วันที่ 12 มกราคม 2565 จากกรณีที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ ว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค.65 ศรชล ภาค 2 ได้มีการตรวจพบเรือ Fin Shui Yuan 2 ลอยเข้ามาในน่านน้ำไทยห่างจากชายฝั่งจ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 80 ไมล์ทะเล โดยไม่มีลูกเรืออยู่บนเรือ ไม่ปรากฏชื่อเรือ เลขเรือ และเอกสารทั้งหมดแต่อย่างใด อุปกรณ์เดินเรือไม่สามารถใช้งานได้ เป็นเรือต้องสงสัย ที่อาจเกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมาย ก่อนเรือดังกล่าวจะจมลงในวันที่ 8 ม.ค.65 ตามที่ทราบแล้ว นั้น
จากกรณีดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองทัพเรือ และศรชล ในการพิสูจน์ทราบเรือลำดังกล่าว รวมถึงที่มาของเรือ และการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ในการนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/รองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย จึงได้สั่งการให้ พ่ล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน., พ.ต.อ.ชณพล วันขวัญ รอง ผบก.รน. และ พ.ต.อ.ปรเมษฐ โพยนอก รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการด้านการประมงฯ ประสานงานร่วมกับ กองทัพเรือ ศรชล และ บก.รน. ตรวจสอบกรณีดังกล่าว
จากการดำเนินการตรวจสอบพบว่า ในส่วนของเรือลำดังกล่าวที่ลอยลำอยู่กลางทะเลนั้นมีลักษณะและรูปพรรณใกล้เคียงกับเรือที่ถูกขึ้นทะเบียน IUU และเมื่อมีการตรวจพบว่าเรือดังกล่าวลอยลำอยู่ในน่านน้ำไทย กองทัพเรือภาค ๒ ได้สั่งการให้ ศรชล ลงไปตรวจสอบแล้วส่วนหนึ่ง แต่เมื่อต่อมาภายหลังเรือดังกล่าวจมลงไป พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ได้สั่งการให้ บก.รน. จัดเรือของตำรวจน้ำไปควบคุมดูแลไม่ให้น้ำมันกระจายเป็นบริเวณกว้าง จากนั้นจะพิจารณาว่า กรณีถ้าคลื่นลมหรือกระแสน้ำไม่แรงมาก จะจัดชุดประดาน้ำดำไปในทะเลเพื่อตรวจสอบเรือลำดังกล่าว
ในส่วนของคณะสืบสวนที่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อพิสูจน์ทราบสาเหตุที่เรือดังกล่าวลอยมาอยู่ในน่านน้ำของไทย ซึ่งคาดว่าเรือดังกล่าวน่าจะลอยมาจากน่านน้ำของต่างประเทศ ประเด็นสำคัญก็คือ เรือดังกล่าวมีการขึ้นทะเบียน IUU จึงต้องมีการตรวจสอบเมื่อมีเรือที่ถูกขึ้นทะเบียน IUU อัปปางหรือลอยเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่มีสาเหตุ ต้องตรวจสอบให้ทราบว่า สาเหตุที่เรือดังกล่าวมาลอยลำอยู่ในประเทศไทยเป็นเพราะอะไร มีการกระทำความผิดในส่วนใดหรือไม่ เพราะเหตุใดเรือดังกล่าวจึงไม่มีลูกเรืออยู่เลยแม้แต่คนเดียว แต่ในเบื้องต้นนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่เรือ ถูกทิ้งดังกล่าว รอให้นักประดาน้ำดำลงไปตรวจสอบอีกครั้ง
ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการประมงดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้ทราบถึงลักษณะการทำประมงที่เป็นความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/antihumantraffickingpolice เพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รู้แล้ว! ที่มาเรือปริศนา-พร้อมชื่อ จากหลักฐานสมุดปูมการเดินเรือล่าสุด บันทึกไว้ปี59
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี