นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ไปเดินเที่ยวเล่นดูแสงสียามราตรีที่ซอยบางลา หาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต แบบชิล ชิล เห็นภาพแล้ว ไม่ต่างจาก“นายกรัฐมนตรีเทวดา”ไปตรวจราชการ เพื่อดูบรรยากาศเมืองท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดที่รัฐบาลชุดนี้โดย“ทักษิณคิด-เศรษฐาทำ”ปักหมุดเป็นตลาดการท่องเที่ยวแหล่งสำคัญที่จะหารายจากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
“ทักษิณ ชินวัตร”แม้จะออกข่าวว่าการเดินทางไปจังหวัดภูเก็ตทริปนี้ระหว่างวันที่ 29 เมษายนจนถึงวันที่ 2 พฤษภาคม ไปเที่ยวเพื่อการพักผ่อน แต่ภาพที่ออกมายิ่งกว่า“พระยาเหยียบเมือง”หัวเมืองภาคใต้ หลังจากไปเหยียบหัวเมืองภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่มาแล้ว เพราะถึงขนาดนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ่อเมืองเจ้าของพื้นที่ยังต้องมาต้อนรับและคอยอำนวยความสะดวกแบบมือกุมเป้า
มิหนำซ้ำ ในขบวนของ“ทักษิณ ชินวัตร”ยังมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ผู้เป็นเจ้าของพรรคชาติพัฒนาตัวจริง ที่เพิ่งจะปลดคำว่า“กล้า”ออกจากสร้อยท้ายชื่อ”พรรคชาติพัฒนากล้า” กลับมาใช้ชื่อเดิมว่า“ชาติพัฒนา” เดินขนาบข้าง ซึ่งนายสุวัจน์นอกจากจะเคยเป็น“ลูกน้องเก่า”ของ“ทักษิณ ชินวัตร”แล้ว ก็ยังจัดว่าเป็นนักการเมืองเก่าแก่ประเภทไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร มีดีเอ็นเอเดียวกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ไม่ถนัดเป็นฝ่ายค้าน แต่ยินดีที่จะเป็นฝ่ายรัฐบาลโดยไม่มีข้อแม้ได้ทุกเมื่อ
ขบวนแห่แหนของ“ทักษิณ ชินวัตร” ในการทัวร์แสงสียามราตรีที่จังหวัดภูเก็ตครั้งนี้ ยังมีน้องสาวคู่บุญ“เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” อดีตเจ้าแม่“กลุ่มวังบัวบาน”ที่เป็นมุ้งการเมืองใหญ่และทรงอำนาจในพรรคไทยรักไทยเมื่อครั้งอดีต และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ สามีเจ๊แดง อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ของประเทศไทย ร่วมติดสอยห้อยตามด้วย
สำหรับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องเขยของ“ทักษิณ ชินวัตร”นั้น ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่า เป็นนายกรัฐมนตรีในจำนวน 30 คนของประเทศนี้ที่ไร้บุญวาสนา ไม่เคยได้เข้าไปนั่งเก้าอี้นายกฯบนตึกไทยคู่ฟ้าซึ่งเป็นห้องทำงานของนายกฯในทำเนียบรัฐบาลแม้แต่นาทีเดียว เพราะถูกประชาชนลุกขึ้นมาประท้วงขับไล่และมีการปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล อันเนื่องมาจากการเป็นนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ของทักษิณ
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้รับเลือกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2551 และต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ด้วยเหตุเพราะพรรคพลังประชาชนที่อวตารมาจากพรรคไทยรักไทยซึ่งนายสมชายรักษาการหัวหน้าพรรค ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค กรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนทุจริตการเลือกตั้ง ส่งผลให้นายสมชายต้องพ้นจากความเป็นนายกฯไปด้วย
รวมเวลาที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในสังกัด“ตระกูลชินวัตร”ที่ถูกโลกลืม และมีบุญวาสนาได้เป็นนายกฯเพราะแรงดลบันดาลของพี่เขย แต่กรรมบังเพราะต้องเป็นสัมภวเสีอยู่นอกทำเนียบรัฐบาล มีโอกาสเป็นนายกฯเพียงแค่ 75 วันเท่านั้น โดยเฉือนสถิติ พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ของประเทศไทย 27 วัน ทั้งนี้ พล.อ.สุจินดา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 48 วัน เป็นนายกฯที่นั่งอยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
หากย้อนดูนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ของทักษิณ ชินวัตร ที่ทักษิณเป็น“ผู้กำหนด”และคอยชักใย 3 คน คือนายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้มีบุตรชายหนึ่งคนแต่ทุกวันนี้ยังใช้นางสาวนำหน้าอยู่นั้น ยิ่งลักษณ์อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด รวมเวลาที่เป็นนายกฯ 2 ปี กับ 275 วัน รองลงมาคือนายสมัคร อยู่ในตำแหน่งนายกฯ 223 วัน โดยอยู่ยาวกว่านายสมชาย 148 วัน
ต้องดูกันต่อไปว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”คนที่ 4 ของนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนายกฯได้เพราะอิทธิฤทธิ์ของทักษิณในการเสกจากพ่อค้าด้านอสังหาริมทรัพย์ให้ขึ้นมานั่งตำแหน่งนี้ จะนั่งอยู่บนเก้าอี้นายกฯได้อีกนานสักกี่มากน้อย
เพราะแค่ 7 เดือนกว่าก็เห็นเป็นประจักษ์แล้วว่า นายเศรษฐา ทวีสิน สอบไม่ผ่าน เป็นได้แค่“แมลงวันตัวหนึ่ง”เท่านั้น ทุกวันนี้ราคาสินค้าข้าวของที่มีความจำเป็นต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะราคาพืชผักผลไม้ หมูเห็ดเป็ดไก่ รวมทั้งไข่และเนื้อ“แพงทั้งแผ่นดิน” ประชาชนล้วนได้รับผลกระทบและเดือดร้อนกันโดยถ้วนหน้า
อีกทั้ง สถานการณ์ในวันนี้เมื่อเทียบกับนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ของทักษิณ ชินวัตร ทั้ง 3 คนดังที่กล่าว ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ในอดีต“ทักษิณ ชินวัตร” คอยชักใย“นายกฯหุ่นเชิด”จากนอกประเทศ แต่ในวันนี้เงื่อนไขเปลี่ยนไป เพราะทักษิณนั่งชักใยและบงการอยู่ในประเทศ แบบ“เรียกได้-สั่งได้” สามารถจะสั่งให้เข้ารายงานข้อราชการตามคำบัญชาเมื่อใดก็ได้ทุกเวลานาที
ขนาดว่าเป็นแค่นักโทษที่อยู่ระหว่างการพักโทษ ยังทำตัวเหมือน“พระยาเหยียบเมือง”ได้ถึงเพียงนี้ และลองนึกภาพดูว่าคนอย่างทักษิณที่มีนิสัยถาวร“ขี้โอ่-อวดฉลาด-อวดเก่ง-ไม่ยอมเป็นรองใคร” และมีความ“อาฆาต-อำมหิต”เป็นเจ้าเรือน จะแสดงอำนาจบาตรใหญ่แค่ไหนเมื่อหลุดจาก“โซ่ตรวน”ของความเป็นนักโทษคดีทุจริต
ในอีกทางหนึ่งไม่เฉพาะแค่เวลาบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่ประชาชนเฝ้าดูอยู่ว่าจะสั้นหรือยาวแค่ไหนเท่านั้น ความวิบัติฉิบหายของตระกูลชินวัตร ก็ยังเป็นที่จับตาของคนไทยด้วยว่า จะมีชะตากรรมเช่นใด
บาปกรรมนั้นมีจริง-ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี