กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นกอินทรีตัวหนึ่งและหมาจิ้งจอกตัวหนึ่งเป็นเพื่อนกัน โดยต่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันในเรื่องอาหาร
นกอินทรีทำรังอยู่บนต้นไม้ใหญ่ มีลูกหลายตัวที่ยังเล็ก ส่วนหมาจิ้งจอกอาศัยอยู่ในถ้ำใกล้ๆ กับต้นไม้ใหญ่นั้นมีลูกตัวเล็กๆ ที่ต้องดูแลเช่นกัน
วันหนึ่ง หมาจิ้งจอกออกจากถ้ำไปหาอาหารปล่อยลูกน้อยตัวเล็กๆ อยู่ในถ้ำตามลำพัง ในขณะที่นกอินทรีบนต้นไม้นั้นหาอาหารไม่ได้มาหลายวันแล้ว และลูกน้อยของมันกำลังจะอดตาย
แม่นกอินทรีตัดสินใจ เข้าไปในถ้ำของหมาจิ้งจอกแล้วคาบเอาลูกน้อยของหมาจิ้งจอกไปไว้ในรังบนต้นไม้ จากนั้นมันจิกลูกหมาจิ้งจอกจนตาย แบ่งปันเนื้อเป็นอาหารแก่ลูกๆ ของมัน
เมื่อหมาจิ้งจอกกลับจากการหาอาหารมาถึงถ้ำไม่เห็นลูกน้อยของมัน ครั้นแหงนดูบนต้นไม้ ก็เห็นนกอินทรีกำลังกินเนื้อลูกของมันอย่างเอร็ดอร่อย
หมาจิ้งจอกโกรธกริ้วที่สุดเท่าที่ชีวิตเคยโกรธ มันจึงไปหา “แพะแก่” ที่รู้จักก่อไฟ อ้อนวอนขอไฟจากแพะมาสุมใต้ต้นไม้ แล้วเร่งฟืนเร่งไฟให้โหมหนักขึ้น
ทั้งควันทั้งไฟที่ถูกกระพือไปสู่ยอดไม้ ทำให้ทั้งแม่นกอินทรีและลูกนกอินทรีสำลักควันไฟจนตายอยู่ในรัง
นิทานอีสปเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “ผู้ใจทรามสร้างกรรมชั่วอะไรเอาไว้ ย่อมหนีกรรมที่ตนก่อไม่พ้น”
หมายเหตุ ไม่เห็นด้วยกับ “อีสป” ในนิทานเรื่องนี้ที่ให้นกอินทรีทำรังอยู่บนต้นไม้ เพราะธรรมชาติของนกอินทรีไม่เคยทำรังบนต้นไม้ แต่จะทำรังตามซอกหินของหน้าผาในเทือกเขาสูง
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี