เขมรต้องทำตาม4ข้อตกลงสำคัญ กห.ตอก‘ฮุนเซน’! ก่อนมาคุยเรื่องเปิดด่าน

เขมรต้องทำตาม4ข้อตกลงสำคัญ กห.ตอก‘ฮุนเซน’! ก่อนมาคุยเรื่องเปิดด่าน

วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เขมรต้องทำตาม4ข้อตกลงสำคัญ
กห.ตอก‘ฮุนเซน’!
ก่อนมาคุยเรื่องเปิดด่าน
ทภ.2ล้มโต๊ะถก‘RBC’
เหตุกัมพูชาไม่จริงใจ
ไม่ทำแผนอพยพ-กู้บึ้ม

นายกฯปัดตอบปม “ฮุนเซน”กดดันไทย “เปิดด่าน” 20 ตุลาคม ชี้เป็นเรื่องความมั่นคงจะพูดได้อย่างไร ด้าน โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงยันไทยยืนกราน 4 เงื่อนไขสำคัญ “ถอนอาวุธหนัก- กู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์-จัดการพื้นที่ชายแดน” ที่เขมร ต้องทำแผนเป็นรูปธรรม มีผลน่าพอใจก่อนจึงจะคุยประเด็นอื่น คาดค้าชายแดนกระทบจากการปิดด่าน “ฮุนเซน”จึงดิ้นพล่าน ส่วน ทภ.2 ยันเลื่อนถก RBC ไม่มีกำหนด เหตุเขมรไม่ทำแผนปฎิบัติตาม 4 เงื่อนไข ย้ำจุดยืนไทยเขมรทำตาม 4 ข้อตกลงเมื่อไหร่ค่อยมาคุยกันประเด็นอื่น

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่อาคารรัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายฮุน เซน กดดันให้ไทยเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ภายในวันที่ 20 ตุลาคมว่า จะพูดได้อย่างไร มันเป็นเรื่องความมั่นคง ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อให้ไทยและกัมพูชา ลงนามข้อตกลงสันติภาพ นายกฯ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว


ยันเขมรต้องทำ4เงื่อนไขก่อนคุยเปิดด่าน

ด้านพล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงถึงความเคลื่อนไหวของนายฮุน เซน ที่ออกมากดดันให้ไทยเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ภายในวันที่ 20 ตุลาคมว่า ส่วนตัวไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ แต่ขณะนี้ไทยยังไม่มีมาตรการอื่นใดนอกเหนือจากเงื่อนไข 4 ข้อ คือ 1.ถอนอาวุธหนัก 2.เก็บกู้ทุ่นระเบิด 3.ปราบปรามสแกมเมอร์ และ 4.บริหารจัดการพื้นที่ ชายแดนที่มีปัญหาตามข้อเสนอจากวงประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา และต้องมีกลไกความร่วมมือมาพูดคุยกัน เพื่อให้สองฝ่ายตกลงร่วมกันเป็นรูปธรรมก่อน จึงค่อยไปคุยเรื่องอื่น โดยไทยพูดชัดเจนว่าหากจะเจรจาใดๆ เขมรต้องยอมรับเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ ขับเคลื่อนเป็นรูปธรรม และมีผลน่าพึงพอใจจึงค่อยไปคุยในประเด็นอื่น

คาดปิดด่านทุบค้าชายแดนทำฮุนเซนพล่าน

โฆษกกระทรวงกลาโหมระบุถึงข้อสังเกตกรณีนายฮุน เซน อาจสูญเสียรายได้ จึงพุ่งเป้ากดดันเรื่องการเปิดด่านว่า ไม่มีข้อมูลเรื่องสูญเสียรายได้ของเขมร แต่คาดคะเนได้จากผลกระทบด้านการค้าตามแนวชายแดนที่สืบเนื่องจากมาตรการปิดด่านของไทย แต่ย้ำว่ามาตรการปิดด่านที่ไทยดำเนินการเหมาะสม และเป็นการกดดันกัมพูชาในเชิงหลักสากล ซึ่งเขมรต้องย้อนมองตัวเองว่าพร้อมแค่ไหน ก่อนออกมาพูดว่าขอเปิดด่าน เพราะขณะนี้ไทยยืนยันเป็นแนวทางเดียวกันหมด ตั้งแต่รัฐบาลถึงระดับพื้นที่ว่าต้องยึด 4 เงื่อนไข ก่อนไปคุยเรื่องอื่น

“โดยเฉพาะนายกฯก็ยืนยันเงื่อนไข 4 ข้อว่า กัมพูชาต้องยอมรับเรื่องนี้ก่อน จึงจะนำไปสู่การเจรจา และระดับพื้นที่ก็ย้ำจุดยืนเดียวกันว่า ต้องมีเรื่องจัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจน เช่น เรื่องเก็บกู้ระเบิด และจัดการชุมชนที่รุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย แต่เขมรกลับไม่มีแผนปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรม ล่าสุดกองทัพภาคที่ 2 แจ้งเขมรไปว่า เลื่อนประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC ไทย-กัมพูชา กับภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชาไปไม่มีกำหนด เนื่องจากกัมพูชายังไม่ได้ส่งแผนปฏิบัติการ”โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว

และว่า ส่วนท่าทีประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะมาเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพไทย-กัมพูชามองว่า สหรัฐฯ มีศักยภาพดำเนินการ และมีประเทศพันธมิตรร่วมสนับสนุน ถือเป็นสิ่งที่ดีกับภูมิภาค และสะท้อนว่าสหรัฐฯห่วงใยภูมิภาคนี้ ถ้ามองเจตนารมณ์ ไม่ได้มองเฉพาะเรื่องรักษาสมดุล ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะประเด็นสำคัญในการแก้ปัญหาไทยเขมรคือ สร้างความสงบให้เกิดขึ้น โดยมองว่า ปัจจัยที่จะนำไปสู่การเจรจาได้ส่วนหนึ่งอาจมาจากเศรษฐกิจในประเทศของเขมรเอง ขณะเดียวกันไทยต้องการคลี่คลายความตึงเครียดตามตามแนวชายแดน เพื่อให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติสุข ไม่กังวลว่าจะเกิดปะทะในพื้นที่ชายแดน

เลื่อนถกRBCยาว-เขมรไม่ทำแผน4เงื่อนไข

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) โดยศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ขอแจ้งให้ทราบว่า จากการหารือระหว่างกองทัพภาคที่ 2 กับภูมิภาคทหารที่ 4 ที่มีเป้าหมายจัดทำแผนเคลื่อนย้ายอาวุธหนัก และการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่มีรายละเอียดปฏิบัติได้จริงมีการกำหนด ขั้นตอน วัน เวลา สถานที่ และวิธีประเมินผลปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อลดการเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ซึ่งหลังหารือสองครั้ง และการส่งเอกสารโต้ตอบ 4 ครั้ง ในหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายเขมรยังไม่สามารถเสนอแผนปฏิบัติ (Action plan) ที่ชัดเจนเรื่องการปรับกำลังเพื่อลดความขัดแย้ง และการกำหนดพื้นที่ เก็บกู้ทุ่นระเบิด ตามข้อตกลงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งกำหนดหารือให้ได้ข้อยุติ ในระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) เพื่อให้บรรลุ เป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกัน ดังนั้น เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของข้อตกลง ไม่ยื้อเวลา และป้องกันบิดเบือนข้อเท็จจริงภายหลัง คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคกองทัพภาคที่ 2 (RBC) จึงเลื่อนประชุมออกไป ไม่มีกำหนดจนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะมีข้อเสนอที่ลดความขัดแย้งได้อย่างเป็นรูปธรรม

“กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันจะดำเนินการทุกมาตรการภายใต้กรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง และปกป้องอธิปไตยของชาติเต็มขีดความสามารถ” ทั้งนี้ เดิมการประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 กับภูมิภาคทหารที่ 4 ของเขมรกำหนดจัดขึ้นวันที่ 15-17 ตุลาคม ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ

ฉะเขมรไม่จริงใจ-ไม่คุยจนกว่าทำ4เงื่อนไข

กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) เผยว่า เขมรขาดความจริงใจ ไร้ความร่วมมือ เขมรยังไม่สามารถเสนอแผนปฏิบัติ ที่ชัดเจน ทั้งเรื่องการปรับกำลัง เพื่อลดการเผชิญหน้า และการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามข้อตกลงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของข้อตกลงป้องกันการยื้อเวลา และไม่เปิดช่องให้ฝ่ายใดบิดเบือนข้อเท็จจริง คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่ 2 (RBC) จึง ไม่เข้าร่วมการประชุม จนกว่าเขมรจะมีข้อเสนอที่เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ยืนยัน ดำเนินการทุกมาตรการ ภายใต้กรอบระหว่างประเทศ เพื่อรักษาความสงบ ความมั่นคง และปกป้องอธิปไตยของชาติเต็มขีดความสามารถ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top