วยความกลัวเธอจึงยอมทำตาม  แต่เมื่อตนกลับมาถึงบ้านก็มีคนกลางโทรมาบอกว่าคนใหญ่ขอมาว่าขออีก 10 บาท  แต่ตนไม่ยอมจึงบอกไปว่า เอาแค่ 1 แสนบาทได้ไหม ตนจึงโอนเงินไปให้ 1 แสนบาท  เช้าอีกวันคนกลางก็โทรมาบอกว่าเงิน 1 แสนนั้นไม่เอาเดี่ยวโอนกลับให้  ตนก็ว่าไม่เป็นไรเอาไปเลย  ตนไม่อยากมีปัญหา  พูดกันไปมา  คนกลางก็โอนเงินกลับมาให้หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกัน

น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ แม่ค้าออนไลน์ กล่าวอีกว่าหลังเกิดเหตุเธอรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย และอยากได้เงินจำนวน 5 ล้านบาทคืน จึงนำเรื่องราวที่เกิดขึ้น เดินทางพร้อมทนายความไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 โดยมี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นผู้รับเรื่อง / ทนายยืนยันมีหลักฐานชัดเจนถึงการเรียกรับเงินดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่จะให้ทางผู้บังคับบัญชาของชุดตรวจค้น ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวให้ความเป็นธรรมกับนางสาว กมลวรรณ 

 

 

กิตติธัช ชูโชติ ทนายความ  เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้ทำเรื่องร้องทุกข์และร้องเรียนทางวินัยไปยังตำรวจภูธรภาค 9  แล้ว  และเชื้อมั่นในพยานหลักฐานของตนว่า มีพยานชัดและหลักฐานชัดเจน  จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเงิน สด 10 ล้านนั้นจริงมีตำรวจเข้ามาตรวจค้นจริง และเป็นตำรวจจริง และได้นำของทั้งหมดพร้อมผู้เสียหายไปจริง ซึ่งทุกอย่าง มีพยานหลักฐานหมด 

คนกลางที่อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผยผู้สื่อข่าวว่า วันนั้นมีพี่ที่สนิทโทรมาบอกว่าให้ช่วยเข้ามาดูน้องเค้าหน่อยน้องเค้าถูกตำรวจจับ และบอกสถานที่ ตนก็เดินทางมา พอมาถึงก็เข้าไปถามว่าคนไหนชื่อปลา จึงได้พูดคุยกับน้องปลาหลังจากนั้นตนได้ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าน้องผิดอะไร สารวัตรคนหนึ่งบอกว่าตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ไม่สามารถบอกอะไรได้ 

 

 

ตนก็กลับไปทำงานปกติ ผ่านไปหลายชั่วโมงพี่คนที่รู้จักจึงโทรมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ตนว่าตนกลับมาแล้วคิดว่าเรื่องจบแล้ว หลังจากนั้นตนจึงเดินทางมายังเซฟเอาส์ อีกครั้งและตำรวจบอกว่าให้ตนเซ็นเป็นพยาน ตนจึงถามว่าพยานอะไร  ตำรวจจึงบอกว่า พยานในการคืนของกลาง  ตนจึงถามน้องปลากับแฟนว่า ได้ของครบหรือยัง  น้องปลากับแฟนบอกว่าได้คืนครบ  ตนก็พยายามถามซ้ำว่าของได้ครบไหม  ปลากับแฟนก็บอกว่าครบ ตนจึงเซ็นเป็นพยานให้ แต่ตนยอมรับว่าไม่ได้อ่านว่าของกลางทั้งหมดในเอกสารนั้นมีอะไรบ้าง  ตนเห็นเพียงว่ามีเงิน  มีทอง และโทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะ  โดยส่วนตัวแล้วตนยังคิดเลยว่าทำใมเอาเงินจำนวนเยอะขนาดนั้นไปไว้ที่บ้านเนื่องจากแถวนั้นเปลี่ยวเป็นชุมชนเล็ก 

 

 

ด้าน พล.ต.ต.อาซาน จันทร์ศิริ  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลากล่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้มีการตรวจสอบ และให้รายงานข้อเท็จจริงแล้ว โดยพบว่า ก่อนที่จะเข้าไปทำการตรวจค้น มีการสืบทราบ และรับแจ้งจากพลเมืองดีว่า บ้านดังกล่าวมีพฤติการณ์ในเรื่องของการมีสิ่งของผิดกฎหมาย  และมีเรื่องของแชร์ลูกโซ่ จึงมีการสืบสวนความจริง และมีการรวบรวมข้อมูล กระทั่งนำไปสู่การยื่นเสนอต่อศาลเพื่อออกหมายค้น การเข้าตรวจค้นตำรวจได้แสดงตนตามขั้นตอน ซึ่งเจ้าของบ้าน มีการลงนามรับทราบ ผลของการตรวจค้น พบเครื่องสำอาง ธนบัตร และทองคำรูปพรรณ จึงตรวจยึดทั้งหมดไปตรวจสอบถึงการได้มา และการดำเนินการเกี่ยวกับธุรกิจเครื่องสำอาง ก่อนนำตัวนางสาวกมลวรรณไปยังเซฟเฮาส์ โดยให้นางสาวกมลวรรณ เป็นผู้ถือไป มีพยานที่เธอไว้วางใจไปด้วย หลังตรวจสอบและสอบสวนไม่พบพิรุธ จึงมีการคืนของกลางทั้งหมด ยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนและสามารถตรวจสอบได้ หลังจากนี้จะสืบสวนเรื่องราวอย่างละเอียดอีกครั้ง และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย 

.

(009)

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สตม.โชว์ผลงาน! รวบ\'ชาวจีน\'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่ สตม.โชว์ผลงาน! รวบ'ชาวจีน'หนีคดีค้ายา-แชร์ลูกโซ่
  • รวบแล้ว! ผู้ต้องหาคดีละเมิดเด็กหลังโดดน้ำหนี แต่ตร.จมหายยังหาตัวไม่พบ รวบแล้ว! ผู้ต้องหาคดีละเมิดเด็กหลังโดดน้ำหนี แต่ตร.จมหายยังหาตัวไม่พบ
  • ไล่ล่าระทึก! สกัดจับแก๊งค้ายา ยึดไอซ์ล็อตใหญ่ 410 กก. ไล่ล่าระทึก! สกัดจับแก๊งค้ายา ยึดไอซ์ล็อตใหญ่ 410 กก.
  • แนวหน้าวิเคราะห์ : หยุดค้าปืนออนไลน์ หยุดอาชญากรรมรุนแรง แนวหน้าวิเคราะห์ : หยุดค้าปืนออนไลน์ หยุดอาชญากรรมรุนแรง
  • รวบหัวโจกแก๊ง\'สินเชื่อเงินด่วน\' หนีหมายจับ กบดานแหล่งพักยากลางหุบเขา รวบหัวโจกแก๊ง'สินเชื่อเงินด่วน' หนีหมายจับ กบดานแหล่งพักยากลางหุบเขา
  • พ่อตาจอมโหด! ‘สอยแสกหน้า’ ลูกเขยเลี้ยงดับคาที่-เหตุจุดลูกบึ้มไล่สุนัข พ่อตาจอมโหด! ‘สอยแสกหน้า’ ลูกเขยเลี้ยงดับคาที่-เหตุจุดลูกบึ้มไล่สุนัข
  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved