‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ส่งฟ้องสำนวนคดี‘สว.ศิวกร’ถูกยิงเสียชีวิตในงานเลี้ยง‘บ้านกำนันนก’ พร้อมคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ถึงมืออัยการ 16 พ.ย.นี้ ‘ผบช.ก.’เผยพยานหลักฐานคดี‘กำนันนก’แน่นเกิน 90 % มั่นใจเอาผิดได้ เตรียม‘ฟื้นคดี’ลูกน้องก่อเหตุ แต่รอด
15 พฤศจิกายน 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. , พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. , พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ,พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. พร้อมด้วยชุดสืบสวนและสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุมในการดำเนินคดีกับ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนก”
ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่นฯ” รวมถึงดำเนินคดีกับผู้ที่ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ทำลายพยานหลักฐาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุซึ่งละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
พฤติการณ์จากกรณีเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566 ได้เกิดเหตุการณ์ที่ นายประวีณ หรือกำนันนกฯ ใช้ให้นายธนัญชัย หรือหน่องฯ ใช้อาวุธปืนยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือสารวัตรศิว เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และกระสุนปืนพลาดไปถูก พ.ต.ท.วศิน พันปี ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งต่อมาศาลจังหวัดนครปฐมได้ออกหมายจับ นายธนัญชัยฯ ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นฯ” และออกหมายจับนายประวีณฯ ในความผิดฐาน “เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นฯ” กระทั่งนายธนัญชัยหรือหน่องฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรม เนื่องจากต่อสู้ขัดขวางขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม และนายประวีณหรือกำนันนกฯ เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามที่สื่อมวลชนได้มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุจนกระทั่งถึงปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้ร่วมกันรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดอย่างเต็มกำลังความสามารถและกระทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะให้ผู้กระทำความผิดนั้นต้องได้รับโทษอย่างถึงที่สุดในกระบวนการยุติธรรม
ล่าสุดคณะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย สำนวนการสอบสวนมีความครบถ้วนสมบูรณ์ โดยแบ่งออกเป็น 2 คดี อันมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
+ คดีที่ 1 คดีนายประวีณหรือกำนันนกฯเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาด (เลขคดี 24/2566)
สำนวนการสอบสวนมีพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วยประจักษ์พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ พยานผู้เชี่ยวชาญ พยานแวดล้อม รวมจำนวนทั้งสิ้น 67 ปาก
พยานวัตถุประกอบด้วย อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ หัวและปลอกกระสุน เครื่องบันทึกไฟล์วีดีโอของกล้องวงจรปิดและไฟล์วีดีโอของกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ในส่วนพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด มีข้อมูลภาพเหตุการณ์ที่สามารถใช้ยืนยันการกระทำความผิดของนายประวีณหรือกำนันนกฯ ได้
คณะพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็น “สั่งฟ้อง” นายประวีณหรือกำนันนกฯ ในข้อหา “ผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่น และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยพลาด” ตาม ป.อาญา ม.288,80,60 ประกอบ ม.84 สำนวนการสอบสวนจะส่งไปยังพนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา เพื่อฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญา ต่อไป
ในส่วนความผิดของนายธนัญชัยหรือหน่องฯ ในคดีนี้ มีความเห็น สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ด้วยเหตุผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย
+ คดีที่ 2 คดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ (เลขคดี 25/2566)
สำนวนการสอบสวนมีพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประกอบด้วยประจักษ์พยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์ พยานผู้เชี่ยวชาญ พยานแวดล้อม รวมจำนวนทั้งสิ้น 44 ปาก
พยานวัตถุประกอบด้วย อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ หัวและปลอกกระสุน เครื่องบันทึกไฟล์วีดีโอของกล้องวงจรปิดและไฟล์วีดีโอของกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ในส่วนพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด มีข้อมูลภาพเหตุการณ์ที่สามารถใช้ยืนยันการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละรายที่อยู่ในที่เกิดเหตุซึ่งได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ได้
คณะพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนการสอบสวนมีความเห็น “สั่งฟ้อง” ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพฤติการณ์ไม่จับกุมผู้ต้องหา ไม่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ไม่ทำการสืบสวนไปตามหน้าที่ ทำให้ผู้ต้องหาหลบหนี พยานหลักฐานในที่เกิดเหตุถูกทำให้เสียหาย สูญหาย ถูกทำลาย ทำให้เสียหายต่อการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รวมทั้งสิ้น 21 ราย (อยู่ในเรือนจำ 6 ราย , แจ้งข้อหาโดยไม่ควบคุม 15 ราย) ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด” ตาม ป.อาญา ม.157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ม.172 อีกทั้งยังดำเนินคดีกับพลเรือนผู้มีส่วนสนับสนุนการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ และทำลายซ่อนเร้นพยานหลักฐาน รวม 7 ราย ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มลูกน้องคนสนิทของนายประวีณหรือกำนันนกฯ รวมถึงตัวนายประวีณหรือกำนันนกฯได้ถูกแจ้งข้อหาสนับสนุนการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ เช่นกัน
ในวันที่ 16 พ.ย.2566 เวลาประมาณ 10.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้นัดหมายส่งสำนวนการสอบสวน ทั้ง 2 สำนวนไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เพื่อฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ต่อไป
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดเผยว่า วันที่ 16 พ.ย. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พร้อมคณะพนักงานสอบสวนกองปราบ จะนำสำนวนคดีกำนันนก ทั้ง 2 คดี ประกอบด้วย สำนวนคดีฆ่าซึ่งมีนายประวีณ หรือกำนันนก เป็นผู้ต้องหาหลัก และสำนวนคดีความผิดมาตรา 157 ซึ่งมีกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจในงานเลี้ยง 21 คน และประชาชนที่เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดอีก 7 คน เป็นผู้ต้องหา ส่งต่อให้กับอัยการพิจารณาสั่งฟ้องทั้งหมด แม้จนถึงตอนนี้ตัวกำนันนก ยังคงปฏิเสธก็ไม่ได้หนักใจเพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ว่าแน่นหนาเพียงพอ หากให้ประเมินเป็นตัวเลขก็ต้องบอกว่ามั่นใจเกิน 90%
“ที่ผ่านมาทำเต็มที่ทุกคดีไม่ใช่เฉพาะเพียงแค่คดีนี้ อีกทั้งคดีนี้ผู้เสียชีวิตเป็นคนดี เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องทุ่มเทเต็มที่เหมือนทุกๆคดีอยู่แล้ว ส่วนตัวกำนันนกจะมีอิทธิพลมากมายแค่ไหน ขอให้เชื่อว่าไม่เคยเกรงกลัวใคร ไม่เคยหวั่นเกรงอิทธิพลกำนันนก เพราะไม่มีอยู่นอกเหนือกฎหมายได้ ฉะนั้นไม่มีอ่อนข้อให้แน่นอน” พล.ต.ท.จิรภพ กล่าว
ผบช.ก. กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องตรวจสอบฮั้วประมูลนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เพราะเป็นคดีพิเศษ ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจสอบสวนกลางส่งมอบข้อมูลสืบสวนที่มีอยู่ทั้งหมดให้กับทางดีเอสไอไปหมดแล้วหลังจากนี้จะมีการยื่นเรื่องไปยังกระทรวงยุติธรรม เพื่อขออนุมัติให้ตำรวจสอบสวนกลางเข้าร่วมทำคดีนี้กับทางดีเอสไอ
ด้าน พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป. กล่าวว่า เรื่องกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุบ้านกำนันนก ขณะนี้ผลตรวจออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งข้อมูลที่ได้รับเป็นไปในทิศทางเดียวกับรูปคดีที่ตำรวจสืบสวนสอบสวน ไม่มีขัดแย้ง ขณะที่ในส่วนของการตรวจสอบอาวุธปืนในกลุ่มเครือข่ายของกำนันนก พบว่า มีลูกน้องของ กำนันนก รายหนึ่งเคยก่อคดีในพื้นที่แต่สำนวนคดีไม่ถูกสั่งฟ้อง จึงประสานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอรับคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบ เพื่อจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาข้อมูลรื้อฟื้นคดีขึ้นมาขยายผลตรวจสอบอีกครั้ง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี