หากเราไม่โกหกตัวเองจนเกินไป เราคงมีความเห็นเหมือนๆ กันว่า ในแวดวงการเมืองที่แสนจะล้าหลังของบ้านเรานั้น ล้วนเต็มไปด้วยคนจำพวกหนึ่งที่อาศัยการมีตำแหน่งแห่งหน และการมีอำนาจรัฐ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง โดยการได้ประโยชน์เหล่านั้นก็ล้วนแต่เป็นประโยชน์ที่ได้มาโดยมิชอบ
ในขณะเดียวกัน ถ้าเราไม่โกหกตัวเองจนเกินไป เราก็จะต้องยอมรับว่าทหารบางกลุ่มบางจำพวกของไทยก็ใช้อำนาจของอาวุธและกำลังพลในกองทัพแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่านักการเมืองทรราช
เพราะฉะนั้น ในอดีตจึงมักปรากฏความจริงเสมอๆ ว่า ถ้าหากรัฐบาลพลเรือนบางชุดเข้าไปล้วงลูกในกิจการที่ทหารอ้างว่าเป็นกิจธุระของพวกตนมากจนทหารรับไม่ได้ เช่น สภาผู้แทนราษฎรตัดงบประมาณทหารมากจนทหารไม่พอใจ หรือถ้าหากทหารรู้สึกว่ากองทัพถูกหยามเกียรติ ก็มักจะเกิดการรัฐประหารตามมา หรือถ้าหากฝ่ายการเมืองที่เป็นพลเรือน หรืออาจจะเป็นทหารด้วยกันเองก็ตาม เข้าไปแทรกแซงทำให้เกิดการแบ่งกลุ่มในหมู่ทหาร โดยใช้รูปแบบการสนับสนุนให้ทหารบางคนได้อำนาจทางการเมืองโดยแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสูงๆ สำคัญๆ โดยไม่คำนึงถึงระเบียบปฏิบัติของกองทัพ หรือสนับสนุนให้ทหารบางรายมีอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างมาก เมื่อมีกรณีเช่นนี้เกิดขึ้น ก็มักจะตามมาด้วยการรัฐประหารในที่สุด รวมถึงความขัดแย้งแตกแยกกันเองในหมู่ทหาร โดยเฉพาะกรณีที่เกิดจากความทะยานอยากส่วนตัวของทหารบางคนที่กระสันในอำนาจและผลประโยชน์ หรืออาจเกิดความผิดหวังในอำนาจและตำแหน่งสำคัญของทหารบางกลุ่ม นี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดรัฐประหารขึ้นมาได้ รวมถึงข้ออ้างเรื่องภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ด้วย
แต่มาระยะหลังๆ ในยุค 30 ปีมานี้ สังคมไทยมักจะพบว่าทหารอ้างสาเหตุของการก่อรัฐประหารว่า รัฐบาลพลเรือนโกงบ้านกินเมือง ไม่สามารถนำพาประเทศให้ดำเนินต่อไปได้โดยสงบ แก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ได้ บ้านเมืองไร้เสถียรภาพ บ้านเมืองเกิดเหตุมิคสัญญีกลียุค รวมถึงมีความพยายามจงใจล่วงละเมิดและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
ในห่วงเวลาเกือบ 2 ทศวรรษมานี้ มีความเป็นจริงปรากฏให้สังคมไทยรับรู้ได้ประการหนึ่งคือ นักการเมืองที่อ้างว่าตนเองได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนให้ขึ้นมาบริหารประเทศมักจะใช้อำนาจรัฐเกินความพอดี ด้วยความหลงทรนงว่าตนเองมาจากการเลือกตั้ง แล้วใช้อำนาจรัฐโดยไม่คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล และมีพฤติกรรมเผด็จการรัฐสภา ใช้อำนาจเสียงข้างมากในสภาพทำนองกฎหมู่เพื่อแก้ไขกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง รวมถึงใช้กลอุบายทุจริตเชิงนโยบายโดยอ้างเสียงข้างมากเป็นเครื่องบังหน้า รัฐบาลทรราชเหล่านี้มิได้คำนึงถึงเสียงคัดค้านทัดทานจากประชาชน แต่ยังคงท้าทายประชาชนว่าตนเองมีสิทธิ์ ทำอะไรก็ได้กับบ้านเมืองนี้ แม้สิ่งนั้นจะไม่ชอบธรรม โดยอ้างว่าตนเองชนะการเลือกตั้ง แถมยังจงใจก่อให้เกิดความแตกแยกบนแผ่นดินอีกด้วย
ประชาชนไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมสามานย์ของรัฐบาลทรราชได้ จึงรวมตัวขับไล่ทรราช แต่ทรราชกลับไม่นำพาเสียงของประชาชน มิหนำซ้ำทรราชยังจงใจทำให้บ้านเมืองเกิดเหตุมิคสัญญีกลียุคจนเลือดนองแผ่นดิน เมื่อเป็นเช่นนี้ประชาชนก็จำเป็นต้องอาศัยกำลังของกองทัพเพื่อกำจัดทรราชให้สิ้นไป แต่ถึงกระนั้น ประชาชนก็มิได้ปรารถนาให้กองทัพขึ้นมามีอำนาจรัฐในฐานะองค์รัฏฐาธิปัตย์ เพียงแค่ต้องการให้ทำหน้าที่กวาดล้างทรราชให้สิ้นซาก แล้วคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกทางเดินของตนเอง แต่ถึงแม้ประชาชนจะบอกว่าไม่ชื่นชมกับการก่อรัฐประหาร แต่ขอให้ทหารโปรดทราบไว้ว่า หากในยามที่บ้านเมืองถึงคราวคับขันไร้ทางออก ประชาชน (บางกลุ่ม) ก็ไม่ปฏิเสธการก่อรัฐประหารเพื่อโค้นล้มทรราช แต่เมื่อโค้นล้มเรียบร้อยแล้ว ทหารก็ต้องไม่เสวยอำนาจรัฐด้วยความตะกละตะกลามเสียเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี