ได้ชื่อว่า อาจารย์ ต้องเป็นคนที่มีความรู้อุทิศกายและใจ ปลุกปั้นลูกศิษย์ให้เป็นคนดีคนเก่ง และอยากเห็นลูกศิษย์ทุกคนประสบความสำเร็จในชีวิตจริง ในส่วนของตำรวจได้เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอก เข้ามาเป็นตำรวจโดยผ่านการเรียนและฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ จบออกมาเรียนรู้งานและหาประสบการณ์การทำงาน ก่อนเข้าสู่โหมดทำงานจริงแน่นอนว่า มีหลายสิ่งที่จะต้องพบเจอข้างนอก เรียกว่า…วิชานอกตำรา…
ศูนย์ฝึกอบรม (ศฝร.) หน่วยย้อมผ้าสีกากีด่านแรกที่นายสิบตำรวจทุกคนต้องเข้า ช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาได้ปรากฏชื่อ พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ เล็กประดิษฐ์ อาจารย์ (สบ 2) ศฝร.บช.น. ในฐานะอาจารย์สอนนักเรียนนายสิบตำรวจนครบาล ไม่ได้ต่างจากอาจารย์ท่านอื่นแต่แรงจูงใจมาสวม หัวโขน เพราะอยากได้ลูกศิษย์จบออกมาพร้อมด้วยความรอบรู้ทั้งวิชาการ วิธีการ เหลือเพียงประสบการณ์ที่ต้องไปล่าในชีวิตจริง
ก่อนจะมาสอนหนังสือที่ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจนครบาล หลักสูตรนักเรียนนายสิบตำรวจนครบาล เดิมที อ.ทวีทรัพย์ เป็นลูกชาวนาพื้นเพชาวนครสวรรค์ จบ นรต.รุ่น 59 เริ่มทำงานเป็น รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รอง สว.กก.3 บก.สส.ภ.1 ขึ้น สว.สืบสวน สภ.ห้วยงู จ.ชัยนาท สว.ฝ่ายอำนวยการ ภ.จว.อำนาจเจริญ จากนั้นได้รับการประเมินเป็น อาจารย์ (สบ 2) ศฝร.บช.น.
“ผมขอประเมินเข้ามาเป็นอาจารย์ เพราะผมเคยผ่านทั้งงานสอบสวน สืบสวน และงานป้องกันปราบปราม ผมเห็นว่าลูกน้องที่จบมาใหม่ยังทำงานได้ไม่เต็มที่อย่างที่คาดหวัง ทั้งนักเรียนนายสิบหรือนักเรียนนายร้อยเองเขาควรจะเก่งได้กว่านี้ เทียบกับตัวผมเองช่วงจบใหม่ๆ ก็ยังทำงานไม่คล่อง เลยอยากจะอาศัยประสบการณ์เกือบ 10 ปี มาเป็นอาจารย์สอนให้น้องๆ ออกมาทำงานได้เลย”
อ.ทวีทรัพย์กล่าวต่อว่า วิชาที่สอนเป็นวิชากฎหมายเบื้องต้น การสืบสวน และการป้องกันปราบปราม ซึ่งเป็นสายงานที่เคยปฏิบัติมาจริงแต่จะถนัดสืบสวน ส่วนวิชากฎหมายจะเน้นสอนส่วนหลักๆ ที่ตำรวจเราต้องใช้จริง นอกจากนี้ ยังเป็นวิทยากรอบรมให้ข้าราชการตำรวจในสังกัดและข้าราชการอื่น เพื่อให้ความรู้และทบทวนข้อกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงยุทธวิธีและการเจรจาในรูปแบบต่างๆ
โจทย์ใหญ่ของคนเป็นอาจารย์คือทำอย่างไร จะเอาประสบการณ์ของเราไปสอนนักเรียน ไม่ใช่แค่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาแต่นำไปใช้ได้จริง เพราะการสอนตำรวจต่างจากการสอนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย เราสอนให้นักเรียนสามารถปฏิบัติได้จริงโดยมีทฤษฎีควบคู่ไปด้วย
“ไม่มีเทคนิคการสอนใดที่จะทำให้นักเรียนไม่หลับ แต่เทคนิคของผมคือ สอนด้วยประสบการณ์ไม่ใช่วิชาการ ทำให้นักเรียนให้ความสนใจยิ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่รู้และอยากรู้ ดังนั้น สิ่งที่ผมสอนคือสิ่งที่เขาต้องเจอในการทำงานจริง สไตล์การสอนของผมจะครบเครื่อง ทั้งโหด ใจดี เฮฮา บางครั้งผมต้องทุบโต๊ะดังๆ หรือพูดเสียงดังเพื่อกระตุ้น หรือไม่ก็ให้ยืนเรียนกรณีที่เขาหลับ”
อาจารย์วัย 37 ปี บอกว่า ปัจจุบัน นสต.ที่สอบเข้ามาได้จบ ป.ตรี เป็นส่วนมาก ฉะนั้นคนที่จะมาเป็นอาจารย์ได้ต้องรู้จริง ไม่เช่นนั้นเขาก็มองออกและไม่เชื่อมั่นไม่ศรัทธา ผลสุดท้ายคือเขาจะไม่รับฟังเลย ดังนั้น ความคาดหวังของนักเรียนจะสูงมากว่า อาจารย์ต้องเก่ง มีประสบการณ์ และตอบได้ทุกคำถามที่เขาสงสัย ถ้าคนไม่มีความรู้ไม่มีประสบการณ์การทำงานจริงก็จะตอบไม่ได้ เช่น การรับมือกับสถานการณ์จริงว่า ต่างคนต่างสถานการณ์เราต้องรู้ว่าจะรับมืออย่างไร ไม่ใช่ว่าใช้วิธีการเดียวกันกับทุกคนไป
“ผมประทับใจกับคำถามของน้องๆ บางครั้งที่ล้ำมาก เช่น การจับคนร้ายได้จากรูปถ่ายใบเดียว ซึ่งผมคิดได้ 2 แบบคือ วิธีการสอนทำให้เด็กตั้งใจฟังแล้วเขาคิดตาม หรือเป็นคำถามที่ไม่คิดว่านักเรียนจะมีได้ เพราะควรเป็นคำถามที่ถามจากคนมีประสบการณ์ในการทำงานจริงมาแล้ว ซึ่งเป็นคำถามที่ท้าทายมาก”
ตนคาดหวังให้นักเรียนที่จบออกมาแล้วทำงานได้จริง แต่อาจจะยังขาดประสบการณ์ส่วนวิธีการควรได้รู้หมดแล้ว เพราะในอนาคตพวกเขาคือผู้ใต้บังคับบัญชาของตน ใครๆ ก็อยากมีลูกน้องที่ทำงานได้เลยไม่ต้องเริ่มฝึกใหม่ ส่วนตนเองได้พยายามสอนให้เข้าใจง่ายที่สุด และเชื่อว่าอาจารย์ทุกท่านหวังดี มีความตั้งใจอยากเห็นลูกศิษย์เป็นตำรวจที่ดีมีประสิทธิภาพ
พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ทิ้งท้ายว่า ตนมองว่าคงเป็นอาจารย์อีกสัก 2 ปี หลังจากนั้นจะขอออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ภายนอก เพราะอาชญากรรมภายนอกมีเทคนิควิธี และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าไปเรื่อยๆ หากเราไม่ได้ออกไปหาประสบการณ์เพิ่มเติม เราก็คงสอนได้แต่เรื่องเดิมๆ เทคนิคเดิมๆ ที่ล้าสมัย จึงหาโอกาสออกไปเพิ่มพูนประสบการณ์ของตัวเอง และหากมีโอกาสก็อาจกลับเข้ามาถ่ายทอดประสบการณ์ให้น้องๆ ต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี