วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ขอคิดด้วยฅน
ขอคิดด้วยฅน

ขอคิดด้วยฅน

เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
วันจันทร์ ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561, 02.00 น.
อายผีสางเทวดา อายเจ้าป่าเจ้าเขา

ดูทั้งหมด

  •  

มีโอกาสไปสังเกตการณ์ที่ตั้งโครงการก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ ภาค 5 และที่พักของข้าราชการศาลยุติธรรม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งกำลังถูกกล่าวขานในทางเสียๆ หายๆ อยู่ในปัจจุบัน ทำนองว่าไปก่อสร้างเบียดบังพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ และประชาชนบางส่วนเรียกร้องให้คืนพื้นที่กลับไปเป็นป่าดังเดิม

1. ครั้งนี้ แม้ผมไม่มีโอกาสเข้าไปข้างในจุดที่กำลังก่อสร้างอยู่ แต่ได้ไปยืนพินิจพิจารณาจากบริวณถนนด้านหน้าอาคารศาลอุทธรณ์ ภาค 5 ซึ่งอยู่ติดถนนใหญ่ มองทะลุไปด้านหลัง ก็จะเห็นโครงการที่กำลังก่อสร้าง ไต่ระดับเชิงเขาดอยสุเทพขึ้นไป ปรากฏเหมือนรอยแผล หรือป่าแหว่งชัดเจน


เมื่อกลับมารวบรวมข้อมูลและภาพถ่ายปัจจุบัน ทั้งภาพถ่ายทางอากาศ และภาพโครงการที่เพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านนำเสนอ ก็ทำให้ผมมั่นใจที่จะกล่าวได้ว่า โครงการนี้ คือ ความผิดพลาดร้ายแรง

ใกล้ๆ กัน มีสถานที่ราชการและเอกชนจำนวนมาก เช่น วิทยาลัย ค่ายทหาร ฟาร์มม้า ฯลฯ แต่ก็ไม่มีอาคารขนาดใหญ่ที่เพิ่งสร้างล้ำเข้าไปในพื้นที่สีเขียวเชิงดอย

ตัวอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ ภาค 5 เอง ที่ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ด้านหน้านั้น ไม่มีอะไรคาใจ

แต่บ้านพักข้าราชการศาล ส่วนที่ไปก่อสร้างด้านหลัง แหวกเข้าไปในพื้นที่สีเขียวเชิงดอยสุเทพนั่นต่างหาก ที่มองด้วยสายตาวิญญูชนแล้ว จะเห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า ไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง

น่าสงสัยว่า ผู้ที่คิด ตัดสินใจ เริ่มทำโครงการเช่นนี้ ท่านมีรูปการจิตสำนึกเช่นไร?

2. เพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้นำเสนอภาพและรายละเอียดของโครงการนี้ไว้อย่างน่าสนใจ

สรุปความได้ว่า

โครงการแรก คือ โครงการสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ มีทั้งบ้านพักและแฟลต วงเงินงบประมาณ 343,461,000 บาท 
ทำการประกาศประกวดราคาเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ทำสัญญาก่อสร้างเดือนกรกฎาคม 2556

โครงการที่สอง คือ โครงการสร้างบ้านพักผู้พิพากษาและแฟลต งบประมาณ 321,950,000 บาท มีบ้านพักผู้พิพากษา 38 หลัง บ้านพักผู้อำนวยการ 1 หลัง อาคารชุดข้าราชการตุลาการ 16 ยูนิต และอาคารชุดข้าราชการศาลยุติธรรม 36 ยูนิต ประกาศประกวดราคาเดือนกันยายน 2556 ก่อนทำสัญญาวงเงิน 321,670,000 บาท

โครงการที่สาม สร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 งบประมาณ 290,980,000 บาท ประกาศประกวดราคาเดือนมกราคม 2557 ทำสัญญาวงเงิน 290,885,000 บาท

และโครงการที่สี่ ช่วงปี 2559 สร้างอาคารที่ทำการสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 วงเงินสัญญา 61,900,000 บาท

 

 

3. ล่าสุด ท่านประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 นายสวัสดิ์ สุรวัฒนานันท์ ชี้แจงว่า โครงการนี้ดำเนินการใช้พื้นที่อย่างถูกต้อง โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2549 ตามมาตรา 5 พ.ร.บ. ที่ราชพัสดุ ปี 2518 เนื่องจากเป็นที่ราชพัสดุในความครอบครองใช้ประโยชน์ของกองทัพบก ก่อนจะมีประกาศ พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ ปี 2507 อีกทั้งในการก่อสร้างได้เน้นย้ำกับผู้รับเหมาว่าให้เลือกตัดต้นไม้เท่าที่จำเป็น พร้อมเว้นพื้นที่ 58 ไร่ ให้คงสภาพพื้นที่ที่มีต้นไม้อยู่เดิม และเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะทำการปรับภูมิทัศน์เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวต่อไป

นอกจากนี้ เหตุผลที่ใช้พื้นที่นี้ก่อสร้างโครงการที่พักข้าราชการ เพราะเป็นพื้นที่ของทางราชการ ทำให้ไม่ต้องเสียงบประมาณแผ่นดินในการจัดซื้อที่ดิน ซึ่งปัจจุบันมีราคาสูง

4. เพจ ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน ได้มีการนำเสนอข้อมูล “เปิดประวัติที่ราชพัสดุฯ” เป็นบทความของ อ.วิชัย กอสงวนมิตร 
อดีตอาจารย์ประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ระบุถึงความเป็นมาพื้นที่บริเวณดังกล่าวว่า สรุปว่า

เมื่อ พ.ศ. 2500 กรมที่ดินออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง พื้นที่ 23,787 ไร่ ให้แก่กระทรวงกลาโหม เพื่อใช้เป็นที่ผสมม้า รวมเอาพื้นที่บริเวณนี้ และหมู่บ้านราษฎรบางหมู่บ้านเข้าไปด้วย และรวมเอาพื้นที่ป่าหวงห้ามไปด้วยจำนวนมาก

พ.ศ.2507 ประกาศเขตป่าสงวน ไม่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณนี้ รวมทั้งไม่ครอบคลุมน้ำตกแม่สา และป่าไม้อีกจำนวนมากอยู่นอกประกาศ

พ.ศ.2524 ประกาศเขตอุทยานดอยสุเทพ-ปุย ไม่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณนี้ และป่าอีกจำนวนหนึ่ง แต่ครอบคลุมน้ำตกแม่สา และทับที่ราษฎรบางหมู่บ้านในที่ราบที่ไม่ได้เป็นป่า ดังนั้น พื้นที่นี้จึงอยู่นอกเขตป่าไม้และนอกเขตอุทยาน แต่อยู่ในครอบครองของกระทรวงกลาโหม

ปัญหาจึงเกิดมากมาย อาทิ เส้นเขตป่าไม้ เส้นเขตอุทยาน เส้นเขตที่ดินทหาร ไม่ตรงกัน และไม่ตรงกับความจริงที่ราษฎรอยู่มาก่อนประกาศทั้งสามเขต เช่น บางหมู่บ้านที่มีอายุหลายร้อยปี หรือหมู่บ้านชาวเขาเก่าแก่บนดอย

เส้นเขตป่าไม้และอุทยาน ตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ขนาดความหนาเส้นดินสอ มีความกว้างประมาณสี่ร้อยเมตร และส่วนใหญ่ไม่ได้ไปตามสันเขาหรือคลองหรือถนน ทำให้ยากแก่การพิสูจน์ว่าอยู่ในหรือนอกเขต มิหนำซ้ำ หลักหมุดแสดงเขตก็ปักโดยไม่ได้ความแม่นยำ และบางครั้งถูกชาวบ้านแอบย้ายก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ใช้องศาและระยะห่างหมุดอ้างอิงแบบกรมที่ดิน

“หากไม่รีบแก้ไขให้ดี อนาคตป่าไม้จะถูกบุกรุกได้อีกมาก และจะมีความขัดแย้งเพิ่มขึ้นอีกระหว่างทางการกับราษฎร ทั้งที่ต้นเหตุน่าจะเกิดจากการทำงานขาดความรอบคอบในอดีต จนทำให้สามารถสร้างบ้านพักได้ในพื้นที่ที่เห็นชัดว่ายังเป็นป่าสมบูรณ์ ปัญหาอาจไม่ใช่เกิดจากศาล(ผู้ขอใช้พื้นที่) กับกองทัพ(ผู้อนุญาตให้ใช้พื้นที่) แต่ปัญหามาจากใคร ลองพิจารณากันเอง แต่ละคนอาจคิดไม่เหมือนกัน” - วิชัย กอสงวนมิตร

5. ทราบว่า ปัจจุบัน โครงการก่อสร้างคืบหน้าไปมาก จวนแล้วเสร็จ

คาดว่า จะเปิดใช้ได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ผมเชื่อว่า ถึงวันที่เริ่มต้นใช้งาน เริ่มให้ข้าราชการตุลาการ ผู้พิพากษา เข้าไปอยู่อาศัยตามระเบียบราชการปกติ จะเกิดประเด็นวิวาทะกระพือขึ้นมาในสังคมอีกรอบ

อย่างแรกที่ควรทำ คือ นอกจากชี้แจงข้อเท็จจริง (ซึ่งศาลท่านชี้แจงไปหลายรอบแล้ว) หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตพื้นที่คาบเกี่ยวกับป่าเชิงดอยสุเทพ ควรจะต้องทำให้เกิดความชัดเจนได้แล้ว ว่าปัจจุบัน เส้นเขตแดนของเขตอุทยานอยู่ตรงไหน ที่ราชพัสดุเชิงดอยอยู่ตรงไหน ที่ทหารอยู่ตรงไหน เพราะเทคโนโลยีแผนที่ดาวเทียมทุกวันนี้ก้าวหน้าไปมาก และปัจจุบัน ทางการก็กำลังดำเนินการจัดระบบที่ดินทั้งประเทศอยู่ ความชัดเจนในเรื่องนี้ จะนำมาซึ่งความกระจ่างชัดเจนว่า ตรงไหนรุกล้ำ หรือไม่รุกล้ำ จะเป็นประโยชน์กับการจัดการพื้นที่โดยรอบๆ ต่อไปด้วย

ประการต่อมา สมควรจะกำหนดไว้ตายตัวไปเลยว่า ที่ดินราชพัสดุบริเวณรอบเชิงดอยสุเทพ (แม้จะไม่ใช่อุทยาน) ก็ต้องห้ามเข้าไปหักล้างถางป่า ตัดโค่นทำลาย สร้างสิ่งปลูกสร้าง ควรทำเป็นแนวอนุรักษ์ หรือแนวกันชน หน่วยงานราชการ เช่น ทหารที่ดูแลอยู่ จะใช้ประโยชน์ได้ ก็ต้องห้ามมิให้มีการตัดไม้ทำลายป่า ควรส่งเสริมให้ปลูกป่าเพิ่มออกซิเจนแก่เชียงใหม่ เมืองที่มีปัญหาหมอกควันฝุ่นละอองด้วยซ้ำ

ประการต่อมา หากที่ตั้งโครงการนี้ไม่รุกล้ำป่าอุทยาน ก็ยังสมควรจะต้องตรวจสอบย้อนกลับไปถึงกระบวนการพิจารณาอนุญาต อนุมัติ จัดสรรงบประมาณ ว่าดำเนินการอย่างไร เหตุใดจึงปล่อยให้เกิดการก่อสร้างในพื้นที่เช่นนี้ (ไหนผู้อยู่อาศัยจะต้องเสี่ยงต่อไฟป่าลุกลาม ฝุ่นควันคละคลุ้ง อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้)

แม้จะเอาผิดทางกฎหมายไม่ได้ สังคมก็ควรจะได้รู้ความจริง และคนเกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบต่อสังคม

สุดท้าย จะต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ทำมาจวนจะเสร็จแล้วหรือไม่? ก็ขึ้นอยู่กับว่ามีการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่? (อย่างโครงการคลองด่าน ชัดเจนว่าออกโฉนดที่ดินที่ตั้งโครงการโดยมิชอบ) และน่าเสียดายงบประมาณแผ่นดินที่เสียไปแล้วเกือบๆ 400 ล้านบาท (เฉพาะโครงการที่ยื่นเข้าไปในพื้นที่สีเขียว) จะเอาอย่างไร?

หากรื้อถอน คืนพื้นที่เป็นป่าเชิงดอย ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายของแผ่นดินอีก? จะไปเช็คบิลเอากับใคร? คนที่อนุมัติโครงการในยุคโน้น ได้หรือไม่?

หลังจากนี้ไป ผมเห็นใจตัวผู้พิพากษาและข้าราชการที่จะเข้าไปอยู่อาศัย เพราะจะต้องตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งๆ ที่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุมัติให้ก่อสร้าง หรือแม้แต่อนุมัติงบประมาณให้สร้างอาคารบ้านพัก ณ ทำเลตรงนี้

ความรู้สึกของผม เหมือนอาคารบ้านพักชุดนี้ เป็นบ้านผีสิง หรือเปรียบเปรยว่าเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นแล้ว เช่น มีคนผูกคอตาย หรือฆ่าตัวตายยกครัว ฯลฯ แม้จะไม่ผิดกฎหมาย และคนที่เข้าไปอยู่ใหม่อาจไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย แต่กลับต้องรับเอาสิ่งอัปมงคลนั้นไปด้วย

อายผีสางเทวดา อายเจ้าป่าเจ้าเขา

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:34 น. 'อีลอน มัสก์'ประกาศลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล'ทรัมป์'
13:28 น. ‘ชาญชัย’ส่งเอกสารเพิ่ม‘ทักษิณ’นอนชั้น 14 ให้ศาลฎีกาฯ ‘เสรีพิศุทธ์’เชื่อ 13 มิ.ย.ไม่มาชัวร์
13:21 น. เฟ้นหาแชมป์ภาคเหนือ! บาสเกตบอล3X3แชมป์กีฬา7HD
13:09 น. 'เมย์-วิว'ไม่พลาด! 'บาส-เฟม'ชนมือหนึ่งก่อนรองสิงคโปร์ฯ
13:05 น. ‘ธณัชญ์พงศ์’สว.ใหม่รายงานตัว พร้อมปฏิญาณตนก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่
ดูทั้งหมด
‘หมอวี’ฉายภาพระบบสาธารณสุข อีก 3 ปีพัง ‘รักษาฟรี’อาจเหลือแค่ในความทรงจำ
‘เซเลบผ้าท้องถิ่น’จัดหนัก! ถล่ม‘อิ๊งค์’ไร้กาลเทศะ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติการทูต
'อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ'ชี้ ลำดับเหตุการณ์ก็รู้ 'ใครรังแก อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์'
วงการแพทย์ทั่วโลกฮือฮา! ผลวิจัยชี้ยารักษาเบาหวาน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
สะพัด!‘อิ๊งค์’รับมือไม่ไหว รัฐบาลส่อแตกหัก จับตาก่อน 13 มิ.ย.เขี่ยทิ้ง‘ภูมิใจไทย’
ดูทั้งหมด
รัฐบาลโจรปล้นชาติ
หลักความเป็นตัวของตัวเองในเวทีระหว่างประเทศ
สู้ว้อย?
สำนักงานพระคลังข้างที่ สภาผู้แทนมติเอกฉันท์ 454 ต่อ 0 เสียง
บุคคลแนวหน้า : 29 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อีลอน มัสก์'ประกาศลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล'ทรัมป์'

เฟ้นหาแชมป์ภาคเหนือ! บาสเกตบอล3X3แชมป์กีฬา7HD

'เมย์-วิว'ไม่พลาด! 'บาส-เฟม'ชนมือหนึ่งก่อนรองสิงคโปร์ฯ

Synopsis TikTok AR Game #หรือฉันก็เป็นเอเลี่ยน

'​อุ้ม ลักขณา'ไขข้อข้องใจ! ทำไมยังไม่เปิดหน้าแฟนออกสื่อ

จังหวะโบ๊ะบ๊ะ! 'วิโรจน์'หันไมค์มาเข้าทางปาก'ไอซ์ รักชนก'หลุดสบถ'เฮีย' หลังรู้ตัวคนเปิดคลิปเสียงแทรก

  • Breaking News
  • \'อีลอน มัสก์\'ประกาศลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล\'ทรัมป์\' 'อีลอน มัสก์'ประกาศลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล'ทรัมป์'
  • ‘ชาญชัย’ส่งเอกสารเพิ่ม‘ทักษิณ’นอนชั้น 14 ให้ศาลฎีกาฯ ‘เสรีพิศุทธ์’เชื่อ 13 มิ.ย.ไม่มาชัวร์ ‘ชาญชัย’ส่งเอกสารเพิ่ม‘ทักษิณ’นอนชั้น 14 ให้ศาลฎีกาฯ ‘เสรีพิศุทธ์’เชื่อ 13 มิ.ย.ไม่มาชัวร์
  • เฟ้นหาแชมป์ภาคเหนือ! บาสเกตบอล3X3แชมป์กีฬา7HD เฟ้นหาแชมป์ภาคเหนือ! บาสเกตบอล3X3แชมป์กีฬา7HD
  • \'เมย์-วิว\'ไม่พลาด! \'บาส-เฟม\'ชนมือหนึ่งก่อนรองสิงคโปร์ฯ 'เมย์-วิว'ไม่พลาด! 'บาส-เฟม'ชนมือหนึ่งก่อนรองสิงคโปร์ฯ
  • ‘ธณัชญ์พงศ์’สว.ใหม่รายงานตัว พร้อมปฏิญาณตนก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่ ‘ธณัชญ์พงศ์’สว.ใหม่รายงานตัว พร้อมปฏิญาณตนก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

วิกฤติรัฐธรรมนูญ  ใคร พายเรือให้ทหารนั่ง

วิกฤติรัฐธรรมนูญ ใคร พายเรือให้ทหารนั่ง

28 ก.ย. 2563

รัฐธรรมนูญใหม่ ฉบับประชาชน

รัฐธรรมนูญใหม่ ฉบับประชาชน

20 ก.ย. 2563

จดหมายเปิดผนึก  ถึงรมว.กระทรวงพลังงาน

จดหมายเปิดผนึก ถึงรมว.กระทรวงพลังงาน

14 ก.ย. 2563

ดีใจ  คนรุ่นใหม่คิดเป็น

ดีใจ คนรุ่นใหม่คิดเป็น

7 ก.ย. 2563

๙ ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์

๙ ปี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์

31 ส.ค. 2563

ห่วงประเทศ

ห่วงประเทศ

24 ส.ค. 2563

กินและบิณ

กินและบิณ

17 ส.ค. 2563

บ่อนทำลายประเทศไทย

บ่อนทำลายประเทศไทย

10 ส.ค. 2563

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved