‘เซตซีโร่’ตัวเองหลัง30ก.ย.
‘บิ๊กแดง’ประกาศ
ยึดระเบียบ-ไม่มีต่ออายุ
งามหน้าประชุมสภาล่ม
สส.ซีกรัฐบาลมาไม่ครบ
“บิ๊กแดง” ลั่นเป็นทหารอาชีพ ปัดต่ออายุราชการ ยึดตามระเบียบเกษียณฯย้ำ 30 กันยายน “เซตซีโร่”ตัวเอง ให้จับตาต่อไปลงจากเก้าอี้ผบ.ทบ.จะทำอะไรต่อ เผยสิงหาคมเตรียมแถลงผลงาน ขณะที่สภาล่ม!หลัง“ฝ่ายค้าน”เซ็งแผนปฏิรูปไม่คืบ รายงานทุก 3 เดือน หวังให้ สส.ประทับตรายาง สร้างความชอบธรรมเสนอนับองค์ประชุม แม้ ประธานสภาฯ ให้เวลา 20 นาที สส.รัฐบาล ยังมาไม่ครบ สุดท้ายองค์ประชุมล่มมีแค่ 231 ไม่ถึง 244 เสียง ถก“กมธ.งบฯ’64”นัดแรกเลือก “อุตตม”
นั่งปธ. ส่วน‘ธนาธร’เป็นที่ปรึกษาฯ
เมื่อวันที่ 8กรกฎาคม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวจะต่ออายุราชการ ว่า ตนถามตัวเองอยู่เสมอว่า เราเป็นทหารอาชีพและแนวทางรับราชการถูกกำหนดไว้ชัดเจนว่า จะต้องเกษียณอายุราชการ บางคนพยายามไปขุดคุ้ยว่ามีอยู่ 2คน ประสบความสำเร็จในการต่ออายุราชการซึ่งไม่ใช่ อย่าไปสร้างกระแส ตนปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงกลาโหมและระเบียบในการเกษียณอายุราชการ รวมถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกคนที่จะเกษียณอายุราชการ
บิ๊กแดงย้ำ30กย.เซตซีโร่ตัวเอง
‘เราคุยกันในการประชุมผบ.เหล่าทัพเราก็หารือกันว่า ข่าวพวกนี้ไม่ใช่ข่าวเชิงสร้างสรรค์ จะทำให้เกิดความขัดแย้ง ผมมองแล้วไม่มีสาระ และไม่มีข้อเท็จจริงใดๆทั้งสิ้นเลย และวันที่ 30 ก.ย.นี้ ผมก็ส่งธงตำแหน่ง ผบ.ทบ.และถือว่าหมดภาระหน้าที่ก็จบภารกิจในการเป็นผบ.ทบ.’พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องต่ออายุราชการใช่หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ ย้อนถามว่า มีความจำเป็นอะไรที่ต้องต่ออายุราชการ เพราะบ้านเมืองก็สงบเรียบร้อย มีเพียงบางกลุ่มเท่านั้นเอง อยากให้เอาความจริงมาสู้กัน อย่าพูดเพียงท่อนเดียวแล้วเอาไปขยายความ ตนก็เคยพูดไปแล้วเรื่องสื่อโซเชียลออนไลน์
เผยส.ค.เตรียมแถลงผลงาน
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคม ตนจะแถลงผลงานหลายเรื่อง ซึ่งบางคนยังเอามาโจมตีว่าสายตรง ผบ.ทบ.เป็นอย่างไร ตนจะสรุปให้ฟังว่า กองทัพบกได้ทำอะไรไปบ้าง ไม่มีความจำเป็นต้องมานั่งรายงาน เราเป็นองค์กรที่มีระเบียบวินัย เมื่อพูดคำพูดคือนาย เมื่อพูดไปแล้วก็ต้องทำ กำลังพลเมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องปฏิบัติ ใครผิดต้องลงโทษ ใครไม่ดีก็ลงโทษ ย้าย ปลด ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาทุกอย่างของกองทัพบกมีความคืบหน้าไปมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามทำในโซเชียลและผู้ที่ยังไม่เข้าใจพยายามสร้างความขัดแย้งหรือความแตกแยกพยายามนำมาเป็นประเด็น
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารช่วงปลายปี พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ขณะนี้บัญชีโยกย้ายนายทหารอยู่ที่ พล.อ.พรพิพัฒน์เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) แต่หารือกันในที่ประชุมผบ.เหล่าทัพยังไม่ได้กำหนดวันเวลาที่จะส่งรายชื่อ แต่เชื่อว่าทุกเหล่าทัพจะมองบุคคลที่มีความเหมาะสมมาทำงานต่อในทุกตำแหน่ง ไม่ใช่เพียงตำแหน่งผบ.เหล่าทัพอย่างเดียว
ฝากให้จับตาหลังจากนี้ต่อไป
เมื่อถามว่า มีการจับตาหลังเกษียณฯแล้วจะไปทำอะไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า “ขอให้จ้องต่อไปว่าจะไปทำอะไร” เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.คนใหม่ จะดูแลสถานการณ์ต่อจากนี้ได้หรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนจะไปรู้แทนคนที่จะมาเป็นผบ.ทบ.หรือไม่ ขอให้ไปรอถามในวันที่ 1ตุลาคมก็แล้วกัน ส่วนสถานการณ์ในอนาคตจะเกิดความวุ่นวายหรือไม่นั้น ตนยังมองไม่เห็นจะเกิดความวุ่นวาย หรือมีอะไร นายกรัฐมนตรี ก็บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรม ที่สำคัญมีความเด็ดขาดในการบริหาร โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งพวกเราควรชื่นชม ดังนั้นหากถามตนว่า ข้างหน้าจะเกิดอะไรตนไม่ทราบ เพราะไม่รู้คือสถานการณ์ทุกอย่างเป็นลักษณะวันต่อวันและเดือนต่อเดือน ไม่สามารถที่จะไปคาดการณ์ได้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นหรือคนที่จะมาเป็นผบ.ทบ.จะทำอะไรอย่างไร ตนไม่ทราบ แต่โดยส่วนตัวตนเมื่อจบภารกิจบทบาท ตนก็เซตซีโร่ตัวเอง
สภาป่วน!พท.เสนอนับองค์ประชุม
วันเดียวกันที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณารับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนตุลาคม-ธันวาคม2562) ปรากฎว่า สส.ฝ่ายค้านได้สลับกันลุกขึ้นอภิปรายไม่พอใจที่รายงานฉบับนี้นำเข้าสภาทุก 3เดือน แต่ไม่ความคืบหน้า จึงอยากให้ถอนรายงานฉบับนี้ออกไปก่อน
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรค พท.ลุกขึ้นอภิปรายว่า”การจะให้สภาเป็นตรายางเพื่อสะสมแต้มในสิ่งที่รัฐบาลเสนอมา ทั้งๆที่ไม่มีอะไรคืบหน้าพวกผมรับไม่ได้ที่จะให้ผมอภิปรายรับทราบเพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับรัฐบาล หากพวกท่านไม่ถอนรายงานออกไป พวกผมไม่สามารถพิจารณาได้ ดังนั้น จึงจะขอมติให้ตรวจสอบองค์ประชุม เนื่องจากอยากให้สส.ฝ่ายรัฐบาล ได้มาฟังข้อเท็จจริงเรื่องแผนปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติของประเทศ โดยมีสส.ซีกฝ่ายค้านรับรองญัตติการขอนับองค์ประชุม
ซีกรัฐบาลขอเวลาเรียกสมาชิก
จากนั้น นายชวน ได้กล่าวเชิญสมาชิกที่อยู่ด้านนอกประชุมให้เข้ามาภายในห้อง ก่อนจะกดออดเรียก เนื่องจากสส.ซีกรัฐบาลนั่งอยู่ในห้องประชุมน้อยมาก ทำให้เกิดความวุ่นวาย โดยสส.ซีกรัฐบาล รีบวิ่งเข้าห้องประชุม โดยกดไมค์ขอแสดงตน ทั้งๆที่ นายชวน ไม่ได้เปิดให้แสดงตนแต่อย่างใด ระหว่างนั้น สส.ซีกรัฐบาล ต่างขอเวลาประธาน ให้รอสส.ซักพักใหญ่ๆ เนื่องจาก สส.อยู่ระหว่างประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) โดยหลาย กมธ.คงไม่ทราบว่า กำลังจตรวจสอบองค์ประชุม ขณะที่ ชวน ยืนยันว่า จะให้เวลาสมาชิก เพราะบางคนไม่ทราบว่า เรียกเพราะอะไร อาจจะนึกว่า ลงมติ”
อ้างสส.ติดประชุมกมธ.หลายคณะ
ด้าน สส.ซีกฝ่ายค้าน ต่างทยอยลุกออกจากที่นั่งไปยืนรอผลนับองค์ประชุมอยู่หลังห้องประชุมกันจำนวนมาก พร้อมกันนี้ นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เดินเข้าห้องประชุมพอดี โดยระบุว่า”วันนี้มีการประชุมกมธ.ไม่ต่ำกว่า 30คณะและขณะนี้กำลังเตรียมการประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นัดแรก ถือว่า สส.อยู่ในสภาเกือบทั้งหมด จึงขอให้ นายครูมานิตย์ ถอนการนับองค์ประชุมออกไป
‘ครูมานิตย์’เสนอนับองค์ประชุม
จากนั้น นายครูมานิตย์ ลุกขึ้นตอบโต้ นายวิรัช ว่า”ผมเข้าใจบทบาทของสภาทั้งหมด แต่เรื่องนี้ฝ่ายค้านรับไม่ได้จริงๆ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะทำให้เด็กรุ่นหลังอีกหลาย 10ปี จึงอยากเห็นคณะรัฐมนตรี (ครม.)และเพื่อนผู้แทนมาช่วยกันติติงและอยากเห็นการปฏิรูปให้ทันกับยุคปัจจุบัน จึงอยากให้เพื่อนผู้แทน 500คน มาร่วมประชุม ก่อนจะยืนยันให้นับองค์ประชุม”
มีแค่231เสียงไม่ถึง244ทำสภาฯล่ม
ด้าน นายชวน ยืนยันว่า “ไม่มีใครตำหนิ นายครูมานิตย์ เพราะท่านมีสิทธิเสนอนับองค์ประชุม เป็นหน้าที่ที่เราต้องมาประชุม” จากนั้น นายชวน กดออดอีกครั้ง โดยยังมีสส.รัฐบาล เดินเข้าห้องประชุมเพื่อแสดงตนอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร.ได้แก้เกมเพื่อดึงเวลาต่อ โดยให้นับประชุมด้วยการขานชื่อ แต่ นายชวน ไม่อนุญาต หลังผ่านไปกว่า 20นาที จุงสั่งปิดการแสดงตน ผลปรากฏว่า องค์ประชุมมีเพียง 231เสียง ถือว่าองค์ประชุมไม่ครบ 244เสียง จาก 487เสียง ทำให้ นายชวน ต้องสั่งปิดการประชุมทันที ในเวลา 13.05น.
พท.จี้รัฐบาลต้องปฎิรูปตัวเองก่อน
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงหลังองค์ประชุมล่ม ว่า รัฐธรรมนูญกำหนดบทบังคับให้รายงานการปฏิรูปประเทศทุก 3เดือน โดยได้รายงานมาแล้ว3รอบ แต่สังคมเห็นชัดแล้วว่า การปฏิรูปไม่เกิด การรายงานต่อสภาฯเสมือนให้สภาฯเป็นตรายางให้ จะให้เรารับรองอีกครั้งก็คงจะฝืนสังคมไม่ได้ จึงเป็นที่มาของการนับองค์ประชุม เป็นการยกระดับเตือนให้รัฐบาลตระหนักคิด เพราะเราอยากให้มีการปฏิรูปจริงจัง ถ้ายังไม่ปฏิรูปอีก เรามีมาตรการอื่นๆที่ยกระดับขึ้นอีก
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “การนับองค์ประชุมครั้งนี้เป็นมาตรการที่เบาที่สุด ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญ มันทำให้เห็นว่าสภาฯเป็นตรายางอย่างที่เขาหมิ่นประมาทจริงๆ แต่ถ้าหากวันนี้องค์ประชุมครบ เราจะวอล์คเอ้าท์ ไม่ร่วมสังฆกรรม แต่เพียงมาตรการแรกก็สำเร็จแล้ว เราไม่ยอมที่จะเป็นตรายาง”ว
ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนไม่ตั้งใจเสนอให้นับองค์ประชุม แต่รัฐบาลละเลยจริงๆ ฝ่ายครม.ถือว่ามาน้อยไป ต้องมากันให้มากกว่านี้ สส.ฝ่ายรัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เพราะการปฎิรูปเป็นมูลเหตุหนึ่งก่อนรัฐประหารที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นบอกว่าจะปฏิรูปอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เรื่องปฏิรูปประเทศทำเพียงแค่เอกสารธรรมดามาให้เราอภิปรายกันแล้วยกมือให้ผ่าน มันง่ายเกินไป ไม่ให้เกียรติสภาฯและฝ่ายค้าน
เปิดชื่อสส.ไม่ร่วมประชุมสภา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารายชื่อสส.ที่ไม่ได้ร่วมแสดงตนในฝ่ายรัฐบาล จำนวน 53คน แบ่งเป็นพรรคพลังประชารัฐ จำนวน27คนได้แก่ ร.อ.จองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี นายชูศักดิ์ คีรีมาศทองส.ส.สุโขทัย นายฐานิสร์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ น.ส.ตรีนุชเทียนทอง ส.ส.สระแก้ว นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ นายประทวน สุทธิอำนวยเดช ส.ส.ลพบุรี นายปัญญา จีนาคำ ส.ส.แม่ฮ่องสอน นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. นายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลานายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม
พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 16 คน ได้แก่ นายเกียรติ สิทธิอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลานายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อน.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฏร์ธานีนายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี ส.ส.สุราษฏร์ธานีนายวีระชัย วีระเมธีกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อนายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายอัศวิน วิภูศิริส.ส.บัญชีรายชื่อ
พรรคภูมิใจไทย จำนวน 4 คนได้แก่ นางนาที รัชกิจประการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท จำนวน 2 คน นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี และนายชัชวาล คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา จำนวน 2 คน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม นายนพดล มาตรศรี ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมทั้ง พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย และนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังไทยรักไทย
สำหรับฝ่ายค้านที่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม แบ่งเป็นพรรคก้าวไกล 6 คน ได้แก่ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายจรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.ชลบุรี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. นายทศพร ทองศิริส.ส.กทม. นายธีรัชชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสุรวาท ทองบุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จำนวน 2 คน ได้แก่ น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานีและนายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม. อีกทั้ง น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ
ถกกมธ.งบ64’เลือก‘อุตตม’ นั่งปธ.
เวลา 14.00น. ที่ชั้น 6 ห้องประชุมงบประมาณ รัฐสภา เกียกาย มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 นัดแรก โดยมีนายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ หัวหน้าพรรคพลเมืองไทย ในฐานะกมธ.ผู้อาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมชั่วคราว เพื่อพิจารณาเลือกตำแหน่งสำคัญต่างๆ ที่ประชุมได้มีมติเลือก นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธาน กมธ. ก่อนจะพิจารณาแบบลับในการเลือกตำแหน่งต่างๆต่อไป
ทั้งนี้ภายหลังการประชุมผลปรากฏว่าที่ประชุมมีมติเลือก รองประธานกมธ.จำนวน 21 คน อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ รมช.คลัง เป็นรองประธานกมธ. คนที่ 1 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย รมว.คมนาคม เป็นรองประธานกมธ. คนที่ 2 นายวราเทพ รัตนากร กมธ.สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.)เป็นรองประธานกมธ. คนที่ 3
‘ธนาธร’นั่งเป็นที่ปรึกษาฯ
ขณะที่ ตำแหน่งเลขานุการกมธ. จำนวน 11 คน อาทิ นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นเลขานุการกมธ. คนที่ 1 ส่วนตำแหน่งโฆษก กมธ. มีจำนวน 15 คน อาทิ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย เป็นโฆษก กมธ.คนที่ 1 นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งที่ปรึกษาคณะกมธ. จำนวน 7 คน โดย 1 ใน 7 ตำแหน่งมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะกมธ.สัดส่วนพรรคก้าวไกล เป็นที่ปรึกษาด้วย
ที่ประชุมยังได้วางกรอบและแนวทางในการพิจารณางบประมาณปี2564โดยกมธ.จะประชุมทุกวันจันทร์-ศุกร์ โดยใช้เวลา 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
เปิดกำหนดนายกฯพบสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่าหลังการประชุม ครม.ในช่วงบ่ายวันที่ 8กรกฎาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีกำหนดนัดพบบรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ เพื่อรับฟังมุมมองการขับเคลื่อนประเทศในรูปแบบการทำงานแบบnew normal ใน2ประเด็น คือ ประเด็นที่คนไทยและประเทศไทยของเราควรให้ความสำคัญในสถานการณ์ปัจจุบันและปัจจัยที่จะช่วยผลักดันและขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งนายกฯให้ทีมงานทำจดหมายประสานไปยังกองบรรณาธิการสื่อสิ่งพิมพ์ 10ฉบับ เพื่อประสานเข้าพบ โดยเริ่มเดินสายพบบรรณาธิการสื่อในเครือโพสต์พับลิช ชิ่งเป็นสื่อแรกในช่วงบ่ายวันที่ 8กรกฎาคม ก่อนมีคิวพบกับ นสพ.เดลินิวส์ ไทยรัฐและเนชั่น ในวันที่ 9กรกฎคมนี้ ส่วนวันศุกร์ที่ 10กรกฎาคม เป็นคิวของสื่อในเครือมติชนกรุ๊ปและนสพ.แนวหน้า วันจันทร์ที่ 13กรกฎาคม มีคิวพบกับสื่อในเครือผู้จัดการ แต่ยังไม่มีกำหนดนัดพบสื่อมวลชนประเภทอื่นๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี