เมื่อวานนี้ 13 พฤษภาคม,..“แพทองโพย”เปิดปากให้สัมภาษณ์เรื่องการ“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”ของบิดา..ที่แพทยสภามีมติเมื่อวันที่..8..พฤษภาคมสัปดาห์ที่แล้ว..ชี้ว่าแพทย์..3..คนที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง..ทำให้อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ..ชินวัตร..ตีตั๋วยาวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจจนครบ..180..วัน..โดยไม่ต้องไปติดคุกในเรือนจำ
การเปิดปากให้สัมภาษณ์เรื่องของบิดาในครั้งนี้..คงเป็นเพราะได้ไปเตี้ยมคำตอบมาแล้ว..เหมือนลอกข้อสอบส่งครู..เพราะก่อนหน้านี้ในวันที่ 9 พฤษภาคม...หลังจากแพทยสภามีมติที่ไม่เป็นคุณกับ“ทักษิณ..ชินวัตร”นั้น..“แพทองโพย”เจ้าของฉายานายกฯไอแพด..ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ..โดยอ้างว่า“ใส่ชุดขาว”.. ซึ่งเป็นชุดที่สวมใส่เข้าร่วม“พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ”..ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
ถ้าจะว่าไป..การปฏิเสธของ“แพทองโพย”ก็ไม่ต่างจากการแถเถือกไปอย่างน้ำขุ่นๆ..เพราะไร้สติปัญญาที่จะตอบแบบ“โกหก”..หรือพลิกลิ้นลื่นไหลไม่ให้เข้าตัว..แต่หลังจากเก็บตัวเงียบทั้งพ่อและลูกหลังแพทยสภามีมติ..โดยผู้ที่เป็นพ่อจนถึงวันนี้ก็ยัง“มุดรู”อยู่ตามภาษาที่ชาวบ้านเขาวิจารณ์..ส่วนลูกคงทำการบ้านจากการซักซ้อมมาเป็นอย่างดีแล้ว..จึงมีความมั่นใจถึงกล้าให้สัมภาษณ์ตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล..จากการแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่..13..พฤษภาคมเมื่อวานนี้
คำตอบแรกของ“แพทองโพย”..เกี่ยวอาการ“ป่วยทิพย์”ของบิดาซึ่งแพยสภาจับผิดได้จนมีมติลงโทษ..3..แพทย์ว่า..“จนถึงขณะนี้..ยังไม่มีแพทยสภาคนใดออกมายืนยันว่า..คุณพ่อป่วยจริงหรือไม่..ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการ..เรายินดีชี้แจงตามข้อเท็จจริง”
ถ้าฟังคำแถลงของ..ศ.เกียรติคุณ..นพ.ประสิทธิ์..วัฒนาภา..อุปนายกแพทยสภา..คนที่ 1..ภายหลังการประชุมแพทยสภาเมื่อวันที่..8..พฤษภาคม..2568..ก็จะพบว่า..“มาดามแพทองโพย”บิดเบือนแบบขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี..ตามรัฐธรรมนูญมาตรา..160..(4)..และ..(5)..คือ..“ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์”..และ“ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง”..เพราะ..นพ.ประสิทธิ์ชี้ว่า..แพทย์ที่มีความผิดนั้น..“ให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง..ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์”
แปลความของ..นพ.ประสิทธิ์..วัฒนาภา..ที่คงไม่ต้องเอ่ยถึงเกียรติภูมิอันเป็นปูมหลังในฐานะครูบาอาจารย์นักศึกษาแพทย์..และแพทย์ผู้ทำการรักษาคนป่วยของท่าน..ก็ย่อมต้องเข้าใจตรงกันว่า..แพทย์ที่ถูกลงโทษ..“ให้ข้อมูลเท็จ”..คือ..ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า“ทักษิณ ชินวัตร”..มีอาการป่วยถึงขั้นวิกฤต..ที่จะต้องอยู่โรงพยาบาลยาวถึง..180..วัน..จนกระทั่งได้รับการพักโทษ
อย่างไรก็ดี..ในความเป็น“นักโทษเทวดา”ของ“ทักษิณ..ชินวัตร”นั้น..ไม่เพียงแต่จะมีอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่นๆ..ซึ่งติดคุกอยู่ในเรือนจำทั่วประเทศเกือบ..3..แสนคนเท่านั้น..แต่ยังทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย..ที่คนไทยทั้งประเทศ..70..ล้านคนต้องเคารพและปฏิบัติตาม..และความไม่เท่าเทียมระหว่างนักโทษด้วยกันนั้น.. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ..(กสม.)..ก็ได้ยื่นคำร้องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน..เพื่อพิจารณายื่นฟ้องศาลปกครอง..ให้เพิกถอนคำสั่ง“ให้เป็นการกระทำที่ใช้บังคับไม่ได้..หรือเป็นโมฆะ”..กรณีเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครส่งตัว“ทักษิณ”ไปรักษาตัวที่ชั้น..14..โรงพยาบาลตำรวจ..นั่นก็คือเพื่อให้ศาลปกครองสั่งให้นำตัวทักษิณกลับไปติดคุก
สำคัญที่สุดก็คือ..หลังจากที่“ทักษิณ ชินวัตร”..ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษ..จาก..8..ปีเหลือ..1..ปี..ก็ยังไม่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ..จากที่ได้ถวายฎีกากราบบังคมทูลว่า..“เคารพในกระบวนการยุติธรรม..ยอมรับผิดในการกระทำ..มีความสำนึกในความผิด..จึงขอรับโทษตามคำพิพากษา”..แต่กลับอาศัยช่องว่างของกฎหมาย..และกฎระเบียบข้อบังคับของกระทรวงยุติธรรม..และกรมราชทัณฑ์..โดยมีข้าราชการกรมราชทัณฑ์..และเจ้าหน้าที่แพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลตำรวจ..เอื้อประโยชน์เพื่อเลี่ยงการต้องถูกคุมขังในเรือนจำจนกระทั่งครบ 180 วัน..ทั้งที่ไม่ได้เจ็บป่วยถึงขั้นวิกฤตจริง
ตามไปดูคำสัมภาษณ์แบบแถเถือกของ“แพทองโพย”เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมวานนี้ต่อ..โดยผู้สื่อข่าวถามว่า..มติของแพทยสภาแม้จะยังไม่มีผลกระทบต่อตัวเธอและบิดาในขณะนี้..แต่แพทย์ที่ทำการรักษาได้รับผลกระทบแล้วทั้ง..3..คน..ซึ่ง“แพทองโพย”ตอบว่า..“ต้องชี้แจงกันต่อไป..แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีผลกระทบ..เพราะกระทบมาตลอดอยู่แล้ว..กระทบมาตั้งแต่มีคำตัดสินให้ติดคุก..กระทบมาตั้งแต่ตอนนั้น..ตรงนี้พูดถึงเรื่องความรู้สึก..ซึ่งรู้สึกมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว..แต่ถามว่าจะทำอะไรได้บ้างตอนนี้..คือเรื่องแรก..ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง ตามหลักฐานและสิ่งที่เกิดขึ้น..ต้องเป็นไปตามนั้น”..พร้อมกันนี้“แพทองโพย”ยังยืนยันด้วยว่า..การเจ็บป่วยของบิดามีหลักฐานชัดเจน..ทั้งจากการป่วยโควิดก่อนเดินทางกลับไทย..รวมถึงประวัติการรักษาที่ต่างประเทศ.โดยระบุว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถตรวจสอบได้ทางการแพทย์
นอกจากนี้..“แพทองโพย”ยังกล่าวต่อแบบชักสีหน้าเหมือนไม่พอใจ..และเพื่อเป็นการปกป้องบิดาของเธอ..โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยยืนเป็นพระอันดับ..ชนิดที่รอลุ้นไปด้วยว่า“คุณหนูนายน้อย”..ทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะพลาดท่าพลาดทีหรือไม่ว่า..“เราชี้แจงข้อเท็จจริงมาตลอด..ถ้าจะมีใครมองว่าเป็นการ‘ป่วยทิพย์’..หรือกล่าวหาอย่างไร..ก็ห้ามไม่ได้..แต่ต้องเข้าใจว่า..การที่คุณพ่ออยู่ชั้น..14..เกิดขึ้นก่อนที่ดิฉันจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี..ไม่มีใครสามารถบิดเบือนเรื่องเวลาได้”
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า..ยังคงยืนยันว่าบิดาของเธอป่วยจริงหรือไม่,..“แพทองโพย”เชิดหน้าจิกตาแบบเอาเรื่องแล้วห่อริมฝีปากก่อนจะตอบว่า..“ใช่ค่ะ..ยืนยันเหมือนเดิม”..และถามผู้สื่อข่าวกลับว่า..“แล้วแพทยสภาเคยพูดหรือยังว่าท่านไม่ได้ป่วย”
ตามไปดูรัฐมนตรีอีก..2..คนที่เป็นตัวละครสำคัญ..ซึ่งเปรียบเหมือนนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมกรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น..14”ของ“นายใหญ่..คือ..พ.ต.อ.ทวี..สอดส่อง..รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม..และนายสมศักดิ์..เทพสุทิน..รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
พ.ต.อ.ทวี..สอดส่อง..ที่มักจะอ้างเสมอว่า..เข้ามาเป็นรัฐมนตรีหลังจาก“ทักษิณ ชินวัตร”ถูกส่งตัวไปพักรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ..กล่าวถึงมติของแพทยสภาว่า..ยังไม่ได้เห็นรายงานมติของแพทยสภาอย่างเป็นทางการ..แต่ยืนยันว่าการรักษาผู้ต้องขังที่มีอาการเจ็บป่วยเฉพาะทาง..เป็นไปตามระเบียบราชทัณฑ์..ซึ่งถ้าหากโรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถรักษาได้..ก็สามารถส่งตัวไปยังโรงพยาบาลภายนอกที่มีศักยภาพ..และในช่วงเวลาดังกล่าว..สถานพยาบาลนั้นยังถือเป็นพื้นที่ควบคุมเช่นเดิม
ขณะที่นายสมศักดิ์..เทพสุทิน..ที่จะมีบทบาทสำคัญต่อมติของแพทยสภา..ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา..กล่าวว่า..ยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจากแพทยสภา..เกี่ยวกับมติลงโทษแพทย์..3..คน..ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา“ทักษิณ ชินวัตร”..และว่าหากได้รับแล้ว..จะดำเนินการตามกรอบเวลา..15..วัน..โดยจะพิจารณาอย่างละเอียดและโปร่งใส
และบรรทัดนี้ต้องบันทึกไว้เป็นระหว่างบรรทัด..เพราะ“สมศักดิ์ เทพสุทิน”กล่าวเหมือนชี้โพรงให้กระรอกว่า..“ถ้าแพทย์ที่ถูกลงโทษร้องขอความเป็นธรรม..ก็จะต้องรับไว้พิจารณา..เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความชัดเจน”..มิหนำซ้ำนายสมศักดิ์ผู้ซึ่งเล่นการเมืองมาตั้งแต่อายุ..26..ปี..กระทั่งวันนี้อายุ..70..ปี..เป็น สส.มาแล้ว..10..สมัย..และเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว..14..ครั้ง..ได้กล่าวย้ำแบบออกตัวว่า..ไม่มีแรงกดดันหรือ“ใบสั่ง”จากฝ่ายการเมือง..หากแต่จะดำเนินการโดยยึดหลักความถูกต้องเป็นหลัก
ปรากฏว่า..ยังไม่ทันสิ้นเสียงของ“สมศักดิ์ เทพสุทิน”..ผู้เปรียบเสมือน“ข้าเก่าเต่าเลี้ยง”ของนายใหญ่แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า..พล.ต.ท.ทวีศิลป์..เวชวิทารณ์..นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ..ซึ่งเป็น..1..ใน..3..แพทย์ที่ถูกลงโทษ..ก็ได้มอบหมายทนายความส่วนตัว..เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายสมศักดิ์ทันทีเมื่อวานนี้
ทั้งนี้..นายกองตรีธนกฤต..จิตรอารีย์รัตน์..ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข..ซึ่งเป็นผู้รับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมจากนายเนติธร..หลินหะตระกูล..ทนายความส่วนตัวของ..พล.ต.ท.ทวีศิลป์..เวชวิทารณ์..แทนนายสมศักดิ์..เทพสุทิน..ชี้แจงว่า..เอกสารร้องขอความเป็นธรรมที่ได้รับมีเนื้อหาหลัก..2..หน้า..โดยเน้นโต้แย้งคำแถลงของ..นพ.ประสิทธิ์..วัฒนาภา..ที่ระบุว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ถึงภาวะวิกฤต..ซึ่งหนังสือร้องขอความเป็นธรรมระบุว่า..การวินิจฉัยในช่วงเวลานั้น..ยืนยันถึงภาวะวิกฤตตามเวชระเบียน..และการที่อาการผู้ป่วยดีขึ้นในภายหลัง..อาจทำให้การพิจารณาของแพทยสภาไม่ครอบคลุมบริบททั้งหมด
ทำไปทำมาเรื่อง“ป่วยทิพย์-ชั้น..14”นี้..เห็นทีว่าคงไม่จบกันง่ายๆ..ยังต้องสู้กันอีกหลายยก..ระหว่าง“ทักษิณ..ชินวัตร”และข้าทาสบริวาร..กับ..“แพทยสภา” !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี