วันที่ 12 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานได้รับการเปิดเผยจากนางสาวจิรภา (ขอสงวนนามสกุล) แม่ค้าขายขนมจีนอยู่ในตลาดอำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า เมื่้อวันที่ 31 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ได้มีโทรศัพท์เป็นเสียงผู้หญิงโทรเข้ามาหาตน และแจ้งว่าโทรมาจากสรรพากร บอกว่าให้ตนไปชำระภาษีถุงเงินถ้ายังไม่ชำระให้ชำระได้ตามแอพที่เขาบอก จากนั้นตนจึงได้กดเข้าไปโดยให้ยืนยันตัวตนชื่อกับเบอร์โทร์ศัพท์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้แจ้งกับตนว่าต่อไปไม่ต้องเสียภาษีแล้ว เพราะเขาจัดการให้แล้วเพราะร้านเป็นร้านค้ารายย่อยไม่ต้องเสียภาษีอีกแล้ว โดยตนไม่ได้เอะใจอะไร มารู้ตัวอีกที่ตอน 5 โมงเย็นเมื่อเข้าไปเช็คยอดเงินที่ขายได้วันนี้พบว่าเงินได้หายไปหมดเลยเป็นเงิน 66,520 บาท

ตนเองจึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.ศรีบุญเรือง เพื่ออายัดบัญชีพอรุ่งเช้าตนไปธนาคาร โดยพนักงานธนาคารได้แจ้งชื่อและเลขที่บัญชีปลายทางที่โอนไปชื่อว่า นางสาวญาณิสา (ขอสงวนนามสกุล) และแจ้งว่าเงินได้ถูกโอนออกไปหมดแล้วคงเหลือ 87 สตางค์ โดยพนักงานธนาคารได้แจ้งว่าต่อไปเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีและในส่วนของอำเภอศรีบุญเรืองตนได้ยินว่ามีรายหลายโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินลักษณะเดียวกัน และตนได้เข้าโครงการถุงเงินและร่วมโครงการคนละครึ่งของรัฐบาล โดยให้ลูกค้าที่มาซื้อขนมจีนได้สแกนจ่ายเงิน ซึ่งขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณ 10.30 น.เงินถูกโอนออกเวลา 17.00 น.ซึ่งตนคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามคนร้ายและนำเงินกลับมาคืน เพราะมันเป็นเงินที่ตนขายของและเป็นเงินก้อนสุดท้ายในการลงทุน

"อยากฝากแจ้งเตือนไปถึงพี่น้องประชาชนว่าให้รอบคอบในการที่จะกดเงินโอนเงิน เพราะเดี๋ยวนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนักมากในจังหวัดหนองบัวลำภู และอยากฝากไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่าให้เลิกอาชีพแบบนี้เสีย เพราะว่ามันเป็นบาป เป็นกรรม อย่าทำนาบนหลังคน เพราะจะทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน" - 003