วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568
.jpg)
เข้มข้นขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วครับกับการเมืองไทย ส่วนตัวผมอยากเชิญชวนเพราะดีใจมากที่ได้เห็นพรรคการเมืองหลายต่อหลายพรรคเริ่มมีการหาเสียงกันด้วยประเด็น “นโยบาย” แทนที่จะเป็นการทำการเมืองแบบสมัยก่อนที่มีแต่การสาดโคลนไปมา
ประชาชนเช่นเดียวกัน และผมเองในฐานะประชาชนคนหนึ่งจะพิจารณาว่าจะเลือกพรรคใดจากแนวนโยบาย หลักใหญ่ในการผลิตนโยบาย และแน่นอน “รายละเอียด” จริงๆ ของนโยบายนั้นๆ
ประชาธิปัตย์สร้างความน่าสนใจขึ้นมากเมื่อนำทุกพรรคประกาศก่อนใครสัปดาห์ที่แล้วถึงนโยบายการศึกษา ล่าสุดเมื่อวานนี้ ประกาศกร้าว 6 นโยบายเป็นชุดของการ “ยกระดับความเป็นอยู่” ของคนกลุ่มรายได้น้อยเป็นหลัก นั่นคือหลักการ “ประกันรายได้คนไทย” และทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ไม่ได้ลืมส่วนของการนำพาประเทศไปข้างหน้านะ ขีดการแข่งขันต่างๆ ก็จะมีชุดนโยบายในลักษณะตรงนี้ตามมาเรื่อยๆ รวมไปถึงนโยบายสำหรับชนชั้นกลางที่เสียภาษี และภาคธุรกิจต่างๆ อดใจรอรายสัปดาห์กันนะครับ
เมื่อวานนี้พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย คุณอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคฯ และคุณกรณ์ รองหัวหน้าพรรคฯ ด้านนโยบาย ย้ายโลเกชั่นออกจากที่ทำการพรรคไปที่เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เป็นเขตทางตะวันตกปลายสุดติดกับปริมณฑล เขตเก่าของอดีตสส.ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลือกทำเลโรงงานเชื่อมต่อกับไร่นา เพื่อสะท้อนว่า กลุ่มเกษตรกรและผู้ใช้แรงงานคือกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่สุด เลือกที่จะประกาศ 6 นโยบาย เพื่อการเพิ่มรายได้และปากท้องตรงนั้น นับเป็นมิติใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ก้าวออกจากกรอบเดิมๆ น่าสนใจทีเดียว
ในรายละเอียดของนโยบาย ผมได้นำรายละเอียดในเอกสารแถลงมาให้ดูเต็มๆ กันตามนี้เลยครับ
------------
พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง แสดงความพร้อมประกาศนโยบายเพื่อดูแลปากท้องประชาชนเป็นพรรคแรก มุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้แก่พี่น้องประชาชน โดยเน้นขา “เพิ่มรายได้” เป็นหลัก
การประกาศชุดนโยบาย “ยกระดับความเป็นอยู่” ในวันนี้เป็นชุดนโยบายที่สองต่อเนื่องจาก 10 นโยบายการศึกษา “ยกระดับคุณภาพเด็กไทย” ที่ได้เรียกเสียงฮือฮากับการเน้นหลักสังคมสวัสดิการดูแลประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
ในวันนี้ 21 ธันวาคม 2561 ณ พื้นที่ผสมผสานระหว่างท้องทุ่งเกษตรกรรมกับโรงงานอุตสาหกรรม เขตทวีวัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ชูนโยบาย “ประกันรายได้คนไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เป็นการเพิ่มเงินในมือประชาชน เน้นยกระดับชีวิตคนไทย โดยใช้เกณฑ์ช่วยเหลือคนทุกกลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 120,000 บาทต่อปี
1.โครงการโฉนดสีฟ้า
.jpg)
- โฉนดชุมชน จัดการตนเอง เพื่อที่อยู่ ที่ทำกิน ออก พ.ร.บ โฉนดชุมชน เพื่อให้สิทธิ์ในการจัดการตนเองไปยังชุมชนอย่างแท้จริง
- ยกระดับ ส.ป.ก. กู้ได้ ขยายโอกาสเกษตรกร ให้ที่ดิน ส.ป.ก. สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของรัฐ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเกษตรกรรม และสามารถสืบทอดตกถึงลูกหลานได้
- เดินหน้า “ธนาคารที่ดิน” เพิ่มที่ทำกินให้คนไทย เพื่อการจัดสรรและเพิ่มการกระจายตัวของที่ดินให้ครอบคลุม ความต้องการของประชาชน
- เร่งออก “โฉนดทันใจ” สะสางโฉนดที่ดินที่ค้างท่อมานาน เร่งรัดทำให้โฉนดให้ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ ส.ค.1 น.ส.3 และเอกสิทธิต่างๆ ที่ชอบด้วยกฎหมายให้เสร็จ
2.น้ำถึงทุกไร่นา จัดตั้ง “กองทุนน้ำชุมชน” เกษตรกรมีน้ำใช้ตลอดปี มีเงินทำแหล่งน้ำทุกหมู่บ้าน รัฐมีงบและผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ชาวบ้านสามารถจัดการแหล่งน้ำด้วยตนเอง
.jpg)
3.ประกันรายได้เกษตรกร มุ่งเน้นที่ตัวเงินในกระเป๋าเกษตรกรเป็นหลัก ไม่แทรกแซงกลไกตลาด ไม่ทำการประกันราคาสินค้า และไม่ทำจำนำที่สูงกว่าราคาตลาด โดยจะครอบคลุมพืชทุกชนิด สร้างความมั่นคงของรายได้ให้เกษตรกรไทยทุกคน มีหลักประกันรายได้ขั้นต่ำในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเมล็ด ยางพารา และ ปาล์ม โดยตัวเลขของส่วนต่างประกันรายได้จะประกาศใหญ่อีกครั้งหนึ่ง และรวมไปถึงการทำประกันภัยพืชผล ให้เงินคุ้มครองความเสียหายผลผลิตจากภัยธรรมชาติ เพื่อคุ้มครองต้นทุนการผลิตของเกษตรกร
.jpg)
4.ประกันรายได้แรงงาน เป้าหมายค่าแรงของคนไทย ต้องไม่ต่ำกว่า 120,000 บาท/ปี รัฐจ่ายส่วนต่าง ลดภาระผู้ประกอบการ
5.เบี้ยผู้ยากไร้ 800 บาท/เดือน โอนตรงสู่บัญชีเงินอุดหนุนให้แก่ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาท/ปี โดยทุกคนต้องเข้าระบบรายงานสถานะทางการเงินของตนเองทุกปี
6.เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท/เดือน โอนตรงสู่บัญชีผู้สูงอายุ รับ 1,000 บาท เพื่อดูแลค่าครองชีพและจุนเจือชีวิตความเป็นอยู่ในวัยเกษียณ
พรรคประชาธิปัตย์ตระหนัก เข้าใจ และเห็นใจพี่น้องประชาชนในยุคที่ประเทศไทยเต็มไปด้วยความผันผวนทางเศรษฐกิจ ความกังขาต่อความเท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำในโอกาสที่ยากจะเข้าถึง และความมั่งคั่งที่กระจุกจนเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่เป็นธรรม พรรคฯ ตั้งใจเป็นอย่างยิ่งว่า “ประกันรายได้คนไทย เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” จะเป็นชุดนโยบายเพื่อ “ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่” โดย 6 นโยบายข้างต้นนี้ สามารถทำได้ทันทีที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล
พร้อมกันนี้โปรดติดตามชุดนโยบายเศรษฐกิจยุคใหม่ “ยกระดับประเทศไทย ก้าวไกลทันโลก” ชุดนโยบายที่จะนำพาประเทศสู่การรับมือต่อความท้าทาย 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน (ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ) 2.Aging Society 3.ลดความเหลื่อมล้ำ โดยหลักใหญ่ที่พรรคพร้อมนำมาประกาศใช้คือ การเปลี่ยนตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจจาก GDP ที่เน้นการเติบโตแบบอัดฉีด มาเป็น SDI (Sustainable Development Index) เน้น “การพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” สร้างความเข้มแข็งให้ประเทศไทยต่อเนื่องสืบไป
------------
หลายคนคงมีคำถามนะครับว่า แล้วนโยบายเศรษฐกิจชุดใหญ่ที่จะเกี่ยวข้องกับประเทศไทยทั้งระบบล่ะ อยู่ที่ไหน คำตอบคือรบกวนรอการทยอยประกาศนโยบายเป็นเรื่องๆ ไปของพรรคในแต่ละสัปดาห์ครับ โดยอย่างที่ได้กล่าวไป นโยบายเศรษฐกิจชุดใหญ่จะเน้นหนักไปที่ “การพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน” แทนที่จะเป็นการปั๊มอัดฉีดก้อนเงินลงไปเพื่อให้ตัวเลขจีดีพีโตแบบฉาบฉวย
และเน้นไปที่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทยของเรา คนไทยทุกคนให้เตรียมพร้อมไปแข่งขันทัดเทียมประเทศคู่ค้าทุกคนได้ ทุกนโยบายจะมีเป้าหมายในตัวของมัน

'จาตุรนต์’ยัวะเปลี่ยนม้ากลางศึก ‘เพื่อไทย’ร้าวหนัก!
‘อนุทิน’ลั่นยึดพื้นที่เป้าหมายได้เกือบหมด ประเทศที่3อย่ายุ่ง กราบ2วีรบุรุษเนิน350
ปูพรมกวาดล้าง ต่างด้าวทำผิดก.ม.ทั่วไทย รวบแล้วกว่า1.3หมื่นราย
กทม.จมฝุ่นพิษ ค่าเกิน20พื้นที่ อยู่ในระดับสีส้ม กระทบสุขภาพ
‘ข้างบ้าน’ หลอนสะกดผู้ชมไม่แผ่ว! กวาดรายได้ 80 ล้าน มุ่งหน้าสู่ 100 ล้าน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี