วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เครือข่ายแรงงานข้ามชาติฯ เตือนระเบิดเวลาลูกใหญ่จากปัญหาแรงงานพม่า

เครือข่ายแรงงานข้ามชาติฯ เตือนระเบิดเวลาลูกใหญ่จากปัญหาแรงงานพม่า

วันศุกร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 16.46 น.
Tag : เมียนมา แรงงานข้ามชาติ แรงงานพม่า
  •  

หวั่นแรงงานพม่า 3 แสนคนหลุดจากระบบเหตุสถานการณ์ภายในเมียนมาวุ่นจนต้องยกเลิกศูนย์รับรองเอกสารเหลือแห่งเดียว เผยระเบิดเวลาลูกใหญ่อีก 3 ล้านคน เครือข่ายแรงงานข้ามชาติส่งหนังสือถึง รมว.แรงงาน แสดง 6 ข้อกังวลพร้อมเสนอแนะ 5 ประเด็น

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2567 เครือข่ายองค์กรประชากรข้ามชาติ ร่วมกับมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ได้สังหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และอธิบดีกรมการจัดหางานเพื่อแสดงความกังวลใจและข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย กรณีเอกสารแรงงานข้ามชาติและการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ โดยเนื้อหาบางส่วนระบุว่า    สถานการณ์ต่อเนื่องการระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผลให้เกิดการปิดด่านชายแดนไทย-พม่า และสถานการณ์การรัฐประหารในประเทศเมียนมา วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 และความรุนแรงด้านการสู้รบในพื้นที่ชายแดน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์การสู้รบที่จังหวัดเมียวดีเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลง ส่งผลต่อการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ที่มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และแรงงานข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง


หนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรงแรงงานระบุว่า เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา เครือข่ายประชากรข้ามชาติ  ผู้แทนสภาอุตสาหกรรม ผู้แทนจัดหางานจังหวัดตาก ตัวแทนแรงงาน ภาคประชาสังคม  ได้มีเวทีแลกเปลี่ยน เพื่อในการจัดทำข้อเสนอระบบการจ้างงานภายใต้การทบทวนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ โดยมีข้อกังวลใจดังนี้ 1.แรงงานข้ามชาติจำนวนมากกำลังหลุดออกจากระบบ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นแรงงานที่ผิดกฎหมาย และเสี่ยงที่จะเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานบังคับ 

2.มีความเสี่ยงที่จะเกิดช่องว่างการบริหารจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอื้อประโยชน์ให้เกิดเอกสารการคุ้มครองภายใต้ระบบการคอรัปชั่น 3.แรงงานไม่สามารถดำเนินการจัดทำเอกสารรับรองบุคคล (Certificate of Identity : CI) ที่ศูนย์จัดทำเอกสารศูนย์บริหารจัดการการทำงานของแรงงานเมียนมาแบบเบ็ดเสร็จ ที่จังหวัดสมุทรสาคร ได้ทันตามกรอบระยะเวลาที่   มติคณะรัฐมนตรีกำหนด วันที่ 31 ตุลาคม 2567 โดยศักยภาพการให้บริการศูนย์ยังมีความไม่สอดคล้องกับจำนวนแรงงานที่ยังตกค้าง 

4.เสถียรภาพในการจัดการด้านเอกสารประจำตัวแรงงานของประเทศต้นทางที่ไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปิดศูนย์บริหารจัดการการทำงานของแรงงานเมียนมาแบบเบ็ดเสร็จ ในขณะที่ยังมีจำนวนแรงงานที่ยังตกค้างอยู่จำนวนมาก และระยะเวลาตามมติคณะรัฐมนตรีกำหนดก่อนเวลา4 เดือน 5.อัตรากำลังแรงงานขาดแคลน ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานข้ามชาติในธุรกิจ 6.ความเสี่ยงเรื่องการถูกหลอกจากกระบวนการจัดหางาน พบว่ามีการจ่ายเงินให้นายหน้าดำเนินการให้ แต่เมื่อกระบวนการไม่ผ่านหรือติดขัดก็ไม่ได้รับเงินคืน ไม่มีการรับรองหรือยันยันได้ว่าแรงงานจะได้เอกสารตามที่นายหน้าชี้แจงไว้ในประเทศต้นทาง บางกรณีภายหลังที่เข้ามาทำงานพบว่า ประเภทงานที่ทำไม่ตรงตามสัญญา 

เครือข่ายองค์กรประชากรข้ามชาติ และมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา ได้เสนอแนะดังนี้ 1.พิจารณาการบริหารจัดการในการขึ้นทะเบียนแรงงานรูปแบบศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service ) 2.พิจารณาการบริหารจัดการแรงงานฝ่ายเดียวในช่วงที่ประเทศเมียนมาอยู่ในสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมือง  เพื่อการบริหารจัดการแรงงานที่หมุนเวียนอยู่ในระบบประมาณ 3,000,000 คน โดยลดความเสี่ยงจากการหลุดออกจากระบบ 3.พิจารณาการนำเข้าแรงงานระบบMOUในช่วงที่ประเทศเมียนมาขาดเสถียรภาพในการบริหารจัดการทั้งนี้เพื่อป้องกันการแสวงหาผลประโยชน์ด้านแรงงาน ที่จะถูกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์และแรงงานบังคับ 

4.พิจารณาการขึ้นทะเบียนโดยบริหารจัดการด้วยบัตรสีชมพู ในช่วงระหว่างที่สถานการณ์ประเทศเมียนมา ขาดเสถียรภาพในการบริหารจัดการ โดยเป็นการเสนอสถานการณ์พิเศษ ซึ่งเคยถูกพิจารณาแล้วในปี 2558 โดยพิจารณาระยะเวลา 2 ปี เพื่อประเมินสถานการณ์ 5.ขอให้กระทรวงแรงงานมีการพิจารณาตามสถานการณ์และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากอัตรากำลังและประเภทงานที่เข้ามาทดแทนประเภทงานที่ผู้ประกอบการต้องการใช้กำลังแรงงานข้ามชาติในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายอดิศร เกิดมงคล ผู้ประสานงาน เครือข่ายองค์กรประชากรข้ามชาติ กล่าวว่า  แรงงานพม่าที่จดทะเบียนตามมติคณะรัฐมนตรีร่วม 3 แสนคนเสี่ยงหลุดจากระบบภายในสิ้นตุลาคม 2567 เพราะปัญหาเรื่องการทำเอกสาร CI ของเมียนมา ส่วนหนึ่งหลุดเพราะเป็นชนกลุ่มน้อย หรือถูกสงสัยว่ามีบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่อีกส่วนหนึ่งเข้าไม่ถึงเพราะระบบการทำเอกสารมีความยุ่งยากล่าช้า ซึ่งทางการเมียนมากับกรมการจัดหางาน ได้ยุบศูนย์ CI เหลือเพียงศูนย์เดียวที่สมุทรสาคร ซึ่งต้องทำงานหนักเฉลี่ยวันละกว่า 2 พันคน ทั้งๆที่ศักยภาพการดำเนินของศูนย์ต่อวันไม่ถึงพัน

“ระเบิดเวลาลูกใหญ่อยู่ที่หลังวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 คนงานพม่ามากกว่า 2 ล้านจะต้องต่อใบอนุญาตทำงาน ซึ่งทิศทางของกรมการจัดหางาน อยากให้ทำ MOU แบบพิเศษที่ชายแดน แต่แรงงานพม่าส่วนใหญ่ยังกังวลใจเรื่องการเกณฑ์ทหารในพม่า พวกเขาไม่มั่นใจเรื่องความปลอดภัยจากสถานการณ์สู้รบในพม่า และยังกังวลใจเรื่องการทำเอกสารหนังสือเดินทางที่จะต้องทำใหม่ ว่าทำได้หรือไม่ เพราะมีเรื่องการเสียภาษี 2% และบังคับโอนเงินกลับบ้านผ่านธนาคารในกำกับรัฐบาลทหารเมียนมา 25% ของค่าจ้าง และมีบทลงโทษห้ามออกนอกประเทศ และไม่ออกหนังสือเดินทางให้ ดังนั้นถ้ามาตรการของไทย ยังผลักให้แรงงานต้องมีเอกสารจากเมียนมา เดินทางกลับ มีแนวโน้มที่แรงงานจะอยู่แบบผิดกฎหมายมากขึ้น”นายอดิศร กล่าว

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง\'จัดทัพบรรเทาสาธารณภัย-สังคมสงเคราะห์ ขับเคลื่อนเต็มกำลัง! เร่งค้นหา-ส่งต่อธารน้ำใจ เดินสายซับน้ำตาชาวไทย-เมียนมา 'มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง'จัดทัพบรรเทาสาธารณภัย-สังคมสงเคราะห์ ขับเคลื่อนเต็มกำลัง! เร่งค้นหา-ส่งต่อธารน้ำใจ เดินสายซับน้ำตาชาวไทย-เมียนมา
  • ด่วน! เปิดภาพ 4 ลูกเรือประมงไทยถึงไทยแล้ว ท่ามกลางความดีใจของญาติที่มารอรับ ด่วน! เปิดภาพ 4 ลูกเรือประมงไทยถึงไทยแล้ว ท่ามกลางความดีใจของญาติที่มารอรับ
  • สธ.ตั้งศูนย์ฉุกเฉิน  รับมือ‘อหิวาต์’ระบาดในเมียนมา  เฝ้าระวังจุดเสี่ยงสูงชุมชนชายแดน สธ.ตั้งศูนย์ฉุกเฉิน รับมือ‘อหิวาต์’ระบาดในเมียนมา เฝ้าระวังจุดเสี่ยงสูงชุมชนชายแดน
  • วิพากษ์มติ ครม.กรณีต่อใบอนุญาตแรงงานข้ามชาติ เชื่อทำให้แรงงานหลุดจากระบบครั้งใหญ่ วิพากษ์มติ ครม.กรณีต่อใบอนุญาตแรงงานข้ามชาติ เชื่อทำให้แรงงานหลุดจากระบบครั้งใหญ่
  • หวั่นวิกฤตแรงงานข้ามชาติ เผยกว่า 2 ล้านคนส่อหลุดจากระบบ หวั่นวิกฤตแรงงานข้ามชาติ เผยกว่า 2 ล้านคนส่อหลุดจากระบบ
  • หวั่นระเบิดเวลาลูกใหญ่!  จากปัญหา‘แรงงานพม่า’  เครือข่ายแรงงานข้ามชาติฯ หวั่นระเบิดเวลาลูกใหญ่! จากปัญหา‘แรงงานพม่า’ เครือข่ายแรงงานข้ามชาติฯ
  •  

Breaking News

ตัดสินใจช้าหวั่นหายนะ!คาดสั่งฟันคดี'เรือใบ'สิ้นเดือนนี้

ทบ.ยกระดับมาตรการ! ห้ามคนไทยผ่านด่านสระแก้ว ไปบ่อน-กาสิโน-สถานบันเทิง ปอยเปต

เปิดความลับ Red Light Therapy แสงสีแดงช่วยย้อนวัยได้จริงไหม ?

'ฮันนี่-ณภัค'มอบข้าวสาร 100 ถุง (500 กก.) เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้กับทหารไทย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved