วันอาทิตย์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ขอคิดด้วยฅน
ขอคิดด้วยฅน

ขอคิดด้วยฅน

เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
วันจันทร์ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560, 02.00 น.
อิทธิฤทธิ์ภาษีสรรพสามิต

ดูทั้งหมด

  •  

การเก็บภาษีสรรพสามิตในอัตราโครงสร้างใหม่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ออกมาแล้ว โดยธุรกิจบุหรี่นอกได้งัดกลยุทธ์การตลาดออกมาต่อสู้ กระทั่งได้ส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น ส่วนโรงงานยาสูบถึงกับดิ้นเร่า เพราะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับบุหรี่นอก


เกิดปรากฏการณ์ที่ราคาขายปลีกของบุหรี่นอก บางรุ่น บางยี่ห้อ ราคาถูกกว่าบุหรี่ของโรงงานยาสูบ

1. ผมได้เคยแสดงจุดยืนข้อคิดเห็นไว้หลายครั้ง ว่าสนับสนุนการเก็บภาษีสรรพสามิต หรือภาษีบาป ทั้งจากบุหรี่และสุรา เพื่อควบคุมการบริโภค นำรายได้เข้าสู่รัฐ เพราะทั้งสองชนิดเป็นสินค้าที่ทำลายสุขภาพของประชาชน และทำให้ส่วนรวมมีภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขสังคมเพิ่มขึ้น สมควรควบคุมการบริโภค

ในกรณีบุหรี่ การที่กระทรวงการคลังเปลี่ยนวิธีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต โดยเก็บจากราคาขายปลีก แทนราคาหน้าโรงงานหรือราคานำเข้า ผมก็เห็นด้วย สนับสนุน เพราะถ้าไม่เช่นนั้น บรรดาบุหรี่นอกก็อาจจะใช้วิธีสำแดงราคาต่ำกว่าความจริง เพราะประหยัดภาษี

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังใช้วิธีจัดเก็บทั้งแบบมูลค่าและปริมาณผสมกัน กล่าวคือ จัดเก็บตามปริมาณ ภาษีซองละ 24 บาท และจัดเก็บตามมูลค่า หากราคาขายต่ำกว่าซองละ 60 บาท จะเสียภาษี 20% แต่ถ้าราคาขายเกิน 60 บาทต่อซอง จะเสีย 40%

2. สิ่งที่เกิดขึ้นหลังการเก็บภาษีสรรพสามิตแบบใหม่ คือ อิทธิฤทธิ์ของภาษีสรรพสามิต

ปรากฏว่า บุหรี่นอกบางรายได้ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด ด้วยการลดราคาขายปลีกสำหรับบุหรี่บางรุ่น บางแบบ บางยี่ห้อของตนเอง เหลือ 60 บาท เพื่อเสียภาษีในอัตรา 20%

ขณะที่บุหรี่ของโรงงานยาสูบ เช่น 
สายฝน กรองทิพย์ ฯลฯ ราคาบวกภาษีสูงถึง 95 บาท

มีผลทำให้ผู้บริโภคบุหรี่หันมาสูบบุหรี่นอกราคาถูกมากขึ้น

3. ผู้ได้รับผลกระทบหนักที่สุด คือ โรงงานยาสูบ ออกมาร้องเรียนกระทรวงการคลังให้ช่วยเยียวยา

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ ออกแถลงการณ์ขอความเป็นธรรมจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ระบุว่า มีผลกระทบกับยอดการจำหน่ายบุหรี่ของโรงงานยาสูบในปีงบประมาณ 2561 ลดลง
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 41% โดยมีการจัดเก็บภาษีทั้งด้านปริมาณและด้านมูลค่ารวมกัน ด้านมูลค่ากำหนดให้ใช้เกณฑ์ 
“ราคาขายปลีกแนะนำ” แต่บทบัญญัติดังกล่าวไม่รัดกุม ทำให้บริษัทบุหรี่ต่างประเทศตัดสินใจลดราคาลงมาขัดกับเจตนารมณ์และกลไกตลาด ในอนาคตจะส่งผลให้ธุรกิจบุหรี่ของรัฐอย่างโรงงานยาสูบได้รับผลกระทบ ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดของโรงงานยาสูบลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วง 2 ปีข้างหน้า

คาดว่าในปีงบประมาณ 2561 โรงงานยาสูบจะประสบภาวะขาดทุนประมาณ 1,575 ล้านบาท

ในเอกสารยังเรียกร้องให้มีการชดเชยเยียวยาแก่โรงงานยาสูบ รวมถึงอาจจะนำเรื่องไปฟ้องศาลปกครองต่อไปด้วย

4.กระทรวงการคลังคงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาอันสืบเนื่องมาจากอิทธิฤทธิ์ของภาษีสรรพสามิตครั้งนี้อย่างไร

เจตนาของการเก็บภาษีสรรพสามิต เพื่อควบคุมการบริโภคบุหรี่ หรือลดการบริโภคบุหรี่ และเพื่อให้รัฐได้รับเงินเข้าแผ่นดินมากขึ้น แต่ถ้าผลออกมาไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ ก็คงต้องหาทางแก้ไข ยิ่งถ้าผู้บริโภคหันไปบริโภคบุหรี่ที่ราคาถูกลง คุณภาพต่ำลง ยิ่งเกิดผลตรงข้าม
ที่ไม่พึงประสงค์

5.แนวทางในการแก้ปัญหา

หากตัดสินใจเก็บภาษีแบบที่เป็นอยู่ต่อไป โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไร แล้วเลือกเอาเงินภาษีของแผ่นดินเข้าไปอุ้มโรงงานยาสูบแทน แนวทางนี้น่าจะยิ่งพาเข้ารกเข้าพง เพราะกลายเป็นไปเสียเงินแผ่นดินไปอุ้มโรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นกิจการที่ทำลายสุขภาพสังคม 
ขณะที่บุหรี่นอกราคาถูกก็ยังขายกันเกลื่อน คนบริโภคบุหรี่นอกราคาถูกต่อไป ผมจึงไม่เห็นด้วยกับหนทางนี้

ขอเสนอแนะว่า ให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโครงสร้างภาษีบุหรี่

5.1 ยังจัดเก็บแบบผสม ทั้งจากปริมาณและมูลค่า ควรต้องเพิ่มอัตราภาษีที่จัดเก็บด้านมูลค่าให้เป็นอัตราเดียวกันหมด ไม่ต้องแบ่งแยกว่า ราคาต่ำกว่า 60 บาทต่อซองจะเสียแค่ 20% เพราะเป็นการส่งสัญญาณให้คุณต่อบุหรี่ราคาถูก คุณภาพต่ำ เข้ามาตีตลาด ซึ่งไม่พึงประสงค์

อาจจะเก็บอัตราเดียวไปเลยก็ยังได้ กี่เปอร์เซ็นต์ของราคาขายปลีกแนะนำ เช่น 40% หรือมากกว่านั้น

แบบนี้ จะไม่มีการใช้กลยุทธ์การตลาดด้านราคาเข้ามาตีตลาดบุหรี่

5.2 หากยกเลิกการจัดเก็บแบบผสม หันมาจัดเก็บภาษีตามปริมาณอย่างเดียวไปเลย โดยกำหนดไปเลยว่าจะเก็บภาษีจากบุหรี่ซองละกี่บาท มวนละกี่บาท ไม่ว่าจะบุหรี่ที่มีราคาขายปลีกถูกหรือแพงอย่างไร โดยอาจขึ้นอัตราภาษีมากกว่าเดิมก็ได้

ถ้าแบบนี้ โรงงานยาสูบก็จะต้องแข่งขันกับบุหรี่นอกอย่างเป็นธรรมชัดเจนขึ้น ก็จะต้องมีการปรับประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมต้นทุนการผลิต

6.ทั้งหมดนี้ ไม่ว่าจะเลือกแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร สิ่งที่กระทรวงการคลังควรจะเร่งดำเนินการไปควบคู่กัน คือ การอุดช่องโหว่ ติดตามกำกับดูแลมิให้เกิดการรั่วไหลของเงินภาษีอากร

กระทรวงการคลังควรทำบาร์โค้ด (หรือคิวอาร์โค้ด) สำหรับสินค้าทุกชิ้น บุหรี่ทุกซอง หรือทุกขวดสำหรับสุรา ที่ผ่านการเสียภาษีสรรพสามิต ซึ่งทำให้สามารถตรวจสอบ แยกแยะได้อย่างมีประสิทธิภาพจากสินค้าหนีภาษี

ในต่างประเทศ เอาจริงกับการตรวจสอบกำกับติดตามดูแลเรื่องนี้ ภายหลังการตรวจสอบ ตรวจจับจริงจัง ปรากฏว่า รัฐได้รายได้สูงขึ้นกว่าต้นทุนการทำบาร์โค้ดหลายสิบเท่า

7.อีกเรื่องที่เป็นข่าวใหญ่ และจริงๆ ก็เป็นอิทธิฤทธิ์จากภาษีสรรพสามิตเช่นกัน

นั่นคือ กรณีอัยการสูงสุดร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้ศาลเดินหน้ากระบวนการพิจารณาคดีแปลงสัญญาโทรมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตต่อไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ จำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากจำเลย คือ ทักษิณ ชินวัตร หลบหนี

คดีนี้ เกิดจากพฤติกรรมผู้มีอำนาจที่ใช้ภาษีสรรพสามิตไม่ตรงไปตรงมา เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนเอง

ยังจำได้ว่า ตอนที่ทักษิณเข้ามาเป็นนายกฯ ยังคงเป็นเจ้าของกิจการโทรคมนาคม เพียงแต่ซุกหุ้นไว้ในชื่อบุคคลอื่น แล้วได้ใช้อำนาจรัฐไปออกมาตรการ นโยบาย ดำเนินการเอื้อประโยชน์แก่กิจการโทรคมนาคมของตนเอง ทำให้รัฐเสียหายจำนวนมาก

เริ่มตั้งแต่ไปลดส่วนแบ่งรายได้ กิจการมือถือแบบพรีเพด ที่ตามสัญญาเดิมเอไอเอสจะต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้แก่หน่วยงานของรัฐ คือ ทศท. เพิ่มเป็นขั้นบันได โดยเฉพาะในช่วงปีท้ายๆ สัญญา ฐานลูกค้ามหาศาลกว่าทุกช่วงปี สัญญาเดิมกำหนดให้จ่ายสูงสุดถึง 35% แต่ยุครัฐบาลทักษิณ เมื่อปี 2544 กลับแก้ให้เอไอเอสจ่ายในอัตราคงที่ 20% ตลอดสัญญา เพราะฉะนั้น ช่วงปีหลังๆ ท้ายสัญญา รัฐจึงอดส่วนแบ่งรายได้ เพราะแก้สัญญาโดยมิชอบดังกล่าว

กรณีที่เกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต ก็คือ การออก พ.ร.ก.สรรพสามิต ซึ่งไม่เคยเก็บโทรคมนาคมมาก่อน ไม่ว่าจะเป็น มือถือ อินเตอร์เนต ดาวเทียม ฯลฯ เพราะถือเป็นกิจการที่จำเป็น ไม่ใช่สินค้าบาป แต่ในยุครัฐบาลทักษิณได้สอดไส้เข้ามาในประกาศเก็บภาษีสรรพสามิต ด้วยการออกเป็น พ.ร.ก. โดยมีอาบอบนวดนำหน้า และมีภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมพ่วงมาด้วย แต่ใช้วิธีเอื้อประโยชน์แก่บริษัทตนเอง

โดยรีบร้อนออก พ.ร.ก. ในขณะนั้น เพราะเร่งรีบ เกรงว่าจะมี กทช. (คือ กสทช. ในปัจจุบัน) จะดำเนินการเปิดเสรีโทรคมนาคมเพื่อให้มีรายใหม่เข้ามาแข่งขัน การดำเนินการเก็บภาษีสรรพสามิตดังกล่าว จึงกำหนดให้สำหรับเอไอเอสที่ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาเดิมอยู่แล้ว สามารถเอาภาษีสรรพสามิตไปหักลดออกจากส่วนแบ่งรายได้ที่ต้องจ่ายอยู่เดิม ผลกลายเป็นว่า ทศท.เป็นผู้จ่ายภาษีแทนเอไอเอสไปโดยปริยาย ทศท.จึงได้รับความเสียหายมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท

ทั้งหมด เพื่อจะกีดกันรายใหม่ที่จะเข้ามาแข่งขัน เพราะถ้ามีรายใหม่เข้ามา รายใหม่ต้องเสียภาษีเต็มที่ ไม่มีส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาเดิมมาหัก ส่วนเอไอเอสของทักษิณสามารถหักจากส่วนที่ต้องจ่ายอยู่แล้ว

คดีนี้ อัยการสูงสุดยื่นฟ้องทักษิณเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาฯ ไว้นานหลายปีแล้ว แต่ทักษิณหนีคดี ไม่ยอมเข้ามาต่อสู้ ศาลฯ จึงจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว รอให้ได้ตัวจำเลยมาขึ้นศาล

เมื่อกฎหมายวิธีพิจารณาคดีฯ ปัจจุบัน เปิดทางให้สามารถดำเนินการต่อไปได้ หากออกหมายจับแล้ว จำเลยไม่ยอมมาศาล สมัครใจหนีคดีไปเอง อัยการสูงสุดจึงร้องขอให้ศาลเดินหน้าคดีที่คาในอยู่สารบบต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อความยุติธรรมส่วนรวมอย่างยิ่ง เพราะมิฉะนั้น นักการเมืองที่ต้องคดี ก็ใช้วิธีหนีศาล หนีคดี ไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศ เพื่อปกปิดหรือตัดตอนคดี มิให้เดินหน้าพิสูจน์ความจริงกันต่อไปได้ อัยการสูงสุดดำเนินการได้อย่างถูกต้องแล้ว

ขณะนี้ อัยการยังได้ดำเนินการในลักษณะนี้กับทุกคดี กับจำเลยทุกคนที่อยู่ในข่ายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น คดีระบายข้าวจีทูจี ที่มีหมอโด่งและนายสุธีหนีคดีไป ก็กำลังจะร้องต่อศาลเพื่อให้เดินหน้าคดีต่อเช่นกัน

รวมถึงในอนาคต เมื่อมีผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกฟ้องขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากจำเลยหนีคดีไป อัยการสูงสุดหรือ ป.ป.ช. ก็ย่อมจะต้องทำแบบเดียวกันนี้ทุกรายไม่เลือกปฏิบัติ มิฉะนั้น ก็จะถูกเล่นงานเสียเอง

 

ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง

ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:34 น. ‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้
12:33 น. วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอนกระตุ้นท่องเที่ยว
12:20 น. ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง 'อบต.แป้น'
12:10 น. ‘จิรายุ’ฉะแกนนำม็อบสาวรีย์ฯเรียกหารถถัง ฉุดปท.กลับไปด้อยพัฒนา
12:09 น. จุดยืนคุณคืออะไร!? 'ก่อแก้ว'เหน็บ'จตุพร'ปี49 ชวนต้านรัฐประหาร ปี68 ยืนร่วมเวที'สนธิ'
ดูทั้งหมด
นักวิชาการลงชื่อ‘ถวายฎีกา’ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง
วอน'ญี่ปุ่น'ช่วยหย่าศึก! 'ฮุน เซน'ขอร้องให้ช่วยพูดกับไทย จี้ให้ศาลโลกช่วยตัดสินปมพื้นที่พิพาท
สจ.ปทุมฯลวง'สจ.สาว' อ้างพาส่งที่พัก เลี้ยวเข้าโรงแรม หวังย่ำยี
‘อ.ไชยันต์’บอกใบ้! อะไรทำสัมพันธ์‘ทักษิณ-ฮุนเซน’ต้องหักสะบั้น
'ลุงเตีย'ลำบากใจ!ร่วม'ฮุนเซน'ตรวจชายแดนท่ามกลางสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาตึงเครียด
ดูทั้งหมด
Grand Shanghai Chinese (แกรนด์ เซี่ยงไฮ้ ไชนีส)
ปฏิบัติการ ‘แก้ผ้าตัวเอง’ ของ ‘ฮุนเซน’
แผ่นดินสูงขึ้นเมื่อไร้นักการเมืองเลว
บุคคลแนวหน้า : 29 มิถุนายน 2568
ทายาท (อสูร) การเมืองไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้

ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง 'อบต.แป้น'

‘จิรายุ’ฉะแกนนำม็อบสาวรีย์ฯเรียกหารถถัง ฉุดปท.กลับไปด้อยพัฒนา

จุดยืนคุณคืออะไร!? 'ก่อแก้ว'เหน็บ'จตุพร'ปี49 ชวนต้านรัฐประหาร ปี68 ยืนร่วมเวที'สนธิ'

ความผิดสำเร็จ!พฤติกรรม‘อุ๊งอิ๊ง’เอื้อประโยชน์เขมรชัดเจน รอฟังมติศาลรธน.1ก.ค.

ยุ่งแล้ว! 'พีระพันธุ์'ค้านโยก'สุชาติ'มา รมช.มท. คาดส่งนั่ง รมช.พาณิชย์ตามเดิม-'เพ้า'ส่อหลุด

  • Breaking News
  • ‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้ ‘เพื่อไทย’บอกรับไม่ได้‘แกนนำม็อบ’ปลุกรัฐประหาร ชี้ 20 ปี ปชช.เจ็บปวด-สูญเสียประเมินค่าไม่ได้
  • วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอนกระตุ้นท่องเที่ยว วิ่งเกาะกูดมินิมาราธอนกระตุ้นท่องเที่ยว
  • ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง \'อบต.แป้น\' ผู้ว่าฯหญิงปัตตานีลงพื้นที่ เหตุคนร้ายลอบวางเพลิง 'อบต.แป้น'
  • ‘จิรายุ’ฉะแกนนำม็อบสาวรีย์ฯเรียกหารถถัง ฉุดปท.กลับไปด้อยพัฒนา ‘จิรายุ’ฉะแกนนำม็อบสาวรีย์ฯเรียกหารถถัง ฉุดปท.กลับไปด้อยพัฒนา
  • จุดยืนคุณคืออะไร!? \'ก่อแก้ว\'เหน็บ\'จตุพร\'ปี49 ชวนต้านรัฐประหาร ปี68 ยืนร่วมเวที\'สนธิ\' จุดยืนคุณคืออะไร!? 'ก่อแก้ว'เหน็บ'จตุพร'ปี49 ชวนต้านรัฐประหาร ปี68 ยืนร่วมเวที'สนธิ'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

วิกฤติรัฐธรรมนูญ  ใคร พายเรือให้ทหารนั่ง

วิกฤติรัฐธรรมนูญ ใคร พายเรือให้ทหารนั่ง

28 ก.ย. 2563

รัฐธรรมนูญใหม่ ฉบับประชาชน

รัฐธรรมนูญใหม่ ฉบับประชาชน

20 ก.ย. 2563

จดหมายเปิดผนึก  ถึงรมว.กระทรวงพลังงาน

จดหมายเปิดผนึก ถึงรมว.กระทรวงพลังงาน

14 ก.ย. 2563

ดีใจ  คนรุ่นใหม่คิดเป็น

ดีใจ คนรุ่นใหม่คิดเป็น

7 ก.ย. 2563

๙ ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์

๙ ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์

31 ส.ค. 2563

ห่วงประเทศ

ห่วงประเทศ

24 ส.ค. 2563

กินและบิณ

กินและบิณ

17 ส.ค. 2563

บ่อนทำลายประเทศไทย

บ่อนทำลายประเทศไทย

10 ส.ค. 2563

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved