เป็นความจริงที่ทุกคนยอมรับกันว่า ผู้บริโภคในสังคมไทยถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ขายสินค้าและบริการนานาชนิดมาโดยตลอด แต่ที่น่าสมเพชมากกว่าคือ คนไทยจำนวนไม่น้อยต้องยอมทนให้ผู้ขายสินค้าและผู้ให้บริการเอารัดเอาเปรียบมาอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้ถูกเอาเปรียบจำนวนไม่น้อยได้ไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานของรัฐบาลที่อ้างว่าคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค แต่ก็ไม่ค่อยปรากฏว่าประชาชนจะได้รับการดูแลและคุ้มครองสิทธิโดยสมบูรณ์แต่ประการใด ต้องขอย้ำในที่นี้ว่ามีเรื่องร้องเรียนมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ทางการมีปัญญาแก้ปัญหาให้ประชาชนได้โดยแท้จริง
ผู้อ่านแนวหน้าจำนวนไม่น้อยส่งข้อร้องเรียนถึงการที่ถูกบริษัทผู้ขายสินค้า ตัวแทนจำหน่ายสินค้า และผู้ให้บริการจำนวนไม่น้อยจงใจเอารัดเอาเปรียบด้วยกลอุบายสารพัด ตัวอย่างหนึ่งที่ได้รับเรื่องร้องเรียนมากที่สุดคือ การจองตั๋วเครื่องบินผ่านบริษัทรับจองทั้งหลาย ซึ่งมีสารพัดชื่อ รวมถึงการจองตั๋วโดยตรงกับบริษัทสายการบิน ปัญหาใหญ่ที่ผู้บริโภคถูกผู้ให้บริการเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอดคือ การคิดค่าปรับ หรือที่ถูกเรียกให้ดูดีเกินจริงว่าค่าธรรมเนียม เช่น เมื่อสะกดชื่อและนามสกุลผิด จะถูกปรับเป็นเงิน 5 พันกว่าบาท (สำหรับตั๋วเครื่องบินสายต่างประเทศ) แต่ถ้าเป็นสายการบินภายในประเทศก็ต้องเสียค่าปรับเป็นเงินกว่าพันบาท
ขอย้ำว่านี่คือการจงใจเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างซึ่งๆ หน้าโดยแท้จริง ปัญหานี้เกิดขึ้นมายาวนานมากเหลือเกิน แต่กลับไม่เคยปรากฏว่าสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของประเทศไทยจะสามารถคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคได้
ต้องขอยืนยันว่าในแต่ละวันบริษัทรับจองตั๋วเครื่องบินทุกแห่งได้จงใจเอาเปรียบผู้บริโภคด้วยกลอุบายเช่นนี้ ส่วนผู้บริโภคก็ไม่มีพลังต่อต้านหรือเล่นงานบริษัทเจ้าเล่ห์เหล่านี้ เพราะทุกคนจ่ายเงินไปก่อนล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คือได้จ่ายเงินไปก่อนที่จะได้รับบริการแล้วทั้งนั้น
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้ไม่เคยมีผู้ที่ถูกเอาเปรียบรายใดได้รับเงินคืนเท่ากับจำนวนเงินที่ได้จ่ายไปก่อนหน้านั้นแล้ว แต่หากจะได้คืนก็จะได้คืนแค่เพียงบางส่วน แล้วที่สำคัญคือต้องรอเป็นเวลานานเกือบเดือนกว่าจะได้รับเงินของตนเองที่ถูกเรียกเก็บไปก่อนกลับคืนมา
น่าสมเพชคนไทยที่ต้องถูกเอาเปรียบอยู่เป็นประจำทุกวัน แต่ที่น่าทุเรศยิ่งกว่าคือไม่ปรากฏว่าหน่วยงานที่อ้างว่าทำหน้าที่ดูแลและคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในสังคมไทยจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีคำถามฝากถามไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคว่ามีปัญญาหรือไม่กับการจัดการขั้นเด็ดขาดกับบริษัทรับจองตั๋วเครื่องบินทุกแห่งที่มีพฤติกรรมจงใจเอาเปรียบผู้บริโภค มีคำถามว่าการที่ผู้จองตั๋วเครื่องบินสะกดชื่อหรือนามสกุลที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษผิด แม้จะผิดเพียงตัวอักษรเดียว หรือการใส่คำนำหน้านางสาวเป็นนางทั้งๆ ที่ตนเองยังไม่ได้แต่งงาน แต่กลับถูกบริษัทผู้ออกตั๋วเครื่องบินรวมถึงบริษัทสายการบินขูดรีดอย่างซึ่งๆ หน้าเป็นเงินหลักพันถึงหลายๆ พันบาท เป็นประจำทุกครั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทย และสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของไทยไม่มีปัญญาคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคใช่หรือไม่ ถ้าไม่มีปัญญาแก้ปัญหาให้ประชาชน ก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีองค์กรเหล่านี้อีกต่อไป เพราะเสียเงินงบประมาณแผ่นดินโดยเปล่าประโยชน์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี