“บิ๊กเต่า” ระดมทีมสอบ บช.ก. แยกสอบนักร้อง-ตลกดัง-นักธุรกิจพัวพันคดีวัดพระบาทน้ำพุ ถกศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาฯ ตรวจสอบเคสน่าสนใจ สั่งกองปราบฯรวบรวมข้อมูลหมอดูทั่วไทยเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ ด้านวินัย พันธุรักษ์-‘วิชัย วงพิงค์แพนเตอร์’ โร่แจงข้อมูลรับงานแสดง ปัดรับเงินจากอดีตพระอลงกต ปัดสูบเงินวัดตามที่ถูกกล่าวอ้าง
เมื่อวันที่ 8 กันยายน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการขยายผลคดียักยอกเงินวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ว่าพนักงานสอบสวนได้เชิญกลุ่มนักร้องและนักแสดงตลก ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาให้ปากคำตามที่มีการประสานเข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ สำหรับวงดนตรีและนักแสดงตลก ที่จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน ได้แก่ วงพิงค์แพนเตอร์ , นายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือ ‘ถั่วแระ เชิญยิ้ม’ ดาวตลกชื่อดัง นายวินัย พันธุรักษ์ นักร้องชื่อดังและศิลปินแห่งชาติ และนักธุรกิจอีก 1 คน โดยจะมีการแยกกันสอบปากคำ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว พร้อมกันนั้นจะมีการเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ด้วย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคณะพนักงานสอบสวนได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี โดยคณะทำงานได้นำพยานหลักฐานและข้อมูลที่ได้ มาจัดกลุ่ม พร้อมแบ่งงานกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าคดีนี้มีพยานหลักฐานเยอะ จำเป็นต้องระดมทีมสอบสวนใน บช.ก.ทั้งหมดมาเพื่อสอบพยาน เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว เช่นเดียวกับการพิสูจน์การได้มาของทรัพย์ ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก มีหลายคนที่มีชื่อถือครองทรัพย์ของวัด ติดต่อเข้ามาขอคืน และบางส่วนยังไม่ติดต่อขอคืนก็มี
“เรื่องของเส้นเงินหากตรวจพบว่าไปถึงใครก็จะเรียกมาสอบปากคำ เพราะเงินบริจาคต้องอยู่เพียงภายในวัด แต่พบว่ากระจายอยู่ในเครือข่ายของบริวาร จึงเป็นประเด็นที่ต้องตรวจสอบว่าถูกนำไปใช้หาประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ หากเงินถูกนำไปใช้ส่วนตัวก็ถือว่าผิด โดยชุดทำงานอยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบทั้งเงินสด ทรัพย์สิน ที่ดิน อาคาร รถหรู และธุรกิจในเครือทั้งหมด โดยในวันที่ 9 กันยายนนี้ จะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าสำนวนคดีกันอีกครั้ง” รอง ผบช.ก.กล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวภายหลังประชุมคณะทำงานศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย ว่าคณะทำงานได้มีการประชุมใน 2 เรื่อง โดยเรื่องแรกคือ เรื่องภายในศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย ว่ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเท่าไร และมีเรื่องน่าสนใจที่เป็นเคสใหญ่ที่ต้องดำเนินการ และเรื่องที่ 2 เป็นความคืบหน้าของคดีวัดพระบาทน้ำพุ ในการพิจารณาถึงผู้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในลอต 2 ที่จะมีการประชุมแบ่งหน้าที่ให้ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนเรื่องที่ต้องชี้แจง เนื่องจากมีเส้นทางการเงินไปถึงเจ้าตัว โดยก่อนหน้านี้ทางอดีตพระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ให้การว่าถูกกลุ่มคนเหล่านี้โกงเงินไปจำนวนมาก เช่น วงพิงค์แพนเตอร์ เรียกค่าแสดงครั้งละ 4-5 แสนบาท แต่ได้แสดงจริงหรือไม่จะต้องตรวจสอบส่วนนี้ด้วย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีเรื่องหมอดู ผู้วิเศษ ที่กำลังเป็นกระแสข่าวในช่วงนี้ ว่าขณะนี้ได้สั่งการให้ทางกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหมอดูทั้งหมดทั่วประเทศ เพื่อพิจารณาว่าจะเข้าข่ายหลอกลวงต้มตุ๋นหรือไม่ เนื่องจากหลายๆ กรณี มีลักษณะทำนายแล้วไม่ตรง สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชน ซึ่งตำรวจสามารถพิจารณาดำเนินการได้โดยไม่ต้องรอให้มีการร้องเรียน เช่นเดียวกับกรณีของนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี ทั้งนี้ อยากฝากถึงประชาชนว่าอย่าหลงงมงาย ให้ตั้งสติดีๆ
เวลา 12.30 น.นายวินัย พันธุรักษ์ สมาชิกวงดิอิมพอสซิเบิล และศิลปินแห่งชาติ เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกรณีรับงานจ้างแสดงดนตรีวัดพระบาทน้ำพุ โดยนายวินัย กล่าวว่า ได้รับงานแสดงเมื่อ 8-9 ปีที่แล้ว ประมาณ 3 ครั้ง รับค่าจ้างครั้งละประมาณ 30,000 บาท แต่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้างจะให้ ไม่ได้ตกลงราคา บางครั้งก็ไปแสดงเพื่อการกุศลด้วย ผู้ที่โอนจ่ายค่าจ้างให้ตนเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด ไม่ได้รับเงินจากอดีตพระอลงกต โดยตรง และไม่ทราบว่าเป็นเงินที่มาจากบัญชีไหน
“การเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการยักยอกหรือทุจริตเงินบริจาคของวัด ไม่เคยยืมเงินอดีตพระอลงกต ไม่ได้ถือครองทรัพย์สินใดๆ แทน ผมเป็นเพียงศิลปินที่ถูกว่าจ้างจากวัดพระบาทน้ำพุ เท่านั้น พร้อมชี้แจงประเด็นที่ตำรวจสงสัย และหากต้องการหลักฐานเส้นทางการเงิน ก็พร้อมจะให้ตรวจสอบ เพราะมีหลักฐานปรากฏชัดอยู่แล้ว” นายวินัย กล่าว
จากนั้นเวลา 13.00 น.นายวิชัย ปุญญะยันต์ หัวหน้าวงพิงค์แพนเตอร์ พร้อมด้วยนางสุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูล ซึ่งนายวิชัย ยอมรับว่าได้รับค่าจ้างแสดงดนตรีครั้งละประมาณ 400,000 บาทจริง เป็นการจัดคอนเสิร์ตการกุศลที่ไม่ได้เรียกเก็บค่าบัตรเข้าชม มีการเชิญนักร้อง ศิลปินหลายท่าน ร่วมแสดง เท่าที่จำได้นั้นได้รับว่าจ้างจากวัดพระบาทน้ำพุ ประมาณ 7 ครั้ง
นายวิชัย กล่าวต่อว่า สำหรับเงิน 400,000 บาทนั้น ได้รับการโอนจากคนกลางที่ได้รับการติดต่อจากทางวัด และมีการตกลงราคากันล่วงหน้าอยู่แล้ว โดยที่ตนไม่ได้พบกับอดีตพระอลงกต เป็นการส่วนตัว โดยเงินจำนวนนี้จะถูกนำไปแบ่งจ่ายให้สมาชิกในวง ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท และจะแบ่งเงินบางส่วนบริจาคเพื่อการกุศลให้กับทางวัดด้วย ประมาณครั้งละ 100,000 บาท
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ได้นำหลักฐานเป็นสเตทเมนต์การรับเงิน การโอนเงินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าตนและสมาชิกของวง ไม่ได้มีการสูบเงินของวัด ตามที่ถูกอดีตพระอลงกต กล่าวอ้างแต่อย่างใด และการมาให้ข้อมูลครั้งนี้ ตั้งใจมาให้ข้อมูลด้วยตัวเอง อีกทั้งได้ประสานคนกลางที่เป็นคนโอนเงินให้ มาร่วมให้ข้อมูลด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี