ไม่มีใครเอาข้าวดีไปขายราคาอาหารสัตว์ ต้นตอมาจากการโกงข้าว ตั้งแต่สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์จำนำข้าวนั่นแหละครับ
หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต สส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ มือปราบจำนำข้าว เขียนเอาไว้ให้คุณผู้อ่านทำความเข้าใจและรู้เท่าทัน ข้อบิดเบือนของพรรคเพื่อไทยในช่วงที่ผ่านมาครับ
1.กรมการค้าต่างประเทศแถลงชัดว่า ข้าวในคลังดังกล่าวมีข้าวเสื่อมสภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด ที่จะจัดประเภทเป็นข้าวขายเพื่ออาหารสัตว์ หรือเพื่ออุตสาหกรรม หรือข้าวเกรดซี แต่พรรคเพื่อไทยร่วมกับเจ้าของคลัง พยายามโจมตีว่า นำข้าวดีไปขายเป็นอาหารสัตว์
ในความเป็นจริงต้องยอมรับว่า การทุจริตซุกข้าวเสื่อม ของเจ้าของคลัง ร่วมกับเซอร์เวย์และเจ้าหน้าที่รัฐสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั้น ใช้วิธีการล้อมกองและหยอดลงหลุม ด้วยการนำข้าวดีล้อมด้านนอกและนำข้าวเสื่อมหย่อนลงตรงกลาง และปิดด้วยข้าวดีด้านบน จึงไม่แปลกที่จะมีข้าวดีปะปน และสามารถเจาะข้าวดีมาโชว์สื่อได้ ยิ่งเป็นคลังตัวเองยิ่งรู้ว่าซุกข้าวเสื่อมไว้กองไหนบ้าง ปกติแล้วข้าวหนึ่งกอง 20,000 กระสอบ สูงประมาณ 30 กระสอบ ความหนาจำนวนชั้นของข้าวดี จึงขึ้นกับปริมาณข้าวเสื่อมที่ซุก การที่เจ้าของคลังเอาข้าวดีมาโชว์จึงเป็นเรื่องปกติที่พบได้
พรรคเพื่อไทยและเจ้าของคลังที่ทุจริต จึงพยายามบอกสังคมว่านำข้าวดีไปขายเป็นอาหารสัตว์ แต่ข้อเท็จจริง คือเป็นข้าวเกรดซีที่นำไปขาย ซึ่งมีข้าวดีรวมด้วย
2.พรรคเพื่อไทยพยายามนำเรื่องนี้ไปโยง ความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าว และกล่าวหาว่าไปโยนบาปให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์
ต้องยอมรับความจริงว่า กระแสข่าวความเสียหายของโครงการรับจำนำข้าวห้าแสนกว่าล้านบาทนั้น เกิดจากการปิดบัญชีของคณะกรรมการปิดบัญชี เริ่มมาตั้งแต่สมัยท่านสุภา ปิยะจิตติ ปิดบัญชีปีแรกที่เสียหายไปกว่า 220,000 ล้านบาท แล้วรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่พอใจ มีการย้ายเปลี่ยนตัวเกิดขึ้น และต่อมามีการปิดบัญชี 22 พ.ค. 2557 มีความเสียหาย5.19แสนล้านบาท และปิดบัญชีรอบกันยายน 2557 ยอดเพิ่มเป็น 5.36 แสนล้านบาท จึงเป็นการแสดงว่า ความเสียหายที่พูดกันนั้น เกิดขึ้นมาก่อนแล้ว แต่พรรคเพื่อไทยยังพยายามบิดเบือนจับแพะชนแกะ
3.พรรคเพื่อไทยและเจ้าของคลังที่ทุจริต พยายามโจมตีว่า การตรวจสอบคุณภาพข้าว ใช้ทหารมาตรวจซึ่งไม่มีมาตรฐาน
สิ่งที่กล่าวนั้นไม่จริง เพราะการตรวจโกดังทั้งประเทศนั้นใช้ผู้ตรวจราชการทุกกระทรวง นับ 100 ชุด และมีการจัดอบรมใช้แนวปฏิบัติของสำนักงานคณะกรรมการตรวจข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและส่งแล็บมาตรฐาน เป็นแนวปฏิบัติ ซึ่งแนวปฏิบัตินี้ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ไม่ใช่ใช้เซอร์เวเยอร์แดดเดียวเหมือนสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ มีทุนจดทะเบียน 2-3ล้านบาท แต่ตรวจข้าวมูลค่าเป็นหมื่นล้านบาท จึงนำไปสู่การทุจริตร่วมกันตามคลังทั้งประเทศ
ในความเป็นจริง การตรวจสอบคลังเก็บข้าวทั้งประเทศมีมากถึง 1,770 คลัง ไม่ใช่แค่ 8 คลัง ถ้าคิดเป็นกองข้าวกองละ 20,000 กระสอบ จะมีจำนวนมหาศาล เพราะยอดรวมข้าวเกือบ 18 ล้านตัน ที่สำคัญต้องปีนไปรื้อกองข้าวที่สูง 30ชั้นและทำการตรวจ แม้การตรวจบางกองไม่พบข้าวเสื่อมสภาพ แต่เมื่อไปขายเป็นข้าวดี ก็ยังมีข่าวผ่านสื่อว่า มีข้าวเสื่อมซุกอยู่ภายใน
สิ่งที่ต้องถามคลังทั้ง 8 ว่า สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์มีการทุจริตหรือไม่ สภาพปัจจุบันจึงมีสภาพคลังทั้ง 8เห็นรู้กับพรรคเพื่อไทยเพื่อบิดเบือนสังคม และให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ไปแสดงดราม่าให้สังคมสับสน ถ้ายุคนั้นไม่มีการทุจริต ปล่อยปละละเลยก็คงไม่มีข้าวเสื่อมสภาพมาสร้างปัญหาวันนี้ ดังนั้นสิ่งที่สังคมต้องติดตาม ถ้าหากกรมการค้าต่างประเทศมีการทุจริต รับผลประโยชน์ ก็ต้องถูกดำเนินคดี แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเกณฑ์การระบายก็ควรยอมรับ
เท่านี้ยังไม่พอครับ มีการถามกลับไปต่อฝ่ายยิ่งลักษณ์ เพื่อตอกย้ำภาพจำแห่งการโกงชาติบ้านเมืองจากหมอวรงค์ถึงฝ่ายยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทยอีกว่า
1.ทำไมจึงปล่อยให้มีการโกงชาวนา ด้วยการใช้ความชื้น ตาชั่ง สิ่งเจือปนมาเป็นตัวหักเงินที่ชาวนาจะได้ ชาวนาบางรายถูกหักความชื้นสูงถึง 37% ทั้งๆ ที่เครื่องวัดความชื้น อ่านตัวเลขได้สูงสุด 35% มันเกิดอะไรขึ้น ขณะที่บางรายถูกหักสิ่งเจือปนสูงถึง 30% ช่วยอธิบาย และทำไมจึงปล่อยให้มีการซื้อสิทธิ์จากชาวนา แล้วมาสวมสิทธิ์เกิดขึ้น แล้วนำข้าวจากชายแดน หรือข้าวที่ซื้อจากคลังรัฐบาลมาส่งเข้าคลัง ช่วยอธิบาย
2.หลังจากดำเนินโครงการได้สองปี โครงการมีการทุจริตกันแพร่หลาย จนขาดสภาพคล่องเร็วกว่ากำหนด ไม่มีเงินโครงการไปชำระค่าข้าวให้ชาวนา ชาวนาไปขอพบเพื่อทวงเงินค่าข้าวก็หลบหน้า นำไปสู่ชาวนาเครียด ฆ่าตัวตายนับสิบรายจริงหรือไม่ช่วยอธิบาย
3.ทำไมจึงปล่อยให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว(เซอร์เวเยอร์) เรียกรับผลประโยชน์จากโรงสี ก่อนที่จะยอมรับข้าวเข้าคลัง
แม้จะเป็นข้าวดี ส่วนข้าวผิดประเภท ข้าวเสื่อมสภาพก็ต้องจ่ายแพงขึ้น ได้ดำเนินการแก้ไขหรือไม่
4.ช่วงที่ฝ่ายค้านเปิดเผยในสภา มีคลิปวิธีนำข้าวเสื่อมสภาพซุกในกองข้าวล้อมรอบด้วยข้าวดี เหตุการณ์จากโกดัง
ที่นครสวรรค์ ทำไมจึงไม่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เลวร้ายที่สุดคือ เมื่อมีการนำข้าวเสื่อมสภาพจากคลังจังหวัดสุรินทร์มาร้องรัฐบาลในสภา แทนที่รัฐบาลจะตรวจสอบคลังที่มีปัญหา กลับจะแจ้งความดำเนินคดีฝ่ายค้าน สิ่งเหล่านี้ยิ่งทำให้คนโกงได้ใจ จึงไม่แปลกที่ข้าวเสื่อมสภาพ ข้าวผิดประเภทและข้าวต่ำมาตรฐานจึงกระจายเต็มไปหมด หรือนางสาวยิ่งลักษณ์จะเถียงว่ามีแต่ข้าวดีทั้งหมด ช่วยอธิบายข้อเท็จจริง
5.ทำไมจึงปล่อยให้มีนั่งร้านซุกอยู่ในกองข้าว และมีกองข้าวปิดล้อมไว้ ให้ดูเหมือนข้าวยังอยู่ปกติ ช่วยอธิบาย
6.ในการขายข้าวแบบจีทูจี ทำไมจึงบอกว่ามีการส่งออกไปยังประเทศอาเซียนด้วย ทั้งๆ ที่ตอนหลังที่เปิดเผยมีแต่รัฐวิสาหกิจจากจีน หรือว่าโกหกประชาชนเพื่อปกป้องนายบุญทรง ช่วยอธิบาย
7.ตกลงแล้ว รัฐวิสาหกิจของจีนที่มีนายปาล์มเป็นผู้มีอำนาจ และมอบหมายให้นายโจลูกน้องเสี่ยเปี๋ยงดำเนินการ เขามีอำนาจทำสัญญาซื้อข้าวแบบจีทูจี จริงหรือไม่ช่วยอธิบาย
8.ช่วงหลังรัฐบาลยิ่งลักษณ์ขายข้าวจีทูจี จริงๆ ผ่าน COFCO ของจีน การขายเป็นการขาย ณ ราคาท่าเรือ แต่ที่นายปาล์ม นายโจลูกน้องเสี่ยเปี๋ยงมาซื้อจีทูจี กลับขายราคาหน้าคลัง กลายเป็นว่าข้าวดังกล่าวไม่ได้ส่งไปจีน แต่เวียนขายในประเทศและย้อนกลับเข้าโครงการรับจำนำจริงหรือไม่ ให้อธิบาย
9.การชำระค่าข้าวแบบจีทูจี ปกติเขาเปิดแอลซี แต่นายปาล์ม นายโจลูกน้องเสี่ยเปี๋ยงมาซื้อกลับชำระด้วยแคชเชียร์เช็คในประเทศ เช็คเหล่านี้ซื้อโดยโรงสีบ้าง บริษัทค้าข้าวบ้าง รวมทั้งคนของสยามอินดิก้าจริงหรือไม่ ช่วยอธิบาย
10.ทำไมเมื่อมีการทำสัญญาจีทูจี กับจีนครั้งแรก ปริมาณข้าวหกล้านตันเศษ ถูกฝ่ายค้านอภิปรายตีแผ่ในเดือนพฤศจิกายน 2555 แทนที่ทุกอย่างต้องยุติ กลับมีการทำสัญญาจีทูจี คล้ายเดิมอีกในปี 2556 แต่เปลี่ยนบริษัททำสัญญา ปริมาณข้าวสูงถึง 14 ล้านตัน ทำไมจึงเกิดขึ้นอีกหรือว่าไม่เกรงกลัวอะไร ช่วยอธิบาย รวมทั้งไม่มีข้าวจีทูจี ส่งไปจีนเลยในช่วงเวลาดังกล่าวจริงหรือไม่
นี่คือสิ่งที่นางสาวยิ่งลักษณ์และนายบุญทรงควรจะต้องอธิบาย ขณะเดียวกันทุกฝ่ายถ้ามีการทุจริตเกิดขึ้นก็ต้องดำเนินการ ผิดต้องว่าไปตามผิด แต่สังคมต้องไม่ยอมให้พวกทุจริตสร้างกระแสเบี่ยงเบนให้สังคมสับสน เพื่อให้ฝ่ายตนเองพ้นผิด
-------------------
บทความของเราจะเกาะติดคดีโกงจำนำข้าวเอาไว้จนกระทั่งถึงวันพิพากษา 25 สิงหาคมนี้ครับ โปรดติดตามกันได้ตลอดเดือน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี