‘ตำรวจสอบสวนกลาง’รวบ‘จิ้งจอกสาว’จอมลวงโลก จากหลอกขาย‘หน้ากากอนามัย’ สู่ขบวนการ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ สวมรอย‘ดีเอสไอ’ตุ๋นเงินเหยื่อ
11 มิถุนายน 2568 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. , พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.5 บก.ป. นำโดย พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเซียะ สว.กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุม น.ส.อรัญญา อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้าน หมู่ 6 ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด
ทั้งนี้ น.ส.อรัญญา ต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, และผู้ใดเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการของตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช่หรือยอมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”
สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2563 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด 19 ผู้เสียหายต้องการหน้ากากอนามัย เพื่อใช้ในการป้องกันจากโรคโควิด 19 ที่กำลังระบาด ผู้เสียหายจึงได้หาซื้อหน้ากากอนามัยผ่านทางอินเตอร์เน็ต และจนได้มาพบเฟซบุ๊กหนึ่ง มีการประกาศขายหน้ากากอนามัยในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทั้งได้ประกาศว่าสามารถหาสินค้ามาจำหน่ายได้ในจำนวนมากได้ ผู้เสียหายจึงได้หลงกลและตกลงซื้อขายหน้ากากอนามัยดังกล่าว โดยมีข้อเสนอในเรื่องการโอนมัดจำและเมื่อมีสินค้า จึงจะให้โอนในจำนวนยอดที่เหลือค้างชำระ จากนั้นผู้เสียหายได้โอนมัดจำเพื่อสั่งซื้อด้วยเงินจำนวนหนึ่งไปยังชื่อบัญชี ดารัตน์ฯ ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น น.ส.อรัญญาฯ ผู้ต้องหารายนี้
ต่อมาเมื่อถึงวันเวลาที่ตกลงกัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ลวงผู้เสียหายว่ามีสินค้าเข้ามาครบแล้วให้โอนยอดชำระที่เหลือได้ทันทีที่บัญชีเดิม จากนั้นผู้เสียหายได้หลงกลโอนเงินให้จนครบตามตกลงแล้ว ผู้เสียหายกลับไม่สามารถติดต่อเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้อีก ผู้เสียหายจึงคิดว่าโดนหลอกแล้ว จึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมทางสื่อออนไลน์พบว่า เลขบัญชี และชื่อเจ้าของบัญชีดังกล่าวเคยหลอกผู้อื่นหลายรายในลักษณะเดียวกันกับที่ตนถูกหลอก มูลค่าความเสียหายโดยรวมเกือบแสนบาท
ต่อมา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้เสียหายได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ อ้างว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดและการฟอกเงิน พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่ให้ความร่วมมือจะถูกดำเนินคดี ผู้แอบอ้างหลอกให้ผู้เสียหายแอดไลน์ และส่งเอกสารที่มีตราครุฑอ้างเป็นเอกสารราชการมาให้ดูเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พร้อมกับหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ผ่านทางไลน์ พร้อมทั้งขอข้อมูลบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตของมารดาผู้เสียหายอีกด้วย ด้วยความกลัวผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงโอนเงินรวม 18 ครั้ง 14 บัญชี เป็นเงิน 3,292,127.92 บาท ในจำนวนนี้เป็นบัญชีชื่อ น.ส.อรัญญา ผู้เสียหายได้โอนเงินไป 2 ครั้ง เป็นจำนวนเงิน 313,743 บาท
ผู้เสียหายจึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับมารดา จึงได้มาคิดทบทวนแล้วเชื่อว่าน่าจะถูกหลอกลวง จึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป และเมื่อผู้เสียหายเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ก็พบว่า น.ส.อรัญญา เป็นบุคคล คนเดียวกับ น.ส.ดารัตน์ ที่เคยก่อเหตุใช้อุบายหลอกลวงผู้เสียหายหลายราย รวมถึงผู้เสียหายด้วย ในกรณีหลอกขายหน้ากากอนามัยเมื่อปี 2563 ช่วงที่โรคโควิด 19 ระบาดนั้นเอง
จากการสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ช่วงปี 2565 หลังก่อเหตุหลอกขายหน้ากากอนามัยให้ผู้เสียหายแล้ว น.ส.ดารัตน์ ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.อรัญญา และได้หลบไปทำงานในพื้นที่ อ.เขาสมิง จ.ตราด โดยผู้ต้องหามีการเดินทางข้ามไปยังฝั่งกัมพูชา ผ่านทางช่องทางธรรมชาติอยู่เป็นประจำ ต่อมาชุดจับกุมจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบน.ส.อรัญญา หนีมาทำงานอยู่ที่สวนผลในพื้นที่ ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายจับให้ น.ส.อรัญญา ทราบ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับและแจ้งสิทธิตามกฎหมายข้างต้นให้ทราบ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของน.ส.อรัญญา พบว่า นอกจากนี้ยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้” อีกด้วย โดยเบื้องต้น น.ส.อรัญญา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี