กลุ่ม‘รวมพลังแผ่นดิน’นัดชุมนุมใหญ่

ดีเดย์ไล่‘อิงค์’28มิ.ย.

ซัดนายกฯทำผิดกฎหมาย

เอื้อสมคบคิดอริราชศัตรู

ลั่นต้องลาออกสถานเดียว

เพื่อไทยอัดพวกขาประจำ

ทุกสีทุกกลุ่มผนึกกำลังในนาม “กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน” ร่อนแถลงการณ์ ซัดพฤติกรรม “อิ๊งค์”’ ความผิดชัดขัดกฎหมายความมั่นคงของรัฐนอกราชอาณาจักร-รธน.มาตรา 5 เอื้อสมคบคิดอริราชศัตรู จี้ต้องลาออกจากนายกฯ พรรคร่วมรบ.ต้องถอนตัวทันที ขู่หากยังดึงดัน ระวังเอี่ยวผิดไปด้วย พร้อมนัดชุมนุมใหญ่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย. “พร้อมพงษ์”อัดยับพวกขาประจำหน้าเดิม เล่นนอกกติกาหวังให้เกิดรัฐประหาร ปูดมีขาใหญ่”น.”บงการชักใยอยู่ข้างหลัง

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมรอยัล รัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนิน กทม. กลุ่มประชาชนผู้รักชาติ ที่ประกอบด้วย กลุ่มการเมือง ภาคประชาชนจากหลายภาคส่วน ประกอบด้วย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย, นักวิชาการ, นักเคลื่อนไหวการเมือง, ศิลปิน, นักการเมือง และ อดีต สส. สว. คปท. คณะหลอมรวมประชาชน มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน กองทัพธรรม และเครือข่ายอีกมากมาย ได้รวมตัวนัดแถลงข่าวภายใต้หัวข้อ “รวมพลังแผ่นดิน”บรรยากาศเป็นอย่างคึกคักมีประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมรวมถึงสื่อมวลชนมาติดตามทำข่าวจำนวนมาก

สำหรับแกนนำทุกภาคประชาชนทุกกลุ่มที่ร่วมแถลง ‘รวมพลังแผ่นดิน’ครั้งนี้กว่า40คน ประกอบด้วย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง, แก้วสรร อติโพธิ, ขวัญสรวง อติโพธิ, ปรีดา เตียสุวรรณ์, สมชาย แสวงการ, ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ประสาน มฤคพิทักษ์, จเด็จ อินสว่าง, ประพันธ์ คูณมี, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม, พล.ท.กนก เนตระคเวสนะ, พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์,พล.ต.นพ. เหรียญทอง แน่นหนา, กษิต ภิรมย์, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, ถาวร เสนเนียม, ถวิล เปลี่ยนศรี,ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, รสนา โตสิตระกูล, ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์,คมสัน โพธิ์คง, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, เจษฎ์ โทณะวณิก,ไชยันต์ ไชยพร, นันทิวัฒน์ สามารถ, วีระ สมความคิด, แซมดิน เลิศบุศย์,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, อัญชะลี ไพรีรัก, หฤทัย ม่วงบุญศรี (อุ๊ หฤทัย), ชัชชัย สุขขาวดี (หรั่ง ร็อคเคสตร้า), สาวิทย์ แก้วหวาน, มานพ เกื้อรัตน์, คมสันต์ ทองศิริ, ณีรนุช จิตต์สม, เสน่ห์ หงษ์ทอง, เครือข่ายองค์กรแรงงานรัฐวิสาหกิจ, จตุพร พรหมพันธ์, นิติธร ล้ำเหลือ, พิชิต ไชยมงคล, นัสเซอร์ ยีหมะ, ใจเพชร กล้าจน พร้อมผู้ชุมนุมกลุ่มคปท. และกองทัพธรรม

ออกแถลงการยำอุ๊งอิ๊งค์

ทั้งนี้ นายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ “รวมพลังแผ่นดิน” ระบุว่า วันนี้สถานการณ์การเมืองการปกครองของไทย นับแต่ พ.ศ.2475 เป็นต้นมา จนถึง ปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าบรรดาฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ โดยเฉพาะคณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้ง การแต่งตั้ง การรัฐประหาร หรือการเลือกกันเอง มิได้มีเจตนารมณ์ยึดมั่น ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งมิได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนโดยรวม จนก่อให้เกิดวิกฤตด้านการเมืองการปกครองเศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคง ดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คุณธรรม จริยธรรม และสังคม อย่างกว้างขวาง ลึก รุนแรง

เหตุจากการที่มีผู้ไม่นำพา ไม่นับถือยำเกรงกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ ขาดความตระหนักรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนจนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่เป็นผล และยังมีขบวนการประกอบด้วยกลุ่มบุคคลจากฝ่ายการเมือง ฝ่ายทุนผูกขาดเหนือตลาดเหนือรัฐ ฝ่ายความมันคง เจ้าหน้าที่รัฐ เจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ องค์กรตรวจสอบ ตลอดถึงบุคคลที่อาศัยตำแหน่งอำนาจหน้าที่ แอบอ้าง ร่วมกันทำลายรัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม จริยธรรม และเอกราชอำนาจอธิปไตยของประเทศชาติและประชาชน ทำลายหลักป้องกันตรวจสอบ และขจัดทุจริตคอร์รัปชันอย่างรุนแรง ใช้อำนาจปกครองบ้านเมืองตามอำเภอใจ

เป็นปฎิปักษ์ต่อชาติ

นายนิติธร ระบุต่อว่า พฤติกรรมที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นพฤติกรรมที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาประชาชนคนไทย ทั่วทั้งแผ่นดินต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่ปรากฏว่า บรรดานายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ไม่นำพาต่อการแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังเป็นรูปธรรม ที่เลวร้ายที่สุดคือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ไร้ความสามารถเป็นที่ประจักษ์ ได้กระทำการในลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ เข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด 3 ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร ขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ มีพฤติการณ์ตามที่เป็นข่าวสาธารณะในเชิงสมคบคิด และแสดงออกซึ่งเจตนาในการใช้อำนาจหน้าที่ไปในทางตอบสนองความต้องการของอริราชศัตรู ทั้ง แสดงตัวตนด้วยคำพูด ที่ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นฝ่ายเดียวกับอริราชศัตรูที่มีความมุ่งหมายรุกล้ำ ละเมิดอำนาจอธิปไตย ยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนคนไทย และขัดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่นายกรัฐมนตรี

นายนิติธร กล่าวว่า ขณะเดียวกัน แม้ปรากฏข้อเท็จจริงประจักษ์ชัดตามข่าวสาธารณะ และการยอมรับของนายกรัฐมนตรี บรรดาคณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ที่ยังคงสนับสนุนให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล จึงอาจถือได้ว่าเข้าร่วมกระทำการกับนายกรัฐมนตรี มีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติเข้าข่ายกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา กระทำการขัดต่อบทบัญญัติรัฐธธรรมนูญเช่นเดียวกัน

จี้อุ๊งอิ๊งค์ลาออกทันที

“เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และความมั่นคง อำนาจอธิปไตยแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม ให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกทันทีและให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที เพราะสิ้นความชอบธรรมแล้ว ขอเรียกร้องเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน ร่วมมือร่วมใจ สามัคคี ลดเงื่อนไขความขัดแย้ง รวมกันเป็นพลังแผ่นดินแสดงตน ให้นายกรัฐมนตรีลาออกทันที พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลทันที พร้อมทั้งเป็นขวัญกำลังใจร่วมยืนเคียงข้างทหารทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินและอำนาจอธิปไตยของชาติอย่างกล้าหาญมันคง และร่วมกันปรึกษาหารือแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตย และประเพณีการปกครองที่เหมาะสมกับสถานการณ์และลักษณะสังคมไทย โดยยึดถือหลักศีลธรรม หลักความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชน หลักนิติธรรม และหลักธรรมาภิบาล อันจะทำให้สามารถขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนาจนเกิดความ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและดุลสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สืบไป” นายนิติธร ระบุในแถลงการณ์

“จตุพร”ตามกรีดไม่ยั้ง

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชนอดีตแกนนำนปช. กล่าวว่า วันนี้ประจักษ์ชัดเจนว่าน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับคนไทย และประเทศไทย เป็นคนของฝ่ายตรงข้าม เรื่องราวทั้งหมดที่เดินมาถึงบัดนี้ เราไม่สามารถให้นายกฯคนนี้บริหารประเทศไทยต่อไปแม้แต่เพียงวันเดียว พรรคการเมืองใด เมื่อฟังคลิปเสียงระหว่างน.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุนเซนประธานวุฒิสภากัมพูชา แล้วยังต้องการร่วมรัฐบาลกันต่อ มันเลยคำว่าพายเรือให้โจรนั่งไปแล้ว กำลังร่วมกันพายเรือไปขายชาติ ไปทรยศชาติ ตนไม่เคยเจอนายกฯประเทศใด ที่ตัดหัวแม่ทัพของตัวเองส่งบรรณาการให้กับกัมพูชาเหมือนกับนายกฯไทย วันนี้เราอย่าติดกับว่ากัมพูชาเสี้ยมให้คนไทยแยก แต่คนไทยต้องสามัคคีเพื่อจัดการคนไทยที่ทรยศและขายชาติก่อน แล้วจึงมาสามัคคีกัน

นัดชุมนุมใหญ่28มิย.

นายจตุพร กล่าวต่อว่า กลายเป็นว่าความผิดทั้งหมด เกิดจากคลิปเสียงหลุด ข้อเท็จจริงคือ ไม่ว่าจะใช้โทรศัพท์ส่วนตัวสนทนาเรื่องประเทศชาติ คุณไม่มีสิทธิ์ไปพูดด้อยค่าแม่ทัพที่เขาไปรบแทนคนไทยด้วยลักษณะนี้ หากคลิปไม่หลุดพูดได้หรือ ยังไม่เป็นภัยความมั่นคงใช่หรือไม่ วันนี้ผ่านมาเกือบเดือนไม่เคยไปช่องบก แต่วันนี้ไปแล้ว มีเรื่องจวนตัว คว้าเสื้อเหลืองใส่ทันที เราจึงมีภาระหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชาติ ที่ผ่านมากัมพูชาวางยุทธศาสตร์การต่อสู้ประชาชนเท่าทันกองทัพเท่าทัน แต่รัฐบาลไทยนอกจากหน่อมแน้ม ยังโง่อีกต่างหาก ขณะที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาล อาจจะต่อรองในวันที่พรรคเพื่อไทยอ่อนแอที่สุด แต่มันไม่ได้อยู่ที่เสียง สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ 377 เสียงยังอยู่ไม่ได้ แล้วรัฐบาลนี้จะอยู่ได้อย่างไร ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ มีข่าวว่าจะไปแจ้งนายกฯให้ลาออก ถ้าไม่ลาออกจะถอนตัวร่วมรัฐบาล ถ้าไม่เป็นไปตามนั้น สส.ในซีกของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ 18 คน จาก 36 คนถอนตัวออกมา พวกนี้ก็เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยไปต่อไม่ได้อยู่แล้ว

“เรามีหน้าที่ดูว่าใครอยู่ในเรือลำนั้นบ้าง เมื่อคุณพายเรือพาชาติไปขาย ประชาชนมีหน้าที่จมเรือลำนี้ ขออนุญาตนัดเบื้องต้น ทางกัมพูชานัดรวมสำแดงพลังเพื่อปกป้องอธิปไตยของกัมพูชา นำโดยน้องชายของนายฮุนมาเนต นายกฯกัมพูชา กัมพูชามี17ล้านคน เขารวมได้150,000คน เรามีประชากรเกือบ70ล้านคน ในวันเสาร์ที่28มิ.ย.นี้ ตั้งแต่เวลา16.00-21.00น. พร้อมกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไม่ให้อับอายกัมพูชา ขอเชิญพี่น้องคนไทยทั้งแผ่นดิน“ นายจตุพร กล่าว

เสรีพิศุทธิ์ท้ารบเทวดาแม้ว

จากนั้นพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่าขอย้ำว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการเลียนแบบนำระบอบฮุนเซนมาใช้ ที่ยึดอำนาจการปกครองจากสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่วันนี้ยังเดินทางไม่ถึงเป้าหมาย จึงทำทุกทาง ที่จะใช้การเมืองให้เป็นประโยชน์กับตัวเองเพื่อไปสู่เป้าหมาย พรรคการเมืองต่างๆทั้ง พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ ไทยสร้างไทย ล้วนแล้วแต่ถูกตัดตอนทางการเมืองด้วยอำนาจเงินทั้งสิ้น ตนและทุกคนที่มาร่วมกันวันนี้ต้องช่วยกันหยุดระบอบทักษิณให้ได้ ส่วนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ตั้งแต่มาเป็นนายกฯ ตนสงสารประเทศไทย ที่เอาคนไม่มีความรู้สามารถ หรือที่หลายคนบอกว่าโง่มาเป็นนายกฯ แต่ตนจะต่อสู้กับนายทักษิณ เรามันระดับเดียวกัน อายุใกล้เคียงกัน ทำอะไรต่างๆมาด้วยกัน มันพอจะฟัดเหวี่ยงสู้กันได้ อุ๊งอิ๊งค์ แค่ระดับลูกสาวตนแค่นั้นเอง

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่คลิปเสียงที่หลุดออกมา มันเป็นเรื่องของประเทศชาติ ที่พวกเราต้องผนึกกำลังเอานายกฯออกไปให้ได้ การสนทนาระหว่างน.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา มันคนละสถานะกัน ฮุนเซนยึดครองกัมพูชามา30-40กว่าปี น.ส.แพทองธาร มันเด็กเมื่อวานซืน มันสู้กันไม่ได้ เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ถ้าอยู่ต่อไปจะเป็นปัญหามาก ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล หลังจากที่พรรคภูมิใจไทยโชว์หล่อถอนตัวออกจากพรคคร่วมฯ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆล่ะ ตนจะรอดูว่าจะถอนตัวหรือไม่ คนไทยเขาคิดเป็น หากยังร่วมรัฐบาลต่อ พรรคการเมืองพวกนี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวทั้งนั้น แล้วรัฐบาลกำลังมีปัญหา เอาหัวแม่เท้าคิด ไม่ใช่สมองคิด คิดแต่ประโยชน์ส่วนตัว ต่อรองตำแหน่ง คิดกันอยู่แค่นี้

ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี กล่าวว่าความชั่วนั้นถ่ายทอดผ่านดีเอ็นเอตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงรุ่นลูก “แพทองธาร” ไม่มีความสามารถมาเป็นผู้นำประเทศไทย และยังมีจิตใจชั่วทั้งต่อหน้าและลับหลังประชาชน ซึ่งพฤติกรรมที่คุยกับ “ฮุน เซน” นั้น เป็นพฤติกรรมลับหลังประชาชน การทำกับประชาชนลับหลังแบบนี้ ประชาชนจะไว้ใจคุณได้อย่างไร ขอให้ “อุ๊งอิ๊ง” ออกไปได้แล้ว เพราะอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ปัดเรียกร้องรัฐประหาร

นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักวิชาการด้านกฎหมาย อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่เราต้องทำก่อนไล่เขมร คือต้องไล่นายกฯก่อน เราไม่ต้องการการปฏิวัติรัฐประหาร เราต้องการความรับผิดชอบจากผู้นำ ตนพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าในเกือบ 1,000 ปีที่ผ่านมาของชนชาติไทยเรา ไม่เคยมีผู้นำที่กลัวเขมรมากเท่านี้มาก่อน เราอาจจะมีผู้นำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ไม่เคยมีผู้นำขนาดเขลาเบาปัญญา เรายอมรับที่จะมีผู้นำแบบนี้ต่อไปไม่ได้

หมดเวลา”แพทองธาร

นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินหน้าล่ารายชื่อประชาชน เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยทันที ผ่านแบบฟอร์ม https://forms.gle/xhzGeLQHXV4ok8nb7 หรือ Scan QR Code จากรูปที่แนบมา

โดย นายแพทย์ตุลย์ ระบุว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ “คลิปเสียงสนทนา” ระหว่างนายกรัฐมนตรีแพททองธาร ชินวัตร กับอดีตผู้นำเขมร ซึ่งในเนื้อหานั้นมีการกล่าวดูแคลนเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งมีหน้าที่ดูลความมั่นคงภายในประเทศ และการแสดงออกถึงท่าทีที่เอื้อประโยชน์ต่อชาติอื่นในลักษณะ “ขายชาติ” อันเป็นพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมของผู้นำประเทศอย่างร้ายแรง เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่ทำลายศรัทธาชองประชาชนต่อรัฐบาล หากแต่ยังเป็นภัยต่ออธิปไตยชองชาติอย่างไม่อาจยอมรับได้ เราจึงเห็นว่าประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศควรลุกขึ้นร่วมกันแสดงพลังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งโดยทันที เพื่อรักษาเกียรติภูมิของสถาบันรัฐบาลไทย และหยุดยั้งการนำประเทศไปสู่ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงชี้แจงเกี่ยวกับคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาว่า เห็นถึงความน่ากังวล เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ ถ้าเป็นสมัยโบราณพฤติกรรมเช่นนี้ ต้องถูกตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร วันนี้นายกฯ ยังไม่สำนึกว่าคือภัยต่อความมั่นคงของชาติตัวจริง.

ปานเทพยำเละคลิปฉาว

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เป็นตัวแทน กล่าวสรุปว่า คลิปเสียงหลุดที่เกิดขึ้นของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นการกระทำการที่ขาดจริยธรรม ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสิ่งที่ปรากฏอยู่ในคลิปเสียง ที่เป็นเนื้อหานั้นแสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติแน่นอน ดังนั้นถ้าใครยังสนับสนุนอยู่ไม่ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรคไหนก็ตามนั้นถือว่าท่าน เข้าร่วมเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติด้วย

นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ทางกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน จึงขอสรุปข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ดังนี้ 1.ประชาชนเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกทันที 2. เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวออกทันที 3. เรียนเชิญประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันสำแดงพลังในการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย ยืนอยู่ข้างประเทศไทยฝ่ายเดียวกันร่วมกันสามัคคีในการปกป้องแผ่นดิน ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.2568 ขอเวลาแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น 16.00 -21.00น. และรวมพลังในการรักชาติรักแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยของชาติ กำจัดอริราชศัตรูพร้อมกันด้วยการแสดงสัญลักษณ์ของความเป็นชาติไทย คือ ธงชาติไทย ไม่ว่าเสื้อสีธงชาติไทย ธงชาติไทย ไปสำแดงพลังการให้มากกว่าการจัดตั้งจากฝ่ายกัมพูชา ขอรวมพลังกันครั้งนี้เป็นพลังแห่งสามัคคี ในการปกป้องอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยและ ทวงคือแผ่นดินไทยที่ถูกรุกล้ามา ทั้งหมดให้เป็นของราชอาณาจักรไทย

‘ภูมิธรรม’ไม่กังวลม็อบไล่อิ๊งค์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบคำถา ถึงการนัดชุมนุมใหญ่ไล่รัฐบาล ว่า ก็ไม่เป็นไร เป็นสิทธิที่จะแสดงออกให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย

เมื่อถามว่าได้ประเมินสถานการณ์ว่าการชุมนุมจะจุดติดบานปลายหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ประเมินกันว่ารัฐบาลยังทำหน้าที่ต่อได้ ด้วยความมั่นคงของประเทศตอนนี้ ทุกคนประเมินว่าเป็นภัยจากความมั่นคงคุกคามจากนอกประเทศ เพราะฉะนั้นต้องให้ความสำคัญตรงนั้นเป็นสำคัญ และตนคิดว่าเดี๋ยวรอให้ได้พิจารณาทุกวันข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วน ความไม่พอใจในประเทศมีโอกาสลดลงได้ เพราะถ้าดูจริงๆแล้วไม่ได้เป็นอย่างที่มีการพูดกัน ถ้านายกฯมีคำไหนข้อไหนหยิบออกมาพูด แล้วไม่พอใจก็เอาไปฟ้องได้ไม่มีปัญหา

พร้อมพงษ์อัดพวกขาประจำ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ต่อแนวทางแก้ไขความขัดแย้งปัญหาข้อพิพาทเขตแดนระหว่างรัฐบาลไทยกับกัมพูชาว่า พบว่าร้อยละ 67.9 สนับสนุนการเจรจาด้วยสันติวิธี และอีกร้อยละ 55 เห็นด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ดำเนินการแนวทางสันติวิธี สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่น ขณะเดียวกันกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ประกอบไปด้วย นักเคลื่อนไหว นักวิชาการ นักการเมือง อดีตสว. กลุ่มทุนขาประจำที่เคยต่อต้านระบอบทักษิณ ชินวัตร ออกมาแถลงข่าวปลุกระดมจากคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ที่พูดคุยหาทางออกอย่างสันติวิธีเพื่อการแก้ปัญหาความขัดแย้งของ2ประเทศกับ สมเด็จ ฮุนเซน เอามาจุดประเด็น ขยายความขัดแย้งรอบใหม่ พร้อมกับนัดชุมนุมใหญ่วันที่ 28 มิ.ย. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

มีขาใหญ่ “น.”คอยชักใย

“การข่าวของผม กลุ่มขาประจำออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ ได้รับยาดี มีไอ้โม่ง ขาใหญ่ ‘น’ คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกัน ‘น’ ไหน สั่งให้เครือข่ายไปเที่ยวระดมคนต่างจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ยุยงปั่นหัวชาวบ้าน สร้างความเกลียดชังใส่ร้าย น.ส.แพทองธารและรัฐบาลเพื่อไทยอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่ไหวแล้ว ระดมคนให้ออกมาชุมนุมวันที่ 28 มิ.ย.ให้มากที่สุด ทั้งที่เพิ่งมีผลสำรวจพอใจต่อการแก้ไขปัญหาไทยกัมพูชา น.ส.แพทองธารกำลังเดินทางไปอุบลราชธานี พูดคุยให้กำลังใจชาวบ้าน ตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจต่อเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พูดคุยกับแม่ทัพภาค 2 เพื่อความเข้าใจอันดี เพื่อยืนยันรัฐบาลกับกองทัพเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่มีความขัดแย้ง ก่อนหน้านี้ท่านแม่ทัพภาค2 ยืนยัน ไม่ติดใจเรื่องคลิปเสียง ส่วนตัวมั่นใจว่านายกฯ แม่ทัพภาพค2 และทหารทุกคนมีจุดยืนต่อประเทศเช่นเดียวกัน คือรักษาผลประโยชน์แผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยทางเขตแดน ไม่ยอมให้ใครมารุกล้ำ” นายพร้อมพงศ์ กล่าว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่า บรรดานักเคลื่อนไหว นัดแถลงข่าวจ้องล้มรัฐบาล ไม่ต้องแปลกใจ หลายต่อหลายคนมีประวัติ ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย พลังประชาชน จองเวรจองกรรมกันมาถึงพรรคเพื่อไทย ปลุกระดมเรื่องเดิมๆ ชาตินิยมแบบสุดโต่ง อ้าปากก็เห็นแล้วต้องการอะไร ครั้งนี้ต้องการจุดชนวนความเกลียดชัง ความขัดแย้งรอบใหม่ แต่ก็คงจุดไม่ติด แต่ละคน เห็นหน้ารู้เลยว่าหวังให้เกิดการเปลี่ยนอำนาจที่ไม่ได้เป็นไปตามแนวทางประชาธิปไตย กวักมือเรียกทหารมายึดอำนาจ ไม่รู้เหมือนกันว่าในจำนวนนี้บางคนจะแอบหวัง ได้กลับไปมีตำแหน่งทางการเมืองในวันข้างหน้าอีกหรือไม่ ประเทศผ่านการยึดอำนาจรอบล่าสุด 9 ปี ประเทศถอยหลัง เศรษฐกิจ การค้าขาย การลงทุน ไม่ดี ต่างชาติไม่ยอมรับ ปัญหาต่างๆไม่ได้รับการแก้ไข ผลกระทบสุดท้ายตกอยู่ที่ประชาชน เรามีบทเรียนอันเจ็บปวดมาแล้ว อยากจะให้เป็นอย่างนั้นอีกหรือ

ย้ำรัฐบาลไปได้ต่อ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า น.ส.แพทองธารประคับประคองสถานการณ์ให้ผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะมีพรรคการเมืองบางพรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล แต่พรรคการเมืองอื่นยังยืนหยัดร่วมทำงานกับรัฐบาล ต้องขอชมเชยที่จับมือเดินไปด้วยกัน มองเกมอ่านขาด เราเป็นผู้ถูกกระทำจากสงครามจิตวิทยาจากฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นจึงไม่ควรตกเป็นเหยื่อหันมาขัดแย้งกันเอง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าต่อไปได้ พรรคร่วมรัฐบาลยืนยันทำงานกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีเงื่อนไขต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรี หรือ เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด ขอยืนยันการยุบสภาฯ นายกฯ ลาออก รัฐประหาร ไม่ใช่ทางออกของปัญหาวันนี้ ควรปล่อยให้การเมืองแก้ด้วยการเมือง พวกสกัดขา จ้องเล่นนอกกติกา ควรพอได้แล้ว ไม่พอใจก็รอตามระบบวิถีประชาธิปไตย อีก 2 ปีรัฐบาลครบวาระ รอให้ประชาชนตัดสินผ่านสนามเลือกตั้ง ถือเป็นหนทางออกที่ถูกต้องและดีที่สุด