วันพฤหัสบดี ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘สมศักดิ์’ลั่น‘คดีแม้ว’ไม่ใช่คดีร้ายแรง เข้าเกณฑ์ขังนอกคุก ได้สิทธิ์ระเบียบใหม่ราชทัณฑ์

‘สมศักดิ์’ลั่น‘คดีแม้ว’ไม่ใช่คดีร้ายแรง เข้าเกณฑ์ขังนอกคุก ได้สิทธิ์ระเบียบใหม่ราชทัณฑ์

วันพฤหัสบดี ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 06.00 น.
Tag : สมศักดิ์
  •  

‘สมศักดิ์’ลั่น‘คดีแม้ว’ไม่ใช่คดีร้ายแรง

เข้าเกณฑ์ขังนอกคุก

ได้สิทธิ์ระเบียบใหม่ราชทัณฑ์

‘กรมคุก’ให้รอแนวทางปฏิบัติ

‘บิ๊กทิน’หยามม็อบปลุกไม่ขึ้น

คปท.รุกอีกยื่น2กมธ.สภาสูง

“สมศักดิ์ เทพสุทิน”สารภาพ “แม้ว” ได้ประโยชน์จากระเบียบราชทัณฑ์ใหม่ เข้าเกณฑ์นำไปขังนอกคุก เพราะเป็นคดีไม่ร้ายแรง ขณะที่ “บิ๊กทิน” เชื่อพวกที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่สามารถปลุกกระแสโค่นนักโทษเทวดาได้ เพราะประชาชนไม่เอาด้วย และไม่ได้เป็นโมเดล ให้ยิ่งลักษณ์ เดินตาม’คปท.’ ยื่น 2 กมธ.ขอหลักฐาน ‘นช.ทักษิณ หยุดทำร้ายบ้านเมือง จิตใจประชาชน

เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 20 ธันวาคม 2566 ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวของกรมราชทัณฑ์ที่มีชื่อตนเกี่ยวข้องในกรณีออกกฎกระทรวง ปี 2563 ว่า พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ราชทัณฑ์ ปี 2560 เป็นกฎหมายที่ออกมาในช่วงของรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ก่อนที่ตนจะเข้ามาเป็น สส. ซึ่งหลังจากมีการเลือกตั้งในปี 2562 ตนเข้ามาเป็นรมว.ยุติธรรม โดยได้ออกกฎกระทรวง มาตรา 33 เรื่องการจำแนก พฤติกรรม การรักษาพยาบาล ตลอดจนการเตรียมพร้อมก่อนปล่อยตัวผู้ต้องขัง ในปี 2563 ต่อมามีข้าราชการ อดีตข้าราชการ และคณะกรรมการสิทธิมนุยชนได้เข้าพบตนเพื่อขอให้มีที่คุมขังนอกเรือนจำ ทั้งกับนักโทษ ผู้ต้องขัง หรือผู้ที่ถูกกล่าวหาที่ไม่ควรจะต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ซึ่งตนเห็นด้วยจึงให้ปลัดกระทรวง และคณะทำงานของกระทรวงยุติธรรมดำเนินการเรื่องนี้ แต่ยังไม่ทันเสร็จเรื่อง ตนได้ลาออกจาก รมว.ยุติธรรม และได้เห็นระเบียบของกรมราชทัณฑ์ที่ออกมาช่วงนี้ โดยมีการกล่าวถึงตน และตนเคยชี้แจงต่อวิปวุฒิสภา ช่วงที่มีการออกฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่ดี เขาจึงขอให้ตนช่วยชี้แจง และทำความเข้าใจต่อสาธารณะ ในส่วนที่จะเข้าสู่กระบวนการการคัดแยกให้เป็นสากลขึ้น


ปัดเอื้อผู้ต้องขังรายใดรายหนึ่ง

“ทำให้มีกระแสข่าวออกมาว่า มีการเอื้อประโยชน์กับผู้ต้องขังรายใดรายหนึ่งหรือไม่ ซึ่งผมก็ชี้แจงไปว่า ไม่ใช่ เป็นกระบวนการยุติธรรมที่อยู่ในกรอบสากล เพราะฉะนั้น การจำแนกผู้ต้องขัง และมีที่คุมขังนอกเรือนจำนั้น เป็นการดำเนินการตามหลักสากล และกฎหมายนี้ ก็อนุญาตให้ดำเนินการในลักษณะนี้ได้ แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการอย่างครบถ้วน ตามเกณฑ์ แต่การจำคุกที่มีโทษร้ายแรง จะไม่ถูกนำมาจำแนก เรื่องนี้เป็นเรื่องการทำความเข้าใจ ขณะนี้ก็เป็นเรื่องที่ดี ที่มีตัวอย่างในกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ในการคุมขัง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการอธิบายเรื่องทัณฑวิทยา ซึ่งผมยินดีที่จะตอบคำถามในส่วนที่ยังขัดกับความรู้สึกของประชาชน และยังมีประเด็นไหนที่น่าจะต้องปรับแก้ให้ชัดเจน ทั้งนี้ ในฐานะที่ผมกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรมอยู่ด้วยนั้น ก็ไม่ได้ไปล้วงลูก แต่ทบทวนสิ่งที่เคยผ่านมาให้เห็น” นายสมศักดิ์ กล่าว

“ทักษิณ”เข้าเกณฑ์ขังนอกคุก

เมื่อถามว่า กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร จะเข้าเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ที่ออกมาใหม่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เข้าเกณฑ์ เพราะมีโทษไม่เกิน 4 ปี และไม่ใช่บุคคลที่อยู่ในข่ายสิ่งที่น่ากลัวของสังคม แต่เป็นโทษในลักษณะที่ไม่ได้เป็นภัยต่อสังคม จึงสามารถอยู่ในที่คุมขังได้ และเป็นโทษที่มีจำนวนน้อยกว่า 1 ปี ส่วนกระแสข่าวว่า การที่ตนได้เข้าพรรคเพื่อไทย เพราะมีการเอื้อประโยชน์กันในส่วนนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หรอกครับ ถ้าผมคิดว่าจะต้องเข้าพรรคเพื่อไทย ผมคงทำให้เสร็จในตอนนั้นไปแล้ว แต่ผมไม่ได้คิด มันเป็นไปตามครรลอง เป็นพัฒนาการของกฎหมายจากปี 2560 ไม่ได้คิดว่าจะไปอยู่พรรคการเมืองไหน แต่กฎหมายมันพัฒนาไปเข้าสู่ความเป็นสากล ผมยืนยันว่า นี่คือพัฒนาการของกฎหมาย และเป็นโอกาสของประเทศ โชคดีที่มีกรณีสำคัญตรงนี้ที่ทำให้คนสนใจ และได้ออกมาอธิบาย แต่เมื่อผมเห็นว่า เหตุการณ์เริ่มเดินไปในอีกทิศทางหนึ่ง จึงต้องพูดให้สังคมเข้าใจ ผมยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์ไม่ได้มีอำนาจใหญ่กว่าศาล”นายสมศักดิ์ กล่าว

โยนราชฑัณฑ์อนุมัตินอนต่อ

ส่วนของการรักษาตัวที่โรงพยาบาลของนายทักษิณนานกว่า 120 วันว่า ก็อยู่ในความเห็นของแพทย์ และอำนาจของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และจากสถิติของเดือนนี้ ก็มีผู้ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเกิน 30 วันเป็นจำนวนมากเกือบ 150 คน ไม่ใช่แค่ 1-2 คน ในอดีตก็มีมาก แต่ไม่ได้เปิดเผย นายทักษิณเป็นคนที่สาธารณะให้ความสนใจ ถ้ามีผู้ที่อธิบายเรื่องดังกล่าวให้สังคมเข้าใจ สังคมจะยอมรับและเดินหน้าต่อไปได้

เมื่อถามว่า นายทักษิณมีสุขภาพดีตอนที่อยู่ต่างประเทศ แต่พอมาถึงประเทศไทยกลับป่วย ถือว่าแปลกหรือไม่ นายสมศักดิ์ ได้ย้อนถามสื่อว่า “ก็น้องไม่เคยถูกจองจำ น้องลองไปสักสองสามวัน ชีวิตมันเครียดนะ เราเสียอิสรภาพหรือสิ่งต่างๆ ที่เราเคย ลองเข้าไปนอนสักคืนสองคืน นอนไม่หลับ คนอายุมากความดันขึ้น ป่วย ทางผบ. เรือนจำและอธิบดี ก็มองว่ามีความเสี่ยง เมื่อเห็นเหตุการณ์แล้วจึงไปส่งต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องขัง และเพื่อไม่ให้ตนต้องรับผิดชอบด้วย ใครไม่เคยไปนอนคุก ไม่เคยถูกจองจำ ลองไปสักคืนสองคืน จะพบว่าความเครียดเป็นต้นกำเนิดของโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลาย พร้อมยกตัวอย่างว่า โรคเครียดเป็นบ่อเกิดของโรคอื่น เช่นโรคเบาหวานความดันเข้ามารุมเร้า

พร้อมย้อนถามผู้สื่อข่าวอีกครั้งว่า น้องเคยเป็นหวัดภูมิแพ้หรือไม่ นอนไม่หลับสองคืนก็จะป่วยหนัก ตนก็เป็นเช่นกันเดี๋ยวนี้โรคภัยไข้เจ็บเยอะ ยิ่งคนที่อยู่ในเรือนจำเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะสามารถเปิดเผยแค่เพียงชื่อโรคของนายทักษิณที่รักษาอยู่ได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าส่วนนี้เป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ ตนเพียงแค่มาพูดในทางวิชาการ

เชื่อคดีแม้วไม่กระทบรัฐบาล

วันเดียวกัน ที่องค์การทหารผ่านศึก นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ระบุถึง เสียงวิพากษ์วิจารณ์การได้รับสิทธิพิเศษของนายทักษิณ ชินวัตร ภายใต้บริหารรัฐบาลเพื่อไทย เชื่อว่าจะไม่กระทบกับรัฐบาล ซึ่งเราพูดคุยกันชัดอยู่ เพราะรัฐบาลไม่ได้มีอะไรที่ไปเกี่ยวข้องหรือไปสนับสนุน หรือไปจัดสิทธิพิเศษให้กับนายทักษิณ

“นายทักษิณเป็นเพียงบุคคลหนึ่งซึ่งเคยก่อตั้งพรรคไทยรักไทย เป็นความผูกพันในเชิงประวัติศาสตร์ ในเชิงส่วนตัว แต่คงไม่มีเอารัฐบาลไปเกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้นใครที่จะโยงเข้าหากัน ผมเชื่อว่ารัฐบาลอธิบายได้ เมื่ออธิบายได้ก็ไม่กระทบ”

เมื่อถามว่าปัจจุบันนี้รัฐบาลเพื่อไทยยังไม่ได้ให้สิทธิพิเศษใดๆกับนายทักษิณใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ไม่ วันนี้สิ่งที่ทำเป็นมาตรการ และระบบของกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ที่ได้ดำเนินการตามระบบ ซึ่งตนก็มีเพื่อนคนหนึ่งติดคุก และก็ป่วยออกมารักษาตัวอยู่ข้างนอกนานพอสมควร ตนก็จะไปเยี่ยมอยู่เช่นกัน ซึ่งจะเห็นว่ามันมีหลายคนใช้สิทธิ์เดียวกับท่านทักษิณ ไม่ได้มีเพียงท่านทักษิณคนเดียว ซึ่งระบบนี้ทุกคนให้ความเป็นธรรม

ถามย้ำว่าระบบนี้เป็นของเป็นของรัฐบาลชุดเก่าที่ได้ดำเนินการไว้ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เป็นระบบเดิมที่มีอยู่แล้ว และคงจะไม่กล้าไปสร้างสิทธิพิเศษใหม่ขึ้นมา ให้กับใครคนใดคนหนึ่ง ไม่มี

แต่ยอมรับยังมีความกังวล

ถามอีกว่ากังวลหรือไม่แม้รัฐบาลเพื่อไทยยังมั่นใจว่าไม่ได้ให้สิทธิพิเศษกับนายทักษิณ แต่มีความพยายามโยงมาเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเพื่อไทย นายสุทิน กล่าวว่า ก็กังวลอยู่เหมือนกัน เพราะบทเรียนในอดีต ในสังคมเราฝ่ายการเมือง พยายามทำในสิ่งที่ถูกต้องให้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทำให้สิ่งที่สุจริตไม่สุจริต เป็นเรื่องที่ดราม่าและเล่นงานกันจนเลยเถิด หากถามว่าเรากังวลหรือไม่ ก็ตอบได้ว่าไม่วางใจ

ซักว่า รัฐบาลเพื่อไทยพยายามลดความเหลื่อมล้ำในสังคม แต่กรณีของนายทักษิณดูเหมือนจะย้อนแย้งกับนโยบายดังกล่าว นายสุทิน กล่าวว่า จะเหลื่อมล้ำหรือไม่ต้องไปดูก่อนว่าเขาใช้มาตรการ เป็นพิเศษหรือไม่กับท่านทักษิณ ถ้าเป็นมาตรการปกติที่ใช้ด้วยกันทุกคนจะบอกว่าเหลื่อมล้ำไม่ได้ แต่ถ้าทำอะไรที่ต่างจากรายอื่นออกมา ก็ต้องไปดูกันอีกที ถ้าทำโดยที่ไม่มีระบบรองรับ ก็อาจจะเหลื่อมล้ำ

ถามต่อว่าไม่ใช่นักโทษเทวดาอย่างที่โดนครหาใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ก็อย่างกรณีของเพื่อนตนที่ติดคุกแล้วออกมารักษาอาการป่วยอยู่ตอนนี้ และเขากำลังวิตกว่าจะต้องกลับไปอยู่ที่เดิมหรือไม่

เชื่อประชาชนไม่ออกมาคัดค้าน

เมื่อถามว่าการสร้างกระแสหรือสร้างวาทกรรมว่าเป็นนักโทษเทวดา จะทำให้เป็นชนวนนำไปสู่การชุมนุมหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ได้ในระดับหนึ่ง แต่ตนมองว่าประชาชนมีวิจารณญาณ และไม่ใช่เคสแรกไม่ใช่คนเดียวอย่างที่ตนบอกมีหลายหลายคนที่เคยใช้ระบบนี้อยู่เชื่อว่าประชาชนไม่ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะขนาดนี้ประชาชนต้องการให้แก้ปัญหาปากท้องคนกำลังลำบากใครที่มาคิดปั่นสถานการณ์ให้เกิดปัญหาในการบริหารโยงมาใส่ฝ่ายบริหารทำให้เกิดความวุ่นวายตนคิดว่าประชาชนไม่เอาด้วย

ถามย้ำว่าจะเป็นการสร้างโมเดลเพื่อปูทางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องท่านยิ่งลักษณ์ยังไม่มีประเด็นอย่างนี้เข้ามาจะมายังไม่รู้เลย

ยังไม่รู้ครอบคลุมยิ่งลักษณ์หรือไม่

ถามอีกว่าหากมี พ.ร.บ. นิรโทษกรรมจะครอบคลุมนางสาวยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายสุทินกล่าวว่ายังไม่รู้ว่าพรบนิรโทษกรรมจะออกมาเป็นอย่างไรยังไม่รู้ว่าครอบคลุมถึงใครบ้างและยังไม่รู้ว่าเค้าเสนอกฎหมายอย่างไรยังไม่เห็นร่างและจะผ่านขั้นตอนทางสภาหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะได้ประโยชน์บ้าง

ส่วนที่ระบุว่าครอบคลุมผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคดีการเมืองยกเว้นเจ้าหน้าที่รัฐนั้น นายสุทิน กล่าวว่า อันนี้ตนไม่ทราบถ้าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็ต้องผ่านฉันทามติจากสภา ที่ต้องร่วมกันคิดขึ้นมา ไม่ใช่ว่าใครไปสร้างขึ้นมา ถือเป็นกฎหมายที่ผ่านกระบวนการของบ้านเมือง เมื่อถึงเวลานั้นก็น่าจะเป็นกฎหมายที่พิจารณากันรอบคอบแล้ว

คปท.ร้อง2กมธ.วุฒิสภา

ที่รัฐสภา กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล เข้ายื่นหนังสือต่อนายสมชาย แสวงการ ประธาน ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา และนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานกมธ.การสาธารณสุข วุฒิสภา เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ และมีอาการหนักขนาดไหน รวมถึงการรักษาตัวดังกล่าวเป็นไปตามหลักสากลหรือไม่ เนื่องจากเกือบ 120 วันยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวออกมาชี้แจงให้คลายข้อสงสัย พร้อมทั้งขอสำเนา เอกสารการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในชั้นกมธ.วุฒิสภา เพราะจะนำเอาไปเป็นหลักฐานในการยื่นฟ้อง หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเช่น กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ เป็นต้น

โดยนายสมชาย กล่าวว่า วุฒิสภาได้รับเรื่องเข้าระบบแล้ว ซึ่งในกมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ได้ตรวจสอบเรื่องนี้มาอย่างน้อย 2 ครั้งแล้ว โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงในที่ประชุมกมธ. ซึ่งยังมีบางประเด็นที่ชี้แจงไม่ได้ และยังอยู่ในข้อสงสัยเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นการออกระเบียบล่าสุด ซึ่งในวันจันทร์ที่ 25 ธ.ค. เวลา 13.30 น. ก็จะมีการเรียก กรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ มาชี้แจงเพิ่มเติม ว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรหลังจากการรักษาตัวครบ 120 วันแล้ว พร้อมฝากไปยังนายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมไปถึงประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าให้มาชี้แจงต่อข้อสงสัยดังกล่าว

นายสมชาย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาทางกมธ.ฯ ได้รับทราบจากโรงพยาบาลตำรวจ ว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ได้ เนื่องจากผู้ป่วยไม่อนุญาตให้ชี้แจง แต่ทางกมธ.ฯ ได้รู้ข้อมูลจากที่เป็นข่าวว่านายทักษิณมีอาการป่วยสี่โรค ซึ่งโรคดังกล่าวก็ถือว่าเป็นโรคปกติของผู้สูงอายุ ส่วนที่ คปท. ร้องขอให้ไปตรวจสอบโรงพยาบาลตำรวจนั้น ทางกมธ.ฯ ก็จะนำไปพิจารณา ซึ่งหากมีการปรากฏว่านายทักษิณไม่ได้อยู่โรงพยาบาลตำรวจจริง ผู้ที่เคยมาชี้แจงในกรรมาธิการทั้งหมดก็จะต้องถูกดำเนินคดี เพราะได้รับการยืนยันว่านายทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจ 24 ชั่วโมง

อ้างข้อมูลป่วยจากต่างประเทศ

ขณะที่นพ.เจตน์ กล่าวว่า จากที่ทางกรมราชทัณฑ์และ รพ.ตำรวจได้เคยมาชี้แจงในกมธ.ฯ สรุปได้ว่า ข้อมูลที่เจ็บป่วยอยู่สี่โรคได้มาจากต่างประเทศ แต่เรื่องอาการหนักยังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด เพราะมีการอ้างถึงสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั้น ตนคิดว่าหลักฐานที่สำคัญที่สุดคือเวชระเบียนผู้ป่วยใน แต่ก็ไม่สามารถที่จะขอมาได้ เพราะต้องเป็นคำสั่งของศาล ยืนยันว่าทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ

กรมคุกบอกกำลังเร่งพิจารณา

จากกรณีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีต รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ต้องขังเด็ดขาด เข้าหลักเกณฑ์ตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 เรื่องระเบียบการคุมขังนอกเรือนจำ เพราะมีโทษน้อยกว่า 1 ปี และไม่ใช่บุคคลอยู่ในข่ายสิ่งที่น่ากลัวของสังคม แต่เป็นโทษที่ไม่ได้เป็นภัยต่อสังคมนั้น

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่าราชทัณฑ์ต้องกำหนดหลักเกณฑ์แนวปฏิบัติก่อนซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าจะทันก่อนปีใหม่หรือไม่

ไม่สามารถคาดเดาเรื่องแม้วได้

นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า หากกรณีเข้าหลักเกณฑ์ “ทักษิณ” จะพักอาศัยที่บ้านหรือโรงพยาบาลต่อนั้น ก็ต้องดูขั้นตอนในกฎทกระทรวง /ระเบียบเพราะมีหลายสถานที่ขึ้นอยู่กับแต่ละคน โดยคณะทำงานจะพิจารณาว่าสถานที่ใดมีความเหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ ซึ่งคำว่า “เหมาะสม” หมายถึงว่า สถานที่ที่รองรับมีความพร้อมในการทำกิจกรรม ปฏิบัติตัวตามเงื่อนไขได้ และอยู่ในสถานที่ราชทัณฑ์ควบคุมดูแลได้ ซึ่งไม่ไกลจากเรือนจำและเจ้าหน้าที่ไปหาได้ง่าย

ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วน “ทักษิณ” จะเป็นผู้ต้องหาชุดแรกได้ใช้ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำหรือไม่ นายสหการณ์ เผยว่า ตนไม่สามารถคาดการณ์ได้เพราะเรือนจำทั่วประเทศต้องไปดำเนินการคัดเลือกพิจารณาผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติและเข้าหลักเกณฑ์ก่อนเสนอรายชื่อขึ้นมายังคณะทำงานตามขั้นตอน ส่วนผู้ต้องหาชุดแรกจะได้ใช้ระเบียบดังกล่าวเมื่อไหร่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้เพราะว่าหลักเกณฑ์และคุณสมบัติยังไม่ประกาศใช้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เอ๊ะ! พยาบาลเวรผู้ส่งตัว\'ทักษิณ\' ย้ายฟ้าผ่าไปสุโขทัย บ้านเกิด\'สมศักดิ์\' เอ๊ะ! พยาบาลเวรผู้ส่งตัว'ทักษิณ' ย้ายฟ้าผ่าไปสุโขทัย บ้านเกิด'สมศักดิ์'
  • ‘กมธ.สาธารณสุข’หนุนสุดลิ่ม‘แพทยสภา’หักวีโต้‘สมศักดิ์’ ปกป้องความยุติธรรมสังคม ‘กมธ.สาธารณสุข’หนุนสุดลิ่ม‘แพทยสภา’หักวีโต้‘สมศักดิ์’ ปกป้องความยุติธรรมสังคม
  • มติแพทยสภาขาดลอย-ฟัน3หมอชั้น14  ฉีกหน้า‘สมศักดิ์’  โหวตคะแนนเกินกว่า2ใน3 มติแพทยสภาขาดลอย-ฟัน3หมอชั้น14 ฉีกหน้า‘สมศักดิ์’ โหวตคะแนนเกินกว่า2ใน3
  • \'วีโต้\'ไม่เป็นผล! \'สมศักดิ์\'บอกไม่เป็นไร ลั่นทำตามหน้าที่ให้ครบถ้วน 'วีโต้'ไม่เป็นผล! 'สมศักดิ์'บอกไม่เป็นไร ลั่นทำตามหน้าที่ให้ครบถ้วน
  • เปิดคำชี้แจง 15 นาที ‘สมศักดิ์’วีโต้-ตั้ง 4 คำถาม‘แพทยสภา’ เปิดคำชี้แจง 15 นาที ‘สมศักดิ์’วีโต้-ตั้ง 4 คำถาม‘แพทยสภา’
  • ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ละเอียดยิบ!มติขาดลอย\'แพทยสภา\'ฟัน\'3 หมอ\'ชั้น 14 ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ละเอียดยิบ!มติขาดลอย'แพทยสภา'ฟัน'3 หมอ'ชั้น 14
  •  

Breaking News

‘สว.’ชี้ปมคลิปเสียงหลุดฉาว‘อังเคิลฮุน-หลานอิ๊งค์’เทียบเคส‘นิรโทษกรรมสุดซอย’

'สว.อลงกต'ชี้แผน'ฮุนเซน'ยุไทยแตกแยกกันเอง ชงยาแรง‘ปิดด่านถาวร-ตัดขาดสัมพันธ์การทูต'

สิ้นศิลปินแห่งชาติ! 'สุรพล โทณะวณิก'นักประพันธ์เพลงใครหนอ จากไปอย่างสงบด้วยอายุ98ปี

จับผู้มีอิทธิพลลอบขุดดินอ้างผู้ใหญ่กระทำผิดนาน20ปี

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved