'นายกฯ'นำแถลงผลงาน2สัปดาห์ ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ค้า-ผู้ผลิต ลั่น! ปราบได้แน่

'นายกฯ'นำแถลงผลงาน2สัปดาห์ ประกาศเป็นศัตรูกับผู้ค้า-ผู้ผลิต ลั่น! ปราบได้แน่

วันเสาร์ ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 10.18 น.

นายกฯ ประกาศสงครามยาเสพติด! อนุทินนำแถลงผลงาน 2 สัปดาห์ ยึดยาบ้า 18.25 ล้านเม็ด ไอซ์ 1.4 ตัน ลั่น 'ปราบได้แน่'

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 4 ต.ค.68 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ มีของกลางยาเสพติด ประกอบด้วย ยาบ้า จำนวน 18.25 ล้านเม็ด ไอซ์ 1,488 กิโลกรัม และคีตามีน 29 กิโลกรัม โดยมี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ร่วมในการแถลงข่าว


นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เรามาร่วมแถลงข่าวซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลในชุดที่ตนเป็นหัวหน้ารัฐบาลนี้ให้ความใส่ใจกับเรื่องการปราบปรามและป้องกันภัยยาเสพติดที่กำลังคุกคามประเทศมาโดยตลอด ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อความมั่นคงและสภาพสังคม ทั้งนี้ตั้งแต่ตนยังดำรงตำแหน่งเพียงรมว.มหาดไทย ตนได้แสวงหาความร่วมมือกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เราได้บูรณาการรูปแบบการปฎิบัติการอย่างเต็มกำลัง พร้อมที่จะทำการเป็นศัตรูกับผู้ค้าและผู้ผลิตยาเสพติด ซึ่งในช่วง2ปีที่ผ่านมาที่ตนอยู่กระทรวงมหาดไทยได้มีการจับกุมและยึดของกลางเป็นจำนวนมาก ตลอดจนดำเนินคดีและนำของกลางไปทำลาย แต่ได้มากเท่าไหร่ยังไม่สามารถทำให้ความพยายามของผู้ค้าลดลงได้ 

 

 

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังจำได้ว่ายังเคยได้รับรายงานจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สมัยที่เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอยู่ ท่านได้แจ้งว่าอย่างน้อยสิ่งที่พวกเราได้ร่วมมือกันทำไปส่งผลให้เกิดอุปสรรคอย่างมากมาย สำหรับกระบวนการค้ายาเสพติดการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการขนถ่ายยาเสพติดมีวิธีการสลับซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการแทรกแซงและปราบปรามของเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องถือว่ามีผลอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามเราต้องมีความสามารถเหนือกว่าผู้ค้าผู้ผลิตให้มากขึ้นเท่าที่จะทำได้ ในขณะเดียวกันจะมีความร่วมมือเกิดขึ้นระหว่างฝ่ายตำรวจและฝ่ายปกครองในพื้นที่ในต่างจังหวัดในอำเภอต่างๆ เพื่อยกระดับการจัดการปัญหานี้ให้ครบทุกมิติตลอดจนแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะทำให้การป้องกันปราบปรามการค้ายาเสพติดเกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งของกลางตรงนี้เป็นส่วนที่จับได้ตั้งแต่รัฐบาลของตนเข้ามาบริหารประเทศคือตั้งแต่วันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกฝ่าย เราไม่ได้จับแค่นี้ เราจะดำเนินการต่อไป และหวังว่าในขณะนี้ที่ตนมีความรับผิดชอบทั้งในตำแหน่งนายกฯและรมว.มหาดไทย โดยความสัมพันธ์ความผูกพันในทางส่วนตัวกับคณะผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเราไม่ได้พึ่งมารู้จักกันในหน้าที่การงาน แต่เรารู้จักกันมานานแล้ว ความร่วมมือกันมาแต่ในอดีต เพราะฉะนั้นตนมั่นใจว่าด้วยการสนับสนุนและการให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลชุดนี้ด้วยความร่วมมือของทุกฝ่ายจะเกิดประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นอย่างแน่แท้

เมื่อถามว่า จะมีนโยบายปราบปรามเด็ดขาดเหมือนรัฐบาลในอดีต ที่มีการฆ่าตัดตอนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นโยบายปราบปรามยาเสพติด ต้องมีความเด็ดขาดอยู่แล้ว

นายอนุทิน กล่าวถึง นโยบายรัฐบาลต่อผู้ค้ายาเสพติดที่หลบหนีไปสั่งการในต่างประเทศว่า เรามีการแสวงหาความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งดำเนินการมาโดยตลอดอยู่แล้ว จะเห็นแล้วว่าคนที่มีประวัติค้ายาเสพติด เราจะปฏิเสธการเข้าประเทศและจะติดตามดำเนินคดีตลอดเวลา ซึ่งตำรวจในระดับผู้กำกับและนายอำเภอทั่วประเทศก็จะเข้าไปเอ็กซเรย์ เข้าไปดูเพื่อให้ ปัญหาการค้ายาเสพติดมีน้อยที่สุด แล้วต้องดำเนินคดีอย่างเต็มที่ จนยาเสพติดหมดไป ดังนั้นถ้าตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมมือกันอย่างเต็มที่  โอกาสที่ผู้ค้ารายย่อย จะสามารถกระทำได้ อย่างคล่องตัวมันจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top