คลินิกสิ่งแวดล้อม : ทำความรู้จัก พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ตอนที่ 2

คลินิกสิ่งแวดล้อม : ทำความรู้จัก พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พ.ศ.2566 ตอนที่ 2

วันศุกร์ ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.

หลักการภาพรวมของเจตนารมณ์ของกฎหมายดังกล่าว มุ่งเน้นคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยในอดีตที่ผ่านมาเคยมีปัญหาเกี่ยวกับการถูกควบคุมตัวของประชาชนผู้ต้องหาโดยเจ้าหน้าที่รัฐ จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถูกควบคุม ตลอดจนสูญหายหรือเสียชีวิต

ถึงแม้เดิมในหลักกฎหมายจะมีเรื่องการไต่สวนการตายบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้วก็ตาม แต่เป็นกรณีที่เป็นมาตรการบังคับใช้หลังจากเกิดการเสียชีวิตของผู้ต้องหาหรือผู้ถูกควบคุม อีกทั้งประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการไต่สวนการตายนั้น ก็ยังไม่เป็นที่เชื่อถือของประชาชนเนื่องจากเครือญาติของผู้ตายมักจะมีความคิดและความเชื่อในทำนองที่ว่า เจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนข้อมูลและทำการไต่สวนในลักษณะที่เอื้อประโยชน์กัน


แตกต่างกับพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายซึ่งเป็นมาตรการป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุความเสียหาย โดยมีมาตรการบังคับใช้ที่รวดเร็วและสามารถแก้ปัญหาเรื่องการควบคุมตัวโดยมิชอบได้อย่างทันท่วงที

นอกจากนี้อัตราโทษค่อนข้างจะสูงโดยมีอัตราโทษสูงสุดในกรณีที่เกิดการเสียชีวิตคือจะต้องรับโทษจำคุก 15-30 ปีหรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 300,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท และยังระบุโทษถึงผู้ให้การสนับสนุนต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำ ผู้สมคบต้องระวางโทษ 1 ใน 3 รวมถึงผู้บังคับบัญชาที่ทราบการกระทำผิดต้องระวางโทษกึ่งหนึ่ง

และยังมีประเด็นที่น่าสนใจที่บัญญัติไว้ในมาตรา 41 คือกรณีที่ผู้กระทำความผิดได้ช่วยให้มีการค้นพบผู้ถูกสูญหาย โดยไม่ทำให้ผู้ถูกสูญหายอันตรายถึงชีวิตหรือใกล้จะเป็นอันตรายถึงชีวิต หรือ ผู้กระทำความผิดได้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ ศาลจะลงโทษเจ้าหน้าที่คนนั้นน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพียงใดก็ได้ บทบัญญัติดังกล่าวเป็นแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ที่ร่วมรู้เห็นในการกระทำความผิดกลับตัวกลับใจและให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ซึ่งเป็นConcept เดียวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดมาตรา 100/2 เดิม 153 (ใหม่) 

ในรายละเอียดคำอธิบายของบทบัญญัติดังกล่าวในมาตราสำคัญผู้เขียนจะขอนำเสนอในครั้งถัดไปครับ

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top