หนังสือพิมพ์แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...

nn ในที่สุด7 เสือกกต.ก็ตัดสินใจ “ลุยไฟ” ด้วยการใช้สูตรกรรมการร่างชุดมีชัย ฤชุพันธุ์ คิดคำนวณสส.บัญชีรายชื่อ แจกพรรคเล็ก รวมพรรคที่ได้สส.บัญชีรายชื่อ 26 พรรค นับว่ากกต.อาจหาญชาญชัยมาก ไม่กลัวกระทั่งเสียงขู่ว่าจะดำเนินคดีกับ กกต. ...

nn “เสือไท” บอกตามตรง การที่ 7 เสือกกต. ตัดสินใจเช่นนี้ คงเพราะได้รับการ “การันตี” จากผู้มีอำนาจแล้วมั้งว่า หากมีอะไรเกิดขึ้น กกต. จะไม่ติดคุก ซึ่งผู้มีอำนาจ ไม่รู้จะมีอำนาจจริงหรือไม่ ที่จะสั่งศาลได้ หากคดีไปถึงศาล มาถึงวันนี้ 7 เสือกกต. ต้องจำใจใช้สูตรนี้เพื่อเอื้อพรรคเล็ก...

nn การที่ 7 เสือกกต.ทำแบบนี้ ไม่ยอมใช้สูตรท่ีใครต่อใครบอกว่าคือสูตรที่ถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้งสส.มาตรา 128 และรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 ที่จะมีพรรคการเมืองแค่ 15 พรรคที่ได้สส.บัญชีรายชื่อ ส่วนพรรคการเมืองที่ได้คะแนนต่ำกว่า 71,065 คะแนน จะไม่ได้สส.บัญชีรายชื่อเลย 7 เสือกกต.อาจจะมองว่า หากทำแบบนี้จะทำให้จำนวนเสียงของฝ่ายการเมืองแต่ละขั้วมันก้ำกึ่งกัน ขั้วเพื่อไทยใกล้ๆ 250 เสียง พอๆ กับขั้วพลังประชารัฐ จะทำให้การเมืองถึงทางตัน เดินหน้าต่อไม่ได้เพราะเลือกประธานสภาไม่ได้ ตั้งรัฐบาลไม่ได้เสียงไม่ถึง บ้านเมืองจะเดินถอยหลัง...

nn ดังนั้น 7 เสือกกต.เลยผ่าทางตัน หาทางออกให้ประเทศ ด้วยการใช้สูตรเอื้อพรรคเล็กไปประมาณ 12 เสียง และทำให้พรรคเล็กพรรคละเสียง เข้าร่วมรัฐบาลกับ ขั้วพลังประชารัฐจะทำให้ขั้วนี้มีสส. 254 คน เกินกึ่งหนึ่งเดินหน้าตั้งรัฐบาลได้ การเมืองจะไม่ได้ติดในหล่มอีกต่อไป นี่มองในเจตนาดี...

nn แต่ฝั่งเพื่อไทย-อนาคตใหม่ แฝดพี่แฝดน้องนี่ ยังไงเขาไม่พอใจอยู่แล้ว เพราะสูตรนี้ทำให้จำนวนเสียงของเขาลดลง ขณะที่เสียงสส.ไปเพิ่มให้กับขั้วตรงข้าม ก็คงต้องพิสูจน์กันในชั้นศาลเพราะ เพื่อไทย-อนาคตใหม่ ประกาศจะเอากกต.เข้าคุกให้ได้...

nn มันก็แปลกดี เพราะขณะที่ กกต. ยังไม่ประกาศการคำนวณสูตรสส.บัญชีรายชื่อออกมา แต่ว่าขั้วพลังประชารัฐ ให้ข่าวแล้วว่ามีเสียงเกิน 250 เสียงเสมือนมี “จิต” พิเศษ มี “ญาณทิพย์” รู้ล่วงหน้าว่า กกต.จะคิดคำนวณสส.เอื้อกับขั้วพลังประชารัฐ...

nn ไม่เท่านั้น ยังมีการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันอีกต่างหาก ว่าพรรคไหนจะได้เท่าไหร่ และยังนำจำนวนสส. 52 เก้าอี้ของพรรคประชาธิปัตย์ ไปนับรวมกับรัฐบาลด้วย นับไปนับมารัฐบาลผสมมีทั้งสิ้น 20 พรรค ซึ่งเยอะที่สุดนับแต่มีประเทศไทยมา...

nn แปลกอีกเรื่องคือประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้ประชุม ยังไม่ได้มีมติพรรค ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐ เพราะต้องรอการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค เลขาฯและกรรมการบริหารชุดใหม่เสียก่อน ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ แต่ คนของ พปชร. กลับนำชื่อพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลแล้ว แถมแบ่งเค้กรัฐมนตรีให้ 6 เก้าอี้อีกต่างหาก...

nn เรียกว่าอ่อยขนาดนี้ ยังใจแข็งให้มันรู้ไป ตอนแรก “เสือไท”ได้ข่าววงในว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์, กรณ์จาติกวณิช, อภิรักษ์ โกษะโยธิน จะอยู่สังกัดค่าย “ไม่ร่วม” มีเพียง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่มาลงสมัครหัวหน้าพรรคเพื่อร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะนี่คือสายตรง “เทพเทือก” สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่หนุน บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ฉะนั้น พีระพันธุ์ จึงเท่ากับเป็นสายตรงบิ๊กตู่ ที่ได้รับการยืนยันจาก ตึกไทยคู่ฟ้าแล้วว่า เอาพีระพันธ์ ที่เหลือไม่เอา แต่ตอนหลังเห็นมีกลับลำหลายคน ว่าจะเข้าร่วมรัฐบาล งานนี้เดิมพัน “อนาคต”ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอดีตผู้นำอย่าง อภิสิทธิ์เวชชาชีวะ ประกาศไม่เอา บิ๊กตู่ ไม่หนุนสืบทอดอำนาจ เมื่ออุดมการณ์พรรคเป็นแบบนี้ หากใครฝืนเข้าร่วมรัฐบาล ก็จะเสียสัตย์ อาจจะทำให้คะแนน 6 ล้านเสียง ที่ได้มา ลดน้อยกว่าเดิมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะเดียวกัน หากการเป็น“ฝ่ายค้านอิสระ” ไม่ร่วมหนุน บิ๊กตู่ ก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ว่า คะแนน 6 ล้านเสียง จะเพิ่มหรือจะลดลง ยามนี้ ประชาธิปัตย์ จึงอยู่ในภาวะเขาควายออกทางไหนมีแต่เจ๊งอย่างเดียว ดีไม่ดี พลังประชารัฐอาจไม่แฮปปี้หากมี “งูเห่า” ในประชาธิปัตย์ที่ไม่อยากร่วมแล้วทำตัวเป็น “หอกข้างแคร่”หรือเป็น “ฝ่ายค้านในรัฐบาล” ก็ยิ่งจะทำให้อายุรัฐบาลผสมสั้นลง...เอวัง...

nn อลงกรณ์ พลบุตรประธานพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตร-ธิดา สมาชิกชมรมช่างภาพการเมือง ประจำปีการศึกษา 2562ในวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2562 เวลา 09.00 น.ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ อาคาร 2 ชั้น 8มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี ถ.อิสรภาพ กรุงเทพฯ...nn

เสือไท