ผ่านไปแล้วสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งหนึ่งของราชอาณาจักรกัมพูชาใต้การปกครองของมิสเตอร์ฮุนเซ็นที่มีชื่อเต็มยาวเป็นขบวนรถไฟว่า “จอมพลสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซ็น” ผู้นำทางด้านการเมืองของประเทศเพื่อนบ้านที่แสนสนิทสนมกับอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งของไทยคือ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นอย่างมากและเป็นพิเศษเลยทีเดียวผลการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชาในวันที่ 29 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมานั้นผู้ชนะคือพรรคประชาชนกัมพูชาซึ่งเป็นไปตามคาด
แม้กัมพูชาจะมีพรรคการเมืองฝ่ายค้านก็ตามแต่พรรคที่มีในขณะนี้ล้วนเป็นพรรคที่อ่อนหัดทางการเมืองหรือไม่ก็เป็นพรรคฝ่ายค้านที่ว่ากันว่าสมเด็จฮุนเซ็นตั้งขึ้นมาเพื่อให้การเลือกตั้งทั่วไปแต่ละครั้งดูมีรสชาติและแสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่าพรรคฝ่ายค้านในกัมพูชาก็มีนะไม่ใช่เผด็จการตามที่สื่อสารมวลชนโลกตะวันตกโจมตีรัฐบาลฮุนเซ็นมาโดยตลอดเวลานานนับสิบๆ ปีว่ากัมพูชาเป็นประเทศของตระกูลฮุนของฮุนเซ็น
ปัจจุบันฮุนเซ็นอายุ 67 ปี เขาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ครองอำนาจในการเลือกตั้งถึง 34 ปีเต็มหากเป็นหลังเลือกตั้งเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมต่อยาวไปอีก 5 ปีเขาก็จะเป็นผู้นำที่อยู่นานที่สุดในโลกในยุคนี้คือนานถึง 39 ปี ฮุนเซ็นเป็นชาวหมู่บ้านในตำบลเปียมเกาะสนา อำเภอสะเติงตะราง จังหวัดกำปงจาม ได้เข้าร่วมกับเขมรแดงตั้งแต่วัยรุ่นในฐานะนักต่อสู้กับรัฐบาลกัมพูชาในสมัยจอมพลลอนนอลตั้งแต่มีอายุ 18 ปี โดยผู้นำพรรคเขมรแดงในยุคโน้นมีหลายคน อาทิ
เขียว สัมพัน, เอียง ซารี, พอล พต, เฮง สัมริน,เจีย ซิม, เตีย บันห์ ฯลฯ ปัจจุบันผู้นำเขมรแดงล้มหายตายจากไปแล้วเหลือ 3 คนคือ เจีย ซิม ซึ่งมีบรรดาศักดิ์เป็นสมเด็จอัครมหาธรรมโพธิศาลเจียซิมกับจอมพลสมเด็จอัครมหาพระยาจักรีเฮง สัมริน และพลเอกเตีย บันห์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เดิมฮุนเซ็นนั้นอยู่ในกองทัพเขมรแดงแต่เมื่อเขมรแดงชนะกองทัพรัฐบาลกัมพูชาของจอมพลลอนนอลยึดกรุงพนมเป็ญได้สำเร็จในเดือนพฤษภาคมปี 2518 นั้นฝ่ายฮุนเซ็น, เตีย บันห์, เจีย ซิม, เฮง สัมริน ได้แยกตัวจากฝ่ายเขมรแดงพอล พต, เอียง ซารี และเขียว สัมพันที่เป็นรัฐบาล ซึ่งได้มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ประชาชนคนกัมพูชาฝ่ายขวาไปประมาณ 2 ล้านศพ
ซึ่งยุคนั้นเรียกกันว่าทุ่งสังหารหรือคิลลิ่งฟิลด์ เขมรแดงสาย เฮง สัมริน มีเวียดนามสนับสนุนได้ทำสงครามร่วมกับกองทัพของเขมรฝ่ายสมเด็จพระเจ้านโรดมสีหนุที่สาธารณรัฐประชาชนจีนสนับสนุนเพื่อต่อต้านรัฐบาลเขมรแดงฝ่ายพอล พต, เขียว สัมพัน, เอียง ซารี อยู่หลายปีในระหว่างปี 2520 ถึง 2527 จนฝ่ายเขมรแดงพ่ายแพ้องค์การสหประชาชาติและชาติตะวันตก เช่น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี และญี่ปุ่น ได้เข้ามาจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกในปี 2528
ผลการเลือกตั้งนายจันซีได้เป็นนายกรัฐมนตรีจนถึงปี 2532 จากนั้นมีการเลือกตั้งในปี 2532 ฮุนเซ็นได้เป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับสมเด็จเจ้านโรดมรณฤทธิ์หัวหน้าพรรคฟุนซินเปคในระหว่างปี 2532 ถึงปี 2536 เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งในปี 2536 ฮุนเซ็นก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีร่วมกับสมเด็จเจ้านโรดมรณฤทธิ์ในปี 2536 จนถึงปี 2541
ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2541 ฮุนเซ็นจึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนเดียวโดดๆ ตั้งแต่ปี 2541 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันในปี 2561 รวมระยะเวลา 20 ปีเป็นที่คาดหมายว่าฮุนเซ็นจะเป็นผู้นำรัฐบาลต่ออีกอย่างน้อย 1 สมัย 5 ปีตั้งแต่ปีนี้ 2561 ไปสิ้นสุดในปี 2566 แล้วเขาจะลงจากตำแหน่งมอบหมายให้พลโทฮุนมาเนตบุตรชายคนหนึ่งของเขาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปในฐานะทายาททางด้านการเมืองและหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา
ในฐานะผู้นำกัมพูชาเพียงคนเดียวสื่อตะวันตกได้ระบุว่าเขาคือ คนที่รวยที่สุดในกัมพูชา ที่มีสินทรัพย์มากที่สุดประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 66,000 ล้านบาท และเขามีปริญญาทั้งของมหาวิทยาลัยในกัมพูชาคือมหาวิทยาลัยแห่งชาติกัมพูชาในสาขารัฐศาสตร์แล้วได้รับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ที่เรียกว่า ดุษฎีบัณฑิตจาก 10 มหาวิทยาลัยในประเทศและในต่างประเทศ ซึ่งได้แก่
สถาบันรัฐศาสตร์แห่งชาติกรุงฮานอยเวียดนาม, ครุศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงฮานอย, ครุศาสตร์สาขาบริหารการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา, รัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง, รัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติกัมพูชา, รัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา, นิติศาสตร์วิทยาลัยไอโอว่าเวสเล่ย์แอนคอลเลจของสหรัฐอเมริกา, รัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยไอริชอินเตอร์เนชั่นแนลของยุโรปสาธารณรัฐไอร์แลนด์,รัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยดันกุ๊กของเกาหลีใต้ และรัฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยซุนจุนฮาง กรุงโซล ของเกาหลีใต้
เป็นที่ทราบกันดีว่าฮุนเซ็นมีความสัมพันธ์กับบุคคลในพรรคเพื่อไทยของทักษิณมากมีการเกี่ยวดองทางด้านการสมรสระหว่างลูกๆ ของนักการเมืองของไทยและของกัมพูชาเพราะเขาคือมหามิตรที่สำคัญของระบอบทักษิณโดยแท้
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี