พรรคประชาธิปัตย์ เป็นพรรคเดียวในตอนนี้ที่มีกระบวนการบริหารจัดการภายในพรรคที่เป็น “ประชาธิปไตยที่สุด” ก็ว่าได้ เราจะสามารถเห็นได้จากที่มีการรณรงค์หาสมาชิกพรรคอย่างแข็งขัน มีการเลือกตั้งภายในหัวหน้าพรรคอย่างเข้มข้น และทุกคนทุกฝ่ายมีส่วนร่วมกันจริงจังแบบไม่สามารถมีใคร คนใด คนหนึ่ง มาจูงจมูกพรรคได้ สั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้
ความเป็นพรรคการเมืองแบบนี้หรือไม่ครับ ที่ประเทศของเราต้องการ ประชาธิปัตย์เป็นพรรคเดียวที่พยายามพิสูจน์ตัวเองถึงความเป็น “ประชาธิปไตย” ที่เริ่มต้นจากเนื้อในของพรรคจริง และเริ่มต้นจากสมาชิกทุกฝ่าย ซึ่งก็คือประชาชนทุกคนสามารถมาสมัครเป็นสมาชิกได้ และร่วมกระบวนการต่างๆ ของพรรคได้ เพราะพรรคการเมืองเป็นของประชาชนทุกคน และความเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่มีค่าแค่เพียงแค่วันเลือกตั้งใหญ่เพียงวันเดียว 5 วินาทีที่หย่อนบัตรเลือกตั้งเท่านั้น
ผมขอพาย้อนไปในคำมั่นที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน ได้กล่าวไว้อย่างหนักแน่นในวันเกิดพรรคเมื่อตอนเมษายนของปีนี้ ว่า หลังจากนี้ประชาธิปัตย์จะมีแนวทางอย่างไร ต่อประเทศไทยของเรา
คุณอภิสิทธิ์...กล่าวไว้ดังนี้ครับ
พรรคประชาธิปัตย์ปัจจุบัน คือในวันที่ 6 นี้ จะมีอายุ 72 ปี ซึ่ง 72 ปีที่ผ่านมานั้น อุดมการณ์ของพรรค มีความชัดเจนยืนหยัดไม่เคยเปลี่ยน เราได้มีการต่อสู้กับรูปแบบทุกรูปแบบของเผด็จการ เราปกป้องยึดมั่นประชาธิปไตย ยึดมั่นในเรื่องของระบบนิติรัฐ นิติธรรม ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ได้มีบทบาทในการกอบกู้วิกฤติของชาติหลายครั้ง มีโอกาสทำงานเป็นรัฐบาลที่มีความมุ่งมั่นไม่เพียงแต่แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่วางรากฐานที่สำคัญของสังคมไทย และหลายยุคหลายสมัยก็มีโอกาสทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง ตรวจสอบ รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และของประชาชน
นอกจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์ ได้พัฒนาตนเองมาเป็นสถาบันทางการเมืองอย่างชัดเจน จำนวนสมาชิก 2 ล้าน 5 แสนคน จำนวนสาขาเกือบ 200 สาขาทั่วประเทศ มีระบบการบริหารงานที่สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมในการเลือกประธานกรรมการสาขาพรรค ประธานสาขาพรรค กับผู้แทนราษฎรมาเลือกหัวหน้าพรรค เลือกกรรมการบริหารพรรค มีกระบวนการจัดทำนโยบายที่มีการจัดประชุมร่วมกับประชาชนกับสมาชิกในรูปแบบของสมัชชาประชาชน นี่คือความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ดำรงมา 72 ปี
และในปัจจุบัน พรรคยังมีบทบาทในระดับสากล นั่นก็คือการเป็นสมาชิกขององค์กร Liberal International และ Council of Asian Liberals and Democrats (CALD) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่ก้าวไกลไปกว่าในเรื่องของการทำงานภายในประเทศ บุคลากรของพรรค หลายท่านในอดีตได้ทำงานการเมืองแล้วได้รับการยอมรับจนกระทั่งได้รับการคัดเลือกให้ไปดำรงตำแหน่งในองค์กรระหว่างประเทศ นั่นคือ 72 ปีที่เป็นความภาคภูมิใจของเรา
แต่โลกไม่หยุดอยู่กับที่ และเราต้องยอมรับว่าทุกองค์กรมีความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ กับยุคสมัย กับความเปลี่ยนแปลง แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะมีความมั่นคงในอุดมการณ์ แต่การนำอุดมการณ์นั้นมาปรับแปรเป็นนโยบาย เป็นรูปแบบของการทำงาน ก็ต้องเป็นไปตามสภาวะแวดล้อมของยุคสมัย ซึ่งในปัจจุบันนั้นเราถือว่าขณะนี้มันมีโอกาสใหม่เกิดขึ้น
โอกาสใหม่ที่เกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นจากความเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก โอกาสใหม่ มันเกิดขึ้นเพราะมันมีความท้าทายใหม่ ความท้าทายใหม่ที่ว่านี้มันมีหลายปัจจัยที่ทำให้พรรค ในฐานะองค์กร จะต้องมาพิจารณา
เริ่มตั้งแต่สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้คือการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่เราใช้โทรศัพท์มือถือทำทุกสิ่งทุกอย่างทุกวันนี้ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการทำหลายสิ่งหลายอย่างได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่มันเปลี่ยนแปลงในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างคนในสังคม มันเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในสังคม ซึ่งส่งผลทั้งในด้านเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการเมือง และอื่นๆ อีกมาก
ประชาธิปัตย์ ก็ถือว่าเป็นความท้าทายที่ทำให้พรรคการเมืองนั้นต้องสามารถที่จะปรับตัว แล้วก็มีส่วนในการนำเอาเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมให้ได้ โลกาภิวัตน์พูดกันมาหลายสิบปี แต่นับวันจะเห็นได้ว่า ปัญหาของประเทศชาติไม่สามารถแก้อยู่ในกรอบของภายในประเทศได้ แต่บทบาทในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ ในด้านการเมือง มีส่วนสำคัญทั้งสิ้น จะเห็นว่าปัญหาหลายปัญหาที่ประเทศไทยเผชิญอยู่ในปัจจุบันนั้นก็เกิดขึ้นจากแรงกดดันที่เกิดขึ้นจากภายนอกประเทศ ซึ่งถ้าหากว่าพรรคการเมือง นักการเมือง คนทำงานทางการเมือง ไม่มีความพร้อมในการที่จะรับมือกับสิ่งเหล่านี้ คนไทย ประเทศไทย ก็เสียโอกาส เสียเปรียบ
โครงสร้างเศรษฐกิจปัจจุบันด้วยผลจากทั้งโลกาภิวัตน์ และเทคโนโลยี เกิดความเหลื่อมล้ำสูงมาก ไม่เหมือนในอดีตที่เราคิดว่าเราดูตัวเลขทางเศรษฐกิจในภาพรวมแล้ว ถ้าเราบอกอัตราการเติบโตดี รายได้เฉลี่ยดี แปลว่าทุกคนกำลังมีชีวิตที่ดีขึ้น วันนี้ไม่ใช่ โครงสร้างความเหลื่อมล้ำมันทำให้พรรคการเมืองต้องกลับมาทบทวนว่าการบริหารเศรษฐกิจจะต้องทำอย่างไร
ประเทศไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัย นั่นหมายความว่าเราจะมีสัดส่วนของผู้สูงอายุ เกินร้อยละ 20 เกินร้อยละ 25 ของประชากรทั้งหมดในระยะเวลาอีกไม่ช้า ในขณะที่ต้องยอมรับว่าหลักประกันความมั่นคง สวัสดิการของคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่มี หรือมีก็ดีไม่เพียงพอ นี่ก็เป็นความท้าทายอีกข้อหนึ่ง
ปัญหาโลกร้อน ทรัพยากรเสื่อมโทรม ส่งผลต่อความยั่งยืนในการพัฒนา เหล่านี้คือความท้าทายใหม่ทั้งสิ้น ที่พรรคการเมืองจำเป็นที่จะต้องยอมรับ และหาแนวทาง หาคำตอบให้สังคม และแน่นอนที่สุดมีกติกาใหม่ รัฐธรรมนูญ ทั้งกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งกำลังมากำหนดกติกาใหม่ในส่วนของการเมือง อย่างวันนี้เริ่มต้นจากการที่พรรคการเมืองต่างๆ ต้องมาเริ่มต้นจากการยืนยันสมาชิกกันใหม่ สาขาพรรคทุกสาขาถูกกฎหมายยุบไปแล้วโดยปริยาย อย่างนี้เป็นต้น
รวมทั้งแน่นอน ประชาชนมีความคาดหวังว่า หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า สิ่งที่ประชาชนอยากจะเห็นก็คือ การเมืองไม่กลับไปเป็นแบบเดิม จมอยู่กับวิกฤติ จมอยู่กับความขัดแย้ง และต้องการที่จะเห็นบทบาทของพรรคการเมืองในแนวทางใหม่
ดังนั้นวันนี้สิ่งที่ผมจะนำเสนอก็คือว่า พรรคประชาธิปัตย์กำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่นี้อย่างไร เป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่
ข้อแรก จากปัญหาความขัดแย้ง การต่อสู้ที่ผ่านมา ซึ่งหลายครั้งเป็นการต่อสู้ที่เข้มข้นมาก ทำให้ประชาชนเริ่มมองไม่ออกว่าพรรคการเมืองต่างๆ นั้น ตกลงจุดยืน อุดมการณ์ความชัดเจน มีมากน้อยแค่ไหน ประชาธิปัตย์ยุคใหม่ จึงต้องมีความชัดเจนในอุดมการณ์ประชาธิปไตย เพราะนี่คือการสืบสานอุดมการณ์ของผู้ก่อตั้งพรรคที่กำหนดไว้ตั้ง 72 ปีที่แล้ว และวันนี้รูปแบบที่ประชาชนต้องการจะเห็นก็คือประชาธิปไตยที่มีความโปร่งใส เป็นประชาธิปไตยที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้
ประการที่ 2 วันนี้ประชาชนต้องการที่จะเห็นพรรคการเมืองที่เป็นของสมาชิก หรือของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่ต้องการเห็นการเมืองตกอยู่ในมือของนักการเมืองอยู่เพียงไม่กี่คน พรรคการเมืองที่ดีในยุคสมัยนี้ จึงต้องเป็นพรรคการเมืองที่ให้สมาชิกทั่วๆ ไปสามารถที่จะมีส่วนร่วมได้อย่างกว้างขวาง และต่อเนื่อง
และแน่นอนที่สุด การบริหารจัดการ ต้องมีประสิทธิภาพ ต้องมีความรวดเร็ว เพื่อสามารถที่จะแก้ไขปัญหา ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ นี่คือหลักของการเดินหน้าสร้างประชาธิปัตย์ยุคใหม่
... เราจะมาต่อกับความเข้าใจใน “ประชาธิปัตย์ยุคใหม่” ในคอลัมน์สัปดาห์หน้าในช่วงที่การเลือกหัวหน้าพรรคกำลังเข้มข้นด้วยกันครับ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี