8พรรคร่วมใจฟู!ขยับไทม์ไลน์‘ตั้งรัฐบาล’อาจเร็วขึ้น 2-3 สัปดาห์ ‘พิธา’ไม่หวั่น 3 ด่านหิน
เมื่อเวลา 12.20 น.วันที่ 7 มิถุนายน 2566 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล นำแถลงความคืบหน้าภายหลังการประชุมระหว่างหัวหน้าพรรค และแกนนำของทั้ง 8 พรรคร่วม
นายพิธา กล่าวว่า มีวาระการประชุมสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.การประเมินสถานการณ์การเมือง ตลอดจนถึงกรอบเวลาของการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะรีบทำงานในการรับรองส.ส. ให้เร็วที่สุด ให้ครบ 95% หากเป็นไปอย่างที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าวันที่ 13 ก.ค. จะเป็นวันสุดท้าย ซึ่งจะมีกระบวนการต่อมา ตั้งแต่ให้ส.ส.รายงานตัว เลือกประธานสภาฯ เลือกนายกรัฐมนตรี และถวายสัตย์ปฏิญาณตน
“เราเห็นตรงกันทั้ง 8 พรรค ว่าน่าจะเลื่อนเข้ามาได้เร็วมากขึ้น 2-3 สัปดาห์ และหมายความว่าหัวหน้าพรรคทุกคนจะต้องเตรียมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเตรียมนโยบายในการแถลงต่อรัฐสภาหรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนผ่านงบประมาณ ซึ่งคาดว่าจะเข้าในช่วงส.ค.หรือก.ย. ถ้าสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว ก็น่าจะมีการบริหารจัดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และดูแลพี่น้องประชาชนได้รวดเร็วขึ้นเช่นเดียวกัน” นายพิธา กล่าว
2.การอัพเดตความคืบหน้าของคณะทำงานคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล สืบเนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งหัวหน้าพรรคทั้ง 8 พรรคเห็นได้ให้แนวทางในการทำงานต่อ โดยจะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 20 มิ.ย. ณ ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย และได้มีการขอให้ประสานไปยังคณะทำงาน เพื่อตั้งคณะทำงานเพิ่มอีก 2 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะทำงานเกี่ยวกับการปฏิรูปประมง ซึ่งระบุไว้ในเอ็มโอยูอยู่แล้ว และเราเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน 2.คณะทำงานดูแลการเปลี่ยนผ่านของงบประมาณ ถึงแม้จะมีงบประมาณผูกพันมาจากงบประมาณของปี 66 แต่หากเราทำงานได้เร็ว งบประมาณของปี 67 ก็น่าจะสามารถใช้ได้เร็ว และสามารถนำงบประมาณไปแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า เมื่อที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะขยับกรอบเวลาการทำงานของร่วมรัฐบาล ในเรื่องปัญหาของบุคลากรที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ ระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะจบลงได้แล้วหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ยังพูดคุยกันอยู่ ในเมื่อการประกาศรับรองส.ส. ก็อาจจะเร็วขึ้น ทุกกระบวนการในการทำงานไม่ว่าบุคลากร นโยบายหรืองบประมาณก็คงต้องเร่งรัดเข้ามา
เมื่อถามว่า ผ่านไป 4 อาทิตย์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ยังไม่โทรมาเเสดงความยินดีที่ชนะเลือกตั้ง นายพิธา ตอบว่า ยังไม่มีการโทรมาจากพล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจว่า ธรรมเนียมปฏิบัติทางการเมืองของตนกับพล.อ.ประยุทธ์ คงต่างกัน ขณะเดียวกันวันหนึ่งถ้าตนเป็นนายกฯ แล้วมีการเลือกตั้งแล้วถ้าเกิดตนแพ้การเลือกตั้ง ตนก็ต้องเป็นคนโทรหาผู้ชนะและก็ยอมแพ้ เพื่อที่จะให้การเปลี่ยนผ่านของรัฐบาลมันไร้รอยต่อมากที่สุด ถ้าเอาประชนชนมาเป็นที่ตั้ง
นายพิธา กล่าวว่า ส่วนการถือครองหุ้น ITV เป็นการถือหุ้นหรือการจัดการมรดก นั้น เรื่องรายละเอียดของหุ้น จะมีคำตอบอยู่แล้ว ขอให้รอฟังจาก กกต. และมองว่าอุบัติเหตุทางการเมืองอนุมานได้หลายรูปแบบ และในแต่ละรูปแบบ ได้มีการเตรียมรองรับอยู่แล้ว จึงไม่กังวล และจะทำให้โอกาสเกิดอุบัติเหตุเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยที่สุด
ส่วนที่มีการพูดว่านายพิธาจะต้องเจอ 3 ด่านคือ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญและส.ว. รู้สึกอย่างไรในขณะที่คนเชียร์เยอะมากนั้น นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวลและไม่ประมาทเพราะทั้ง 3 ด่าน ทีมงานวางแผนในการทำงานและดูแลทุกสถานการณ์อยู่แล้ว ดูว่าฉากทัศน์แต่ละอย่าง จะทำอย่างไรให้การจัดตั้งรัฐบาลมีความเสี่ยงน้อยที่สุดและเดินหน้าไปได้ด้วยดี ได้เดินหน้าทำงานต่อไป ดังนั้นขอเรียนพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนว่าไม่ต้องกังวลใจ
ส่วนที่นายพิธาไปค้ำประกันหนี้สินจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ได้แจ้งกับ ป.ป.ช. นั้น นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหา เพราะมีการประสานงานกับป.ป.ช. ถ้ามีคนร้องจริงหรือมีคำถาม ก็พร้อมชี้แจง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่จะมีเรื่องนี้เกิดขึ้น
ส่วนที่มีข่าวจะให้ใบแดงกับว่าที่ ส.ส. อาจทำให้สัดส่วน ส.ส.ก้าวไกลหายไป จะต้องเปลี่ยนสมการตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะมีการให้ใบแดงถึง 20 คนจริงหรือไม่ เท่าที่สอบถามไม่ได้มีการร้องกันถึงขั้นนี้ และหากให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็พร้อมที่จะลงเลือกตั้งและคิดว่าจะเป็นจุดที่ทำให้เราได้ ส.ส.มากขึ้นด้วยซ้ำ จึงมั่นใจว่าไม่กระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะวางมือทางการเมือง หากเป็นจริง พร้อมที่จะรับส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ร่วมรัฐบาลหรือไม่ ว่า คำว่าพร้อมอ้าแขนรับหรือไม่ เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้พูดคุยกันและไม่มีการสมมติว่าจะเกิดขึ้น ส่วนที่ถามว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล จะทำอย่างไรนั้น ขอยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมุ่งมั่นในฉากทัศน์แรกที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ จากการพูดคุยในขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ดังนั้นการสมมติในเรื่องที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ขอไม่สมมติและมั่นใจว่าจะไม่เกิดขึ้น
ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ยินแต่คำถามว่า กกต. ว่าอย่างไร ศาลรัฐธรรมนูญว่าอย่างไร แต่ไม่ได้ยินคำถามว่าประชาชนว่าอย่างไร ซึ่งอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจแก้ไขปัญหาเมื่อมีปัญหา ซึ่งประชาชนถามตนตลอดว่าเมื่อไหร่จะจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ เพราะรอให้รัฐบาลมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และการเลือกตั้งนั้นประชาชนสนับสนุนพรรคใดมากที่สุด ก็ควรให้จัดตั้งรัฐบาล นี่คือเสียงของประชาชน อยากให้นำเสียงเรียกร้องของประชาชน สะท้อนไปยังผู้มีอำนาจ นี่คือประชาธิปไตย............-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี