ทหารเมียนมายังคงปฏิบัติการทางอากาศในพื้นที่รัฐคะยาและรัฐฉาน ขณะที่ผู้ลี้ภัยยังคงหนีภัยสงครามเข้ามาอาศัยหลบภัยในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

วันที่ 18 ก.ค.66 แหล่งข่าวระดับสูงของ กองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงคะยา KA / KNDF เปิดเผยว่า ทหารเมียนมายังคงปฏิบัติการกวาดล้าง ฝ่ายต่อต้านในพื้นที่รัฐคะยาอย่างหนักเช่นเดิม โดยเฉพาะในพื้นที อ.แม่แจ๊ะ และ อ.ฟลูโซว์ ยังคงมีการสู้รบอย่างต่อเนื่องและมีการปฏิบัติการทางอากาศต่อทหารคะยารวมไปถึงประชาชนในพื้นที่ที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ ทหารเมียนมาได้มีการเสริมกำลังเข้าสู่รัฐคะยาถึง 3 กองพลทหารราบเบา ได้แก่ พล.ร.เบา 55 , พล.ร.เบา 44 และ พล.ร.เบา 77

แหล่งข่าวยังระบุต่อไปว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นมา ทางกลุ่ม KNDF ได้ร่วมมือกับกลุ่ม PNO (กองกำลังติดอาวุธชนเผ่าปาโอ) ทำการโจมตีทหารเมียนมาที่พยายามเข้าสู่รัฐคะยา จากชายแดน เมืองปินลอง-เฟลโก ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างรัฐคะยากับรัฐฉาน ในระหว่างการสู้รบ ทางรัฐบาลทหารเมียนมาได้ส่งเครื่องบินเจ็ตและเฮลิคอปเตอร์ ทำการโจมตีทหารของ KNDF และแนวร่วมกว่า 108 ครั้งทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บอีก 11 รายนอกจากนั้นโรงพยาบาล 2 แห่ง ห้องพยาบาล 2 ห้อง โรงเรียนคริสต์และบ้านเรือนกว่า 20 หลังได้รับความเสียหาย ขณะที่ กองกำลัง KNDF และแนวร่วมเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

แถลงการณ์ศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ของวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 เวลา 18.00 น.ที่ผ่านมา ยืนยันว่ามีการปะทะกัน ระหว่างทหารเมียนมากับ กองกำลังชนกลุ่มน้อย/กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา บริเวณตามแนวชายแดน เป็นการปฏิบัติการทางทหารโดยมีการใช้กำลังทางอากาศในพื้นที่ด้านตรงข้าม อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมือง อำเภอแม่สะเรียง และปฏิบัติการทางทหารโดยใช้กำลังทางภาคพื้นดิน ในพื้นที่ด้านตรงข้าม อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ล่าสุดยังคงมีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา หนีเข้ามาในฝั่งไทยจำนวน 9,208 คน เข้ามาเพิ่มที่ บ้านพะแข่ หมู่ 3 ต.แม่กิ๊ อ.ขุนยวม 1 คน และบ้านจอปร่าคี หมู่ 9 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จำนวน 216 คน - 003