วันศุกร์ ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ที่นี่แนวหน้า
ที่นี่แนวหน้า

ที่นี่แนวหน้า

วิภาวดี หลักสี่
วันเสาร์ ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562, 02.00 น.
ขอ ‘รถโรงเรียนปลอดภัย’ ให้เด็กๆ

ดูทั้งหมด

  •  

“ถนนเมืองไทยอันตรายราวกับสนามรบ” คำกล่าวนี้ยังคงหลอกหลอนสังคมไทย แม้ องค์การอนามัยโลก(WHO) จะเปิดเผยผลจัดอันดับประเทศที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนครั้งล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค. 2561 ซึ่งไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตบนท้องถนนอยู่ที่ 32.7 คนต่อประชากรแสนคน อยู่ในอันดับ 9 ของโลก ถือว่าสถิติลดลงมาจาก ในปี 2558 ครั้งนั้นไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตบนท้องถนนอยู่ที่ 36.2 คนต่อประชากรแสนคน อยู่ในอันดับ 2 ของโลก


อย่างไรก็ตาม “ข่าวร้าย” ยังคงมี นั่นคือ “คนไทยเสียชีวิตจากมอเตอร์ไซค์สูงที่สุดในโลก” ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะมอเตอร์ไซค์คือพาหนะหลักของคนไทย ดังข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ระบุว่านับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติรถจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ปี 2532-สิ้นปี 2561 พบมีมอเตอร์ไซค์จดทะเบียนสะสมทั้งสิ้น 20.8 ล้านคัน และหากดูเฉพาะตลอดปี 2561 เพียงปีเดียว พบมีมอเตอร์ไซค์จดทะเบียนใหม่ราว 1.9 ล้านคัน

ด้วยความที่ “ไทยเป็นประเทศของคนหาเช้ากินค่ำ” จึงไม่ต้องแปลกใจที่มอเตอร์ไซค์จะได้รับความนิยม “ด้วยความที่ระบบขนส่งมวลชนไม่สะดวกโดยเฉพาะตั้งแต่ย่านชานเมืองหลวงไปจนถึงจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ แต่รถยนต์ 4 ล้อ ก็มีราคาแพงเกินรายได้ มอเตอร์ไซค์จึงตอบโจทย์ความจำเป็นได้เป็นอย่างดี” เมื่อประกอบกับ “ภาวะเร่งรีบ” หลายครอบครัวตื่นเช้ามาพ่อแม่ก็ให้ลูกซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่โรงเรียน และถ้าเด็กเริ่มโตตัวสูงสักหน่อยก็เริ่มให้หัดขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียนด้วยตนเอง เด็กไทยจึงใช้ชีวิตบนความเสี่ยงไปโดยปริยาย

นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวในงานเสวนา “ความปลอดภัยในการโดยสารรถจักรยานยนต์ : สิทธิลูกหลานไทยที่ต้องคุ้มครอง” ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าในปี 2559 “คนไทยอายุต่ำกว่า 20 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยเฉลี่ย 10 คน/วัน” โดยร้อยละ 80 มาจากการไม่สวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่หรือโดยสารมอเตอร์ไซค์

และหากเป็น “กลุ่มเด็กเล็ก” ก็ยิ่งน่าห่วง เพราะพบว่า “เด็กเล็กที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของผู้ปกครองก็มีสถิติการสวมหมวกนิรภัยที่ต่ำมากเพียงร้อยละ 7” ซึ่งการเสียชีวิตของเด็กและเยาวชนจากอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ เพราะการขับขี่ไม่ปลอดภัย หรือการไม่ใส่หมวกกันน็อกให้เด็ก ไม่ใช่เพียงภาระหน้าที่ของพ่อแม่ผู้ปกครองในการคุ้มครองบุตรหลาน แต่หน้าที่ที่หน่วยงานของรัฐต้องร่วมรับผิดชอบและให้ความคุ้มครองสิทธิในชีวิตและร่างกายของเด็ก แต่ปัจจุบันยังไม่เห็นว่ามีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง

ขณะที่ รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า “อุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุอันดับ 2 ของการเสียชีวิตในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 10 ปี” รองจากการจมน้ำ และหากเจาะจงไปที่ “กลุ่มเด็กและเยาวชน อายุ 10-18 ปี อุบัติเหตุทางถนนจะเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1”

คุณหมออดิศักดิ์ย้ำว่า ประเทศไทยมี “พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 26 (2)” ที่ระบุว่า “ไม่ว่าเด็กจะยินยอมหรือไม่ ห้ามมิให้ผู้ใดจงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตหรือการรักษาพยาบาลของเด็กที่อยู่ในความดูแลของตนจนน่าเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก” และเนื่องจากการเสียชีวิตของเยาวชนของชาติย่อมสร้างผลกระทบในระยะยาวต่อการพัฒนาประเทศ “รัฐบาลจึงต้องมีนโยบายและการลงทุนในระบบขนส่งสาธารณะที่เพียงพอและปลอดภัย” เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทยไม่ต้องเสี่ยงภัยกับอุบัติเหตุบนท้องถนน

เช่นเดียวกับ สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ อดีตผู้แทนกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่าสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บและล้มตายในเด็ก “นอกจากการไม่เคารพกฎจราจรของผู้ขับขี่แล้ว อีกด้านหนึ่งคือการขาดการวางแผนการเดินทางที่เหมาะสมสำหรับเด็ก” ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครอง แต่รวมถึงสถาบันการศึกษา ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)

ซึ่งหากดูตัวอย่างในต่างประเทศพบว่า “บางประเทศไม่ยอมให้เด็กโดยสารมอเตอร์ไซค์ แต่มีการวางแผนให้เด็กเดินทางจากบ้านไปโรงเรียนด้วยระบบรถโรงเรียนที่ปลอดภัย” ดังนั้นการคุ้มครองเด็กให้รอดพ้นจากอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยเฉพาะการโดยสารมอเตอร์ไซค์ จึงไม่ควรใช้เพียงมาตรการทางกฎหมาย แต่ยังต้องใช้มาตรการเชิงบริหารด้วย อันเป็นงานที่เกี่ยวเนื่องกันหลายฝ่าย ทั้ง อปท. กระทรวงศึกษาธิการ ไปจนถึงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ในมุมหนึ่ง “ประเทศไทยแม้มีกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ขี่มอเตอร์ไซค์ แต่ก็เป็นกฎหมายที่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง” เนื่องด้วยต้องยอมรับ “ไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนสามารถแก้ไขปัญหาระบบขนส่งมวลชนให้ดีขึ้นได้ในระดับพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน” ประชาชนจึงต้องดิ้นรนเสี่ยงชีวิตกันเอง ขณะที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้างาน เข้าใจบริบทสังคมก็ดูจะพลอยเห็นใจชาวบ้าน ถ้าการขับขี่หรือโดยสารไม่อันตรายจนเกินไปก็มักอะลุ้มอล่วยเสมอมา

ก่อนหน้านี้ในเดือนพ.ค. 2561 อรทัย จุลสุวรรณรักษ์ผู้จัดการมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP) ประจำประเทศไทย กล่าวในเวทีเสวนา “นโยบายการจัดการมาตรฐานและความปลอดภัยสำหรับรถรับ-ส่งนักเรียน” ว่าทางออกคือต้อง “ปลดล็อก” ให้ อปท. สามารถใช้งบประมาณเพื่อพัฒนารถโรงเรียนที่ปลอดภัย ซึ่ง อปท. หลายแห่งอย่างทำอยู่แล้วแต่ไม่กล้าเพราะกลัวผิดระเบียบราชการว่าด้วยการใช้งบประมาณ

พร้อมกับย้ำว่า “หากทำให้รถโรงเรียนสะดวกและปลอดภัยในราคาที่ชาวบ้านเข้าถึงได้ ในระยะยาวปัญหาเด็กขี่มอเตอร์ไซค์ก่อนวัยอันควรก็จะลดลงด้วย”ซึ่งหลังจากงานเสวนาไม่นานนัก ทาง AIP ได้ไปยื่นหนังสือขอให้ปลดล็อกเรื่องดังกล่าวต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และต่อมาก็ได้ทราบว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) มีแนวคิดทบทวน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การจัดการรถรับ-ส่งนักเรียนเป็นหน้าที่หนึ่งในการจัดการศึกษา

ไม่แน่ใจว่าขณะนี้เรื่องไปถึงขั้นไหนแล้ว? ถ้ายังไม่แล้วเสร็จก็ขอให้รีบหน่อยเถิด ถือเป็น “ของขวัญวันเด็ก” ประจำปี 2562 นี้ก็ได้ เพื่อให้เด็กไทยไม่ต้องเจ็บ-ตาย-พิการก่อนวัยอันควร!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:12 น. ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม.
21:44 น. มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้
21:34 น. ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา
21:25 น. (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส
21:20 น. ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน
ดูทั้งหมด
'สนามบินเตโช'มีผู้โดยสารเทียบเท่า'สุวรรณภูมิ' 2พ่อลูกตระกูลฮุนยันไม่ได้กู้เงินจีนสร้าง
‘เกาหลีใต้’บอมบ์‘ฮุน มาเนต’กลางวงทูตทั่วโลก หมดสภาพผู้นำ
ลดราคาดีเซล 50 สตางค์/ลิตร-เบนซิน 30 สตางค์/ลิตร มีผลพรุ่งนี้
ฟ้าผ่าบอลไทย! ปลด'อิชิอิ'พ้นกุนซือช้างศึก
ยิปซี 12 นักษัตร พยากรณ์ : ระหว่างวันที่ 19 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
ดูทั้งหมด
บุคคลแนวหน้า : 24 ตุลาคม 2568
ทรัมป์ไม่เหมาะเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพไทย-กัมพูชา
‘คนกับระบบ’
ยำใหญ่‘รัฐบาลหนูชั่วคราว’
ปัญหานักท่องเที่ยวต่างชาติในไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา

(คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส

ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน

'ฮุน มาเนต'บิดเบือน! กต.ยันประชุม JBC ไม่ได้หารือแผนที่ 1:200,000

ร่างตัวประกันชาวไทยที่เสียชีวิตในกาซาถึงไทยแล้ว กต.ร่วมพิธีรับร่าง-ไว้อาลัย

'พลอย เฌอมาลย์'เปิดใจครั้งแรก! ตรวจพบมะเร็งเต้านม น้ำหนักฮวบ13โล-ฉายแสงจนหน้าอกไหม้

  • Breaking News
  • ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม. ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘ฉันทวิชญ์-วีระพงษ์’ คู่สมรสเท่าเทียมคู่แรกใน ครม.
  • มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้ มาตามนัด! ‘สุชาติ-ธนกร’ ได้ฤกษ์ขน สส.ซบภูมิใจไทย เที่ยงตรงพรุ่งนี้
  • ส่งกำลังใจ! \'เต๊ะ ศตวรรษ\'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา ส่งกำลังใจ! 'เต๊ะ ศตวรรษ'แจ้งข่าวป่วยความทรงจำหาย ลืมแม้กระทั่งเลขบนนาฬิกา
  • (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส (คลิป) แนวหน้าTAlk : เศรษฐกิจไทย วิกฤติและโอกาส
  • ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน ย้ำไทยยึดหลักการ 4 ข้อ! รัฐบาลยันประชุม JBC ไม่มีเรื่องมาตราส่วนแผนที่-ปักหมุดเขตแดน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

เปิดประสบการณ์ ‘ฐานการเรียนรู้ทางการแพทย์’ แนะแนวศึกษาต่อสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ’69

18 ต.ค. 2568

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

เสียงจาก ‘ไรเดอร์’ วอนรัฐ ปรับปรุง ‘ระบบ-กฎหมาย’ ก่อนใช้จริง

11 ต.ค. 2568

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

‘fai-fah Art Fest 2025’ นิทรรศการศิลปะ จุดประกายเยาวชน สร้างสิ่งดีๆคืนสู่สังคมไทย

4 ต.ค. 2568

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

ชวน ‘บัณฑิต’ จุฬาฯ ฉลอง แชร์ภาพถ่ายขึ้นจอยักษ์กลางสยาม!

27 ก.ย. 2568

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

‘ดัชนีสุจริตไทย’..น่าห่วง แนะรัฐใช้ ‘MBI’ มั่นใจไทยขึ้นแท่น ‘นวัตกรรมคุณธรรมฯ’ แห่งแรกของโลก

20 ก.ย. 2568

เฉลิมฉลอง 75 ปี ‘Snoopy’ ชมความน่ารักของ ‘เจ้าหมาน้อย’ ในงานนิทรรศการระดับโลก

เฉลิมฉลอง 75 ปี ‘Snoopy’ ชมความน่ารักของ ‘เจ้าหมาน้อย’ ในงานนิทรรศการระดับโลก

13 ก.ย. 2568

‘ILD 2568’ การส่งเสริมการรู้หนังสือในยุคดิจิทัล

‘ILD 2568’ การส่งเสริมการรู้หนังสือในยุคดิจิทัล

6 ก.ย. 2568

​ถ้าจะขับ…‘ห้ามดื่ม’ บทเรียนจากกรณี ‘มารี เบิร์นเนอร์’

​ถ้าจะขับ…‘ห้ามดื่ม’ บทเรียนจากกรณี ‘มารี เบิร์นเนอร์’

30 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved